|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เชอร์วู้ด เคมิคอล ปรับเป้าหมายอัตราการขยายตัวใหม่เหลือ 7-8% จากเดิมตั้งไว้ 15% หลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซา และราคาน้ำมันผันผวน พร้อมยืนยันจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ขณะที่แผนปีหน้ายังคงเป้าเติบโต 15% และเบนเข็มสู่ธุรกิจเคมีเกษตร ด้านผู้บริหาร เผยเตรียมแผนศึกษาลุยธุรกิจในตลาดต่างประเทศภายใน 4-5 ปีข้างหน้า
นายวรสิทธิ์ เคหะเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชอร์วู้ด เคมิคอล จำกัด(มหาชน) (SWC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส สุดท้ายของบริษัทค่อนข้างเงียบ คาดว่าผลงานอาจออกมาไม่ดีนักในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผลงานทั้งปี 2548 ต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ที่ 15% เหลือประมาณ 7-8% เท่านั้น
"ยอมรับว่าเราได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ผันผวน และเหตุการณ์หลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต แต่ขณะนี้น้ำมันเริ่มทรงตัวแล้ว ผมเชื่อว่าปีหน้าคงไม่มี ปัจจัยหลายอย่างมารุมเร้าเหมือนปีนี้ แต่ปีนี้เราก็ยังสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของเราเหมือนที่ผ่านมาได้" นายวรสิทธิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม swc ได้ปรับราคาขายสินค้าขึ้นไป 5% หลังพบว่าราคาวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และการปรับราคาแต่ละครั้งก็ทำไม่ได้ง่ายนัก
สำหรับแผนงานในปี49 ว่าบริษัทยังคงตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ระดับ 15% แม้ปี 48 บริษัทจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมัน และต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งแพกเกจจิ้ง และอื่นๆ แต่เชื่อว่าปีหน้าภาวการณ์เหมือนปีนี้น่าจะหมดไปแล้ว
โดยปี 49 SWC จะเบนเข็มสู่ ธุรกิจเคมีเกษตรมากขึ้น กล่าวคือสาร กำจัดแมลง กำจัดเพลี้ย ซึ่งบริษัทจะใช้เงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงานในการลงทุน คาดว่าปีหน้ารายได้ จากธุรกิจเคมีเกษตรจะเพิ่มขึ้นไปที่ 15 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมของบริษัทจะมีประมาณ 650 ล้านบาท และกำไรก็น่าจะดีกว่าปีนี้ด้วย เพราะเชื่อว่าผลกระทบที่จะเกิดจากปัจจัยภายนอกน่าจะไม่มากเหมือนเช่นปีนี้
นอกจากนี้ SWC ยังเล็งที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศด้วย หลังจากที่นำสินค้าไปจำหน่ายแค่ประเทศเพื่อนบ้านแถบชายแดนเท่านั้น แต่ยังไม่เข้าไปตั้งร้านจำหน่ายอย่างเป็น ทางการ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้าน ข้อกฎหมายไม่ชัดเจน การจดทะเบียน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในหลายขั้นตอนและความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้วย
หากจะมีการจัดตั้งบริษัทหรือตัวแทนจำหน่าย SWC เล็งที่จะเข้า ไปลงทุนในประเทศที่พัฒนาแล้ว มีความแน่นอนในเรื่องกฎหมายการลงทุน โดยตั้งเป้าว่าอาจในช่วง 4-5 ปี ข้างหน้า ที่จะลุยตลาดต่างประเทศอย่างเป็นทางการ แต่ก็ต้องพิจารณาความเสี่ยงในการลงทุนด้วยว่าจะคุ้มทุนหรือเสี่ยงมากน้อยเพียงใด
นายวรสิทธิ์กล่าวถึงการใช้เงินทุนว่า ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะปัจจุบันการขยายงานบริษัทเน้นที่การใช้ทุนหมุนเวียนและอาจมีกู้บ้างเล็กน้อย แต่ก็น้อยมาก ขณะที่อัตรา ส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E RATIO) ของบริษัทอยู่ที่ 0.13 เท่า
ก่อนหน้านี้นายวรสิทธิ์กล่าวไว้ว่าผลงานที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้วหรืออาจลดลงบ้างนั้นน่าจะเป็นไปตามนั้น แต่แผนการกำลังการผลิต ด้วยการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 6 นั้น จะเริ่มได้ในปี49 หลังจากที่ชะลอการลงทุนเนื่องจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ แต่โครงการนี้จะเริ่มได้ในปีหน้า โดยจะใช้เงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงาน และก็สถาบันการเงินบางส่วนประมาณ 40-50 ล้านบาท ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจ ชะลอตัว และการเน้นหันมาลดความเสี่ยงจากการลงทุนในปัจจุบัน ทำให้ SWC สนใจการร่วมลงทุนกับพันธมิตรในการทำธุรกิจ แต่ก็เป็นเพียง การเริ่มต้นเท่านั้น อาจเป็นการซื้อ ไลเซนส์จากแบรนด์ต่างประเทศ หรืออื่นๆ เพราะมีหลายวิธีการ แต่เป็นเพียง การศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม SWC ก็ยังได้รับผลดีจากการจ่ายภาษีลดลงจากเดิม เนื่องจากบริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai นั้น บริษัทจึงได้รับผลดีอีกทางหนึ่งด้วยส่วนรายได้ของ SWC มาจากผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง 60% รักษาเนื้อไม้ 20% แชมพูสุนัข 10% ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 10%
|
|
|
|
|