|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเราเห็นภาพการปรับตัวของผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดต้นทุนการดำเนินงานแทนการขึ้นราคาขายบ้าน ซึ่งเป็นทางแก้ไขที่ค่อนข้างเป็นไปได้ยากในช่วงตลาดมีการแข่งขันสูง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการชะลอตัวของตลาดบ้านจัดสรรระดับบนที่มีราคาขายต่อยูนิตตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากผู้บริโภคระดับกลาง-บนซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักชะลอการใช้จ่าย เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่ในทางตรงกันข้ามตลาดบ้านระดับราคา 2-5 ล้านบาทต่อยูนิตกลับมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่างยังมีกำลังซื้อ และเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง
ภาวะการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นอันสืบเนื่องมาจากปัจจัยลบจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก สร้างอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจให้กับทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจึงขึ้นอยู่กับมาตรการปรับตัวของผู้ประกอบการ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
พงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 49 ว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัว 5-10% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในแถบภูมิภาค โดยเฉพาะ พัทยา ศรีราชา และภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดอสังหาฯ ที่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติซึ่งมีกำลังซื้อสูง
ทั้งนี้คาดว่าโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นในปีหน้าจะมีจำนวนไม่มากนัก เพราะสถาบันการเงินให้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อจะใช้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ในฐานะผู้ให้กู้จะเลือกผู้ประกอบการ ที่มีคุณภาพและมีประวัติที่ดี แต่โอกาสที่จะเกิดผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาดก็ยังมีความเป็นไปได้ โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทนิคมอุตสาหกรรม
วสันต์ คงจันทร์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์เรียล เอสเตท แอฟแฟร์ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าคาดว่าจะมีโครงการใหม่เปิดการขายไม่ต่ำกว่า 43,200 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 126,000 ล้านบาท โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ล้านบาทต่อยูนิต และเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคซื้อบ้านในราคาที่ถูกลง ในขณะที่ผู้ประกอบการก็ปรับนโยบายการทำตลาดโดยปรับลดขนาดที่อยู่อาศัยลง เพื่อให้เหมาะสมกับราคาขายและความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค
กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ้งสาเหตุสำคัญขึ้นอยู่กับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ธนาคารแห่งประเทศต้องขึ้นดอกเบี้ยอาร์พี และลดสภาพคล่องตลาด เพื่อชะลอเศรษฐกิจ และแรงกดอันเงินเฟ้อ ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อไทยยังสูงกว่าคู่ค้าจากต่างประเทศ ดอกเบี้ยจะขึ้นต่อไป ต่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงไปใกล้เคียงกับคู่ค้าต่างประเทศ เชื่อว่าดอกเบี้ยจึงจะลดลง
|
|
|
|
|