|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์กรุงเทพ เผยเศรษฐกิจไทยปี 49 ชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก คาด GDP ที่ 4-4.5% ขณะที่การส่งออกโต 11% แต่ยังขาดดุลการค้า 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้าน บล.บัวหลวง คาดดัชนีฯปีหน้าที่ 750 จุด แนะหุ้นเก็งกำไร ช.การช่าง-ไอทีวี-ศุภาลัย-ทีทีแอนด์ที
วานนี้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวงจำกัด (มหาชน) หรือ BLS จัดสัมมนา "หุ้นปีจอ ธาตุดิน หุ้นหิน จริงหรือไม่”
นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังษี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ มหภาค ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2549 จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นหลักโดยจะมีอัตราการชะลอตัว จากการใช้จ่ายของที่น้อยลง จากที่มีภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจจะมีปัญหาเรื่องของภาวะฟองสบู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯในกลางปีหน้า ซึ่งหากมีปัญหา ดังกล่าวสหรัฐอเมริกาคงจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
รวมถึงจะต้องติดตามในเรื่อง เศรษฐกิจจีน ในปี 2550 ซึ่งจะมีการชะลอตัว เนื่องจากการลงทุนในภาคเอกชนของจีนถึงจุดสูงสุด ซึ่งจีนจะหันมากระตุ้นการใช้จ่ายของภาคเอกชนมากขึ้น เพราะจีนมีฐานการออมถึง 50% ก็จะสามารถ กระตุ้นได้
ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการเติบโต 4-4.5% ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยจากเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอตัว แต่ในด้านโครงสร้างของประเทศไทยถือว่ามีความแข็งแรงดี ซึ่งการลงทุนในภาคเอกชน ก็เริ่มเข้าสู่ภาวะ ปกติ ซึ่งจะโต 8-9% จากการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์)ซึ่งจะเกิดในช่วงครึ่งปีหลังอย่างน้อยหนึ่งโครงการคือ โครงการระบบขนส่งมวลชน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการส่งออกจะมีการเติบโตที่ 11% การนำเข้าโต 10% ซึ่งไทยจะมีการขาดดุลการค้า 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมองอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 4-4.2% จากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวลดลง ก็จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงเช่นกัน และคาดอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีกอยู่ที่ 4.50% ซึ่งจะมีการปรับขึ้นอีก 0.25% หลังจากนั้นคาดว่า เฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ย
นายสุเมธ จันทราสุริยารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์ และงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS กล่าวว่า บริษัทคาดดัชนีฯเฉลี่ยที่ 750 จุด ซึ่งรวมการที่หุ้น กฟผ. และเบียร์ช้าง เข้าตลท. โดยจะแกว่งตัวในกรอบ 716-796 จุด โดยจะมีค่า P/E ที่ 9-10 เท่า เนื่องจากคาดว่าการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนจะโต 3.5% ใน 100 บริษัทที่ บล.บัวหลวงมีการประเมินไว้ โดยคาดว่าดัชนีฯปีนี้จะอยู่ที่ 720 จุด
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดหุ้น การผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล และเศรษฐกิจไทยก็มีการเติบโตที่ดี จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และจากราคาน้ำมันที่มีการทรงตัว
สำหรับหุ้นเก็งกำไรปีหน้า คือ 1. บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV เนื่องจาก การบริโภคของ ประชาชนดีขึ้น หลังจากที่มีการปรับราคาสินค้าจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และจากที่จะมีการแข่งขันในเรื่อง 3 จี ซึ่งงบการการโฆษณาก็จะมาที่ ITV ก็จะทำให้มีกำไรดีขึ้น 2. บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จากยอดขายคอนโดฯที่จะทำให้มีกำไรโตมากขึ้น 3. บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T 4. บริษัทช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK
|
|
|
|
|