Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 ธันวาคม 2548
ธปท.-ทีดีอาร์ไอหนุนใช้บัตร รองรับ"ศก.-การเงิน"ซับซ้อน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
สว่างจิตต์ จัยวัฒน์
Financing




แบงก์ชาติร่วมกับทีดีอาร์ไอ วิจัยโครงการผลักดันการ ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ แทนการใช้เงินสดและเช็ค เหตุมีความสะดวกรวดเร็ว เพื่อรองรับเศรษฐกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น ระบุต้นปี 2549 แบงก์พาณิชย์จะขึ้นค่าธรรมเนียมในการใช้เช็ค และลดค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม เผยอนาคตวางแผนจับมือกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนโอนเงินข้ามประเทศ

วานนี้ (21 ธ.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดสัมมนาระบบการชำระเงินประจำปี 2548 ในหัวข้อ "กลยุทธ์ส่งเสริมการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทดแทนเช็คและเงินสด" ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ โดยมีนางสว่างจิตต์ จัยวัฒน์ รองผู้ว่าการด้านบริหาร ธปท. กล่าวเปิดงานสัมมนา

นางสว่างจิตต์ กล่าวว่า เงินสดและเช็คมีบทบาทสำคัญในฐานะสื่อกลางของการโอนเงินและการชำระเงินภายในประเทศมาก แต่สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนไป เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีความ ซับซ้อนมากขึ้น การโอนเงินและชำระเงินจึงต้องมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ดังกล่าวจึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะช่วยพัฒนาระบบชำระเงินในประเทศให้มีประสิทธิภาพมาก ยิ่งขึ้น ซึ่งการชำระเงินด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางหนึ่งที่มีความสะดวกรวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายในการให้บริการที่ต่ำกว่าซึ่งเป็นการลดต้นทุนของประเทศ

"ตอนนี้ยังมีบางกลุ่มที่นิยมใช้เงินสดและเช็คกันอยู่มาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีปัญหาการขาดเอกสารที่ใช้รองรับการทำธุรกรรม เช่น ใบเสร็จรับเงิน ปัญหาค่าบริการที่ถูกมองว่าสูงเกินไป และผู้ใช้บริการบางส่วนเห็น ว่าการบริการอิเล็กทรอนิกส์ยังขาด ความสะดวกในการใช้งาน และไม่ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้จริง รวมทั้งยังคุ้นเคยกับระบบการชำระเงินสดแบบเดิมๆ" นางสว่างจิตต์ กล่าว

ทั้งนี้การที่ ธปท.ต้องการส่งเสริมการใช้สื่อการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ทดแทนเงินสดและเช็ค จึงได้ร่วมกับสถาบันวิจัย เพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ทำการวิจัยโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อนำมาวางแผนและผลักดันให้มีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้น และเพื่อลดการใช้สื่อชำระเงินที่เป็นเช็คและเงินสดของประชาชน หน่วยธุรกิจ องค์กรภาครัฐ โดยสนับสนุนให้ใช้สื่ออื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยเฉพาะสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเป็น การพัฒนาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการใช้สื่อทดแทนเงินสดและเช็ค

นายสายัณห์ ปริวัตร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายระบบชำระเงิน ธปท.กล่าวว่า ในช่วงต้นปี 2549 ธนาคารพาณิชย์จะประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้เช็ค โดยปัจจุบันนี้ค่าธรรมเนียมในการใช้เช็คจะอยู่ที่ 5 บาทต่อฉบับ ซึ่งการปรับขึ้นค่าธรรมเนียม เพื่อลดการใช้เช็คให้น้อยลง และเป็นการลดต้นทุนในการใช้เช็ค ขณะเดียวกันก็จะมีการลดค่าธรรมเนียมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ลดค่าธรรมเนียมในการโอนเงินผ่านบัตรเอทีเอ็มระหว่างธนาคาร จากปัจจุบันนี้ที่ธนาคารพาณิชย์คิดค่าธรรมเนียมการโอนต่อรายการ 35 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บได้อีกเล็กน้อย

อีกทั้งจะมีการพัฒนา ระบบใหม่ที่เรียกว่า ITMX ในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน 2549 ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบมาจากระบบ ATM POOL เดิม เช่น การโอนเงินเดือน ซึ่งปัจจุบันจะต้องมีการเปิดบัญชีของธนาคารที่จะโอนเข้า แต่ต่อไปหากพัฒนาระบบนี้สำเร็จก็สามารถเปิดบัญชีกับธนาคารไหนก็ได้

นอกจากนี้ การพัฒนาระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในระยะต่อไป ประเทศไทยจะร่วมมือกับ ประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียน หรือ Asian Pay ในด้านการโอนเงินข้ามประเทศ ซึ่งช่วงแรกจะเริ่มจาก 4 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยจะเริ่มใช้บัตร เอทีเอ็มโอนเงินข้ามประเทศ ส่วนประเทศแรกที่ไทยจะเริ่มทดลองในต้นปีหน้า คือ มาเลเซีย ซึ่งคนไทยสามารถกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มที่ประเทศมาเลเซียได้เลยโดยเงินออกมาเป็นสกุลท้องถิ่นริงกิต และใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้น แต่เวลาตัดบัญชีจะคิดเป็นเงินบาทของไทย ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศ และหากทดลอง ใช้แล้วไม่มีปัญหา ก็จะขยายไปยังประเทศสิงคโปร์ต่อไป
"ไม่ห่วงว่าปัญหาแก๊งโจรกรรม บัตรเครดิตในประเทศมาเลเซีย จะมีปัญหาทางด้านความปลอดภัย เพราะในปีหน้ามาเลเซียจะเปลี่ยน บัตรเครดิตเป็นชิปการ์ดใหม่หมด ส่วนของค่าธรรมเนียมโอนเงินระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นคงไม่แพง มากนัก ถ้าเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการโอนเงินในประเทศเราเอง นายสายัณห์" กล่าว

นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนรวมและการกระจาย รายได้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจและผู้บริโภคยังคงนิยมใช้เงินสดและเช็คในชำระเงินทำให้ต้นทุนการดำเนินการอยู่ในระดับสูง โดยข้อมูลการศึกษาการหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า การสั่งจ่ายเช็คจากบัญชีแต่ละรายการเฉลี่ยต่อวันมีทั้งสิ้น 585,507 ใบต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงมาก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us