งานนิทรรศการเทคโนโลยีเครื่องจักรอุตสาหกรรม หรืองานอินเตอร์แม็ค '97 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่
7-11 พ.ค. 40 ได้จบสิ้นลงแล้วพร้อมกับความสำเร็จอย่างมาก แน่นอนว่าปีนี้การจัดงานใหญ่โตมโหฬารกว่าทุกปี
และที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือการเปิดงานด้วยหุ่นยนต์อัตโนมัติเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
แม้เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้จะมีรูปร่างแตกต่างไปจากที่หลาย ๆ คนจินตนาการกันไว้
กล่าวคือมันมีลักษณะคล้ายแขนขนาดใหญ่ข้างเดียวเท่านั้น แต่ลีลาความสามารถการเปิดงานครั้งนี้ก็ใช่ย่อยเลยทีเดียว
ปัจจุบันประเทศอุตสาหกรรมต่างๆ นิยมนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาในงานอุตสาหกรรมกันมาก
สาเหตุหลักๆ ก็มาจากประสิทธิภาพในการทำงานเป็นเลิศ ความแม่นยำเที่ยงตรงที่เกินกว่ามนุษย์จะทำได้
เช่นการตัดวัตถุให้ได้ขนาด 1 ใน 1,000 นิ้วโดยไม่มีการผิดพลาดเป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดต้นทุน
โดยเฉพาะต้นทุนด้านแรงงานเนื่องจากอัตราค่าแรงงานในประเทศเหล่านั้นแพงมาก
ทั้งยังขาดแคลนแรงงานฝีมือในภาคอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาดูจะเป็นต้นแบบในเรื่องนี้ เจ้าหุ่นยนต์หรือโรบอทถูกนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแทบทุกชนิด
และที่นิยมกันมากก็คือในอุตสาหกรรมรถยนต์ หุ่นยนต์เหล่านี้มีการควบคุมด้วยระบบสมองกล
แม้มันจะทำงานหลายๆ อย่างได้ดีกว่ามนุษย์แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนาปรับปรุงกันต่อไปอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่มันถูกสั่งให้ทำงานตามโปรแกรม ทำให้ขาดความยืดหยุ่นในการทำงาน
และเรื่องของราคาอันแพงลิบลิ่วของมันจนทำให้ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในโรงงานขนาดเล็ก
เพราะอาจจะทำให้ไม่คุ้มกับการลงทุนก็เป็นได้
ดร.ชิต เหล่าวัฒนา อาจารย์ประจำศูนย์ปฏิบัติการพัฒนาหุ่นยนต์ภาคสนาม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ซึ่งมีอยู่เพียง 4-5 คนในเมืองไทย กล่าวแนะนำว่า
การจะลงทุนซื้อหุ่นยนต์แต่ละตัวผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในเรื่องของความคุ้มค่าและต้องวางแผนในระยะยาวนับ
10 ปี
"ควรมีการวางแผนระยะยาวเลยว่าต่อไปจะมีการขยายโรงงานหรือไม่อย่างไร
เพื่อจะได้ซื้อหุ่นยนต์ที่สามารถรองรับการทำงานในอนาคตได้ด้วย เพราะหากจะซื้อมาทำเท่าที่ทำอยู่
พอมีการขยายงานแล้วก็ขายหุ่นยนต์ทิ้งแล้วซื้อตัวใหม่ ทำอย่างนี้อาจจะไม่คุ้ม"
ดร.ชิตกล่าว
สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันมีโรงงาน 4-5 แห่งได้นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในงานอุตสาหกรรมบ้างแล้ว
เช่น โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกของบริษัท ทีพีไอ จำกัด (มหาชน) ที่ จ.ระยอง โรงงานของบริษัทมินีแบ
จำกัด ที่บางปะอิน จ.อยุธยา และในเร็วๆ นี้โรงงานประกอบรถยนต์ซึ่งฟอร์ดร่วมทุนกับมาสด้า
ก็จะมีการติดตั้งหุ่นยนต์ประมาณ 30 ตัว
ประชากรหุ่นยนต์กำลังตบเท้ากันเข้ามาในเมืองไทย พร้อมๆ กับการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ
และพัฒนาการทางอุตสาหกรรมของประเทศ
ดร.ชิต ให้ความเห็นว่าการนำหุ่นยนต์มาใช้ในงานอุตสาหกรรมนั้นเป็นผลดีอย่างแน่นอนในเรื่องของประสิทธิภาพของงาน
ความเที่ยงตรงและลดต้นทุน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากๆ ก็คือหุ่นยนต์แต่ละตัวราคาจะแพงมาก
ผู้ประกอบการควรจะศึกษารายละเอียดว่าต้องการหุ่นยนต์มาทำอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
และบางทีก็ต้องมีการดัดแปลงให้เข้ากับความต้องการใช้งาน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของหุ่นยนต์สูงขึ้นไปกว่าที่ใช้ในสหรัฐฯ
หรือญี่ปุ่นอีก 1-3 เท่า เพราะจำเป็นต้องจ้างบริษัทต่างประเทศมาจัดการดัดแปลงปรับเปลี่ยนให้
หากคนไทยสามารถออกแบบ ผลิตและดัดแปลงหุ่นยนต์เพื่อนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมได้เอง
จะประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงไปได้อย่างมหาศาล ทั้งยังจะได้ใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์อย่างเต็มที่
"อย่างเช่นการกินอาหาร หากเราเข้าไปสั่งอาหารในร้านพอกินแล้วไม่ถูกปากเราก็ได้แต่บ่น
แต่หากเราทำอาหารได้เอง ชอบรสชาติอย่างไรก็ทำเองปรุงเอง มันก็ถูกปากมากกว่า"
ดร.ชิตยกตัวอย่าง
ดังนี้แล้วสิ่งสำคัญคือ การสร้างบุคลากรขึ้นมา นักออกแบบ นักประดิษฐ์สิ่งต่างๆ
มีการทำวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ
ในต้นทุนที่ถูกลง ซึ่งในขณะนี้มีหลายอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นความสำคัญและลงทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากันมากขึ้น
"ปัจจุบันโรงงานของไทยที่นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ส่วนมากยังใช้งานไม่เหมาะสมกับความต้องการ
และเมื่อมีปัญหาบริษัทผู้ขายจะไม่ค่อยติดตามแก้ไข สิ่งเหล่านี้ต่อไปอาจจะทำให้ผู้ประกอบการรู้สึกว่าการลงทุนซื้อหุ่นยนต์ราคาแพงๆ
มาใช้นั้นไม่คุ้ม และยุ่งยาก ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องการซื้อหุ่นยนต์มาใช้อีก"
ดร.ชิตกล่าว
พร้อมแนะนำไปยังผู้นำเข้าหุ่นยนต์มาขายในไทยว่า หากผู้ขายมีการให้รายละเอียดแก่ผู้ซื้ออย่างครบถ้วน
ดูแลให้บริการหลังการขายให้มาก จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพราะผู้ซื้อเองอาจจะไม่มีความเข้าใจในการใช้หุ่นยนต์มากนัก
และไม่ทราบว่าจะต้องใช้หุ่นยนต์แบบใดจึงจะเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด
ดังนั้นความแพร่หลายในการใช้หุ่นยนต์ในไทย ส่วนสำคัญน่าจะมาจากการที่ผู้ขายพยายามสร้างทัศนคติที่ดีต่อหุ่นยนต์ให้เกิดขึ้นในหมู่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้วย