|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
อสังหาฯเดินหน้ากระตุ้นกำลังซื้อส่งท้ายปี ชูคอนเซ็ปต์ "บ้านต้นทุนเก่า ราคาเดิม" หวังเพิ่มแชร์ในตลาด เพอร์เฟคฯ ส่งแคมเปญ บ้านตกแต่งพิเศษ 4 สไตล์ ไม่เพิ่มราคา ตกแต่งราคาบ้าน จาก 10 โครงการ มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท ค่ายเอ็น.ซี.ฯ เจาะเซกเมนต์บ้านต้นทุนเดิมระดับราคา 4 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 150-200 ล้านบาท พ่วงศุภาลัยดึง 20 โครงการร่วมแจม คาดสร้างยอดขายสมทบรายได้อีก 300 ล้านบาท
ภาวะความผันผวนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน การปรับอัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่เกิด ได้ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่สินค้าบ้านใหม่ที่ผลิตออกสู่ตลาด จะเป็นบ้านในต้นทุนใหม่ตามต้นทุนที่ ปรับขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ในการทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ของทุกๆปี จะถือได้ว่าเป็น ฤดูกาลของการทำการตลาด ในการทำ แผนส่งเสริมการตลาด เพื่อส่งเสริมให้ได้ยอดขายเข้ามา
"ช่วงนี้เป็นเดือนที่มีการซื้อที่อยู่อาศัยสูงที่สุดในแต่ละปี จะเห็นว่า ช่วง ไตรมาสที่ 4 ความต้องการซื้อจะสูงสุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากการ เก็บข้อมูลมาทั้งปี ผู้บริหารส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อกันในช่วงนี้ ดังนั้น ช่วง ก่อนสิ้นปีผู้ประกอบการทุกรายจะออก แคมเปญและโปรโมชันเพื่อช่วงชิงแชร์ ในตลาด เพื่อไม่เสียโอกาสในการขายกันมากเป็นพิเศษ" นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าว
นายธีระชน กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะในปี 2548 นี้ ที่ตลาดมีการชะลอ ตัวจากภาวะดังกล่าว ทำให้แต่ละค่ายยังมีสต๊อกบ้านในมือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพร้อมอยู่ต้นทุนเดิม ซึ่งแน่นอนในช่วงปลายปีเมื่อมีการเร่งยอดขาย ก็จะมีการนำบ้านในแต่ละโครงการที่ยังขายอยู่ออกมาจัดโปรโมชัน หรือออกแคมเปญ เพื่อแย่งดีมานด์กัน เป็นปกติ โดยในส่วนของ เพอร์เฟคฯ ขณะนี้มีสต๊อกบ้านพร้อมอยู่ในมือประมาณ 330 ยูนิต จาก 10 โครงการ โดยเฉลี่ยโครงการละ 30 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าขายประมาณ 2,200 ล้านบาท ซึ่งมีราคาเฉลี่ยประมาณ 6.8 ล้านบาทต่อยูนิต
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงปลายปีจะมีการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการทุกราย ที่ออกมาจัดแคมเปญพิเศษ ทำให้ เพอร์เฟคฯ ต้อง สรรหาแคมเปญที่มีความพิเศษมากกว่า ปกติ นอกจากบ้านต้นทุนเดิม ราคาเดิม โดยเฟอร์เฟคฯได้มีการออกแบบ ตกแต่งภายในพร้อมอยู่ พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ ร่วมกับการจัดแพกเกจทางการเงิน เพื่อช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2 ทางในขณะที่ซื้อบ้าน คือไม่จำเป็นต้องไปหาแหล่งเงินในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านใหม่ โดยเพอร์เฟคฯได้จัดแคมเปญร่วมกับสถาบันการเงินให้สามารถกู้ซื้อบ้านพร้อมเฟอร์นิเจอร์ในคราวเดียว รวมถึงโปรโมชันเดิมคือจ่าย 50,000 บาทโอนได้ทันทีด้วย
ทั้งนี้ เพอร์เฟคฯ คาดว่าจะมียอดขายจากแคมเปญดังกล่าวในช่วง 1 เดือนก่อนสิ้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50% หรือประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งมั่นใจ ว่าลูกค้าจะเร่งซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้กัน มาก เนื่องจากแนวโน้มปี 49 ธนาคารจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 1-2% ประกอบ กับแนวโน้มการปรับขึ้นราคาบ้านในปีหน้าตามต้นทุนการก่อสร้างใหม่ ทำให้ ลูกค้าต้องเร่งตัดสินใจเร็วขึ้น
สำหรับในส่วนของบริษัทเอง ขณะนี้ได้มีการปรับราคาบ้านในแบรนด์ มาสเตอร์พีซ แล้ว 7% ส่วนแบรนด์ เมโทร พาร์ค มีการปรับราคาแล้ว ตารางเมตรละ 500 บาท ส่วนในแบรนด์ เพอร์เฟค เพลส และเพอร์เฟค พาร์ค หากโครงการใดที่มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างไปแล้ว จะยืนราคาเดิมโดยคาดว่าจะสามารถยืนราคาเดิมได้ไม่เกิน 6 เดือน ส่วนโครงการที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาก่อสร้างจะมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 5-7%
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่า การออกแคมเปญ บ้านต้นทุน เดิมนั้น นอกจากการเร่งยอดขายใน ช่วงปลายปีแล้ว ยังเป็นการรองรับความต้องการของลูกค้าของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าที่เข้ามาขอสิทธิ์ซื้อบ้านราคาต้นทุนเดิมกับบริษัทเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เอ็น.ซี.ฯจึงจัดโปรโมชันดังกล่าวขึ้นมาในช่วงปลายปี นอกจากนี้ยังเป็นการบอกกล่าวกับลูกค้าของเอ็น.ซี.ฯ ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาบ้านในปีหน้า
"จริงๆ แล้วการขายบ้านต้นทุนเดิม ก็มีกำไรอยู่ในระดับหนึ่ง เราจึงยังไม่จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นไปเพิ่มหวังกำไรสูงๆ และก่อนจะมีการปรับราคา ขึ้นในปี 49 จึงมีการบอกกล่าวลูกค้าของ เอ็น.ซี.ฯ ไม่ใช่ปรับขึ้นโดยไม่มีการบอกกล่าว ซึ่งลูกค้าบางรายอาจจะต่อว่าได้ว่าทำไมไม่มีการบอกกล่าวก่อนจะปรับราคาขึ้น" นายสมนึกกล่าว
นายสมนึกกล่าวว่า ขณะนี้ เอ็น.ซี.ฯ มีสต๊อกบ้านพร้อมอยู่ในมือ จาก 8-9 โครงการที่เปิดขายอยู่ประมาณ 100 ยูนิต เฉลี่ยโครงการละ10 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าขายประมาณ 400 ล้านบาทโดยคาดว่าจากการจัดแคมเปญดังกล่าวจะทำให้มียอดขายประมาณ 150-200 ล้านบาท หรือประมาณ 50% ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถยืนราคาบ้านต้นทุนเดิมไปได้ถึงวันที่ 15 ม.ค. 2549 นี้ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้บริษัท ได้มีการปรับราคาบ้านขึ้นไปแล้วตามตุ้นทุนที่เพิ่มขึ้นในปี 47 ประมาณ 5-7% ส่วนในปี 2549 นี้ จะมีการปรับ ราคาบ้านขึ้นอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดโดยรวมอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การ จัดแคมเปญบ้านต้นทุนเดิม ก่อนที่จะ มีการปรับขึ้นราคาบ้านในปี 2549 นั้น เพราะบริษัทไม่ต้องการเอาเปรียบลูกค้า เนื่องจากบ้านต้นทุนเดิมมีกำไรอยู่แล้ว หากจะปรับราคาขึ้นไปเลยจะเป็นการเอาเปรียบลูกค้ามากเกินไป ดังนั้นการ จัดแคมเปญดังกล่าวขึ้นมา จึงถือว่าเป็นการบอกกล่าวลูกค้าของบริษัทด้วย
โดยแคมเปญดังกล่าว บริษัท จะยังแถมของบางอย่างที่บริษัทใส่ให้ แล้วในบ้านจะยังคงให้อยู่เหมือนเดิม และจ่ายเพียง 50,000 บาท กู้ 100% โอนได้ทันที ปัจจุบัน ศุภาลัย มีสต๊อก บ้านต้นทุนเดิมในมือ มูลค่าประมาณ 500-600 ล้านบาท จาก 20 โครงการ คิดเฉลี่ย 10 ยูนิตต่อโครงการ และคาดว่าจะมียอดขายจากแคมเปญ ดังกล่าวประมาณ 200-300 ล้านบาท
|
|
 |
|
|