Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 ธันวาคม 2548
คุมเข้มโฆษณาแอร์ เวอร์เกินอาจติดคุก ห้าง-ผงซักฟอกจ่อคิว             
 


   
www resources

โฮมเพจ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

   
search resources

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
Advertising and Public Relations
Electric




ผู้ประกอบการเครื่องปรับอากาศออกอาการหนาวสคบ.ประกาศ แนวทางโฆษณา 11 ประการ มีผลตั้งแต่วันนี้ คุมเข้มมากขึ้นอาจถึงขั้นจำคุก พร้อมเลิกการปรับเพราะเบาไป คิวต่อไปเตรียม เชือดโฆษณาสินค้าผงซักฟอกและห้างสรรพสินค้าที่โฆษณาเกินจริง รวมถึงโฆษณาเอสเอ็มเอสที่มีการโหลดภาพอนาจารหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม ด้านสมาคมโฆษณาฯหวังผู้ประกอบการและเอเยนซีจะทำตามกฎ

วานนี้ (21 ธ.ค. 48) สำนักงานคณะ กรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกองงาน กกช. กรมประชาสัมพันธ์ และสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย ได้จัดการประชุมในหัวข้อ "แนวทางในการโฆษณาเครื่องปรับอากาศให้ถูกกฎหมาย" โดยได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการเครื่องปรับอากาศ บริษัทเอเยนซีโฆษณา และบริษัทเจ้าของสื่อโฆษณาเข้าร่วมงาน เพื่อรับทราบถึงแนวทางในการทำโฆษณาเครื่องปรับอากาศให้ถูกต้องและอยู่ในกรอบกฎหมายที่ภาครัฐดูแล

นางรัศมี วิศวเวทย์ เลขาธิการคณะ กรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยถึงแนวทางในการโฆษณาเครื่องปรับอากาศให้ถูกกฎหมายว่า ทางสคบ.ได้กำหนดไว้ 11 แนวทาง ประกอบด้วย

1. การโฆษณา ต้องไม่ใช้ข้อความโฆษณาที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมตามมาตรา 22

2. ข้อความโฆษณา ที่มีการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสินค้า ตัวเลขหรือรายงานทางวิชาการต้องมีเอกสารหลักฐานที่สามารถอ้างอิงต่อคณะกรรมการ

3. ข้อความโฆษณาที่ใช้ถ้อยคำที่เป็น การยากต่อการพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงได้ เช่น แห่งเดียว,รายแรก เป็นต้น หากไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้ ถือว่าผู้โฆษณามีเจตนาแสดงข้อความเท็จ

4.การอ้างอิงผลทดสอบหรือทดลองที่ทำในห้องทดลองต้องระบุไว้ในข้อความโฆษณา ด้วยตัวอักษรให้เห็นชัดเจนว่าเป็นการทดสอบหรือทดลองของสถาบันใด ที่ไหน และเมื่อไร

5. ข้อความโฆษณาที่ระบุว่ามี การแจกของแถมหรือรางวัลด้วยการเสี่ยง โชค เพื่อส่งเสริมการขายผู้โฆษณาจะต้อง ปฏิบัติให้ครบถ้วนตามกฎกระทรวง

6. ข้อความโฆษณาที่มุ่งเน้นความสำคัญในบางจุดหรือปกปิดไม่แสดงข้อ ความบางส่วน และก่อให้ผู้บริโภคเกิดการเข้าใจ ผิด ถือว่าเป็นการโฆษณาที่หลอกลวงและผิดกฎหมาย

7. ข้อความโฆษณาทางหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ต้องแสดงรายละเอียดตัวอักษรให้ชัดเจนมีขนาดไม่เล็กกว่า 2 มิลลิเมตร และอยู่ใกล้ข้อความที่เป็นสาระสำคัญ ส่วนข้อความ โฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ให้ระบุรายละเอียดเงื่อนไขเป็นอักษรลอยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 วินาทีด้วยตัวอักษรสีขาวอ่านชัดเจนมีความ สูงไม่น้อยกว่า 1 ส่วนใน 25 ส่วนของความสูงจอภาพ

8. การโฆษณารับประกันสินค้า ผู้โฆษณาต้องระบุลักษณะและขอบเขตของการประกันให้ชัดเจน

9.ข้อความโฆษณาที่อ้างอิงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพ ความทนทานสินค้าควรระบุข้อความให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลรักษาสินค้าเพื่อให้มีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน

10. การพิจารณาข้อ ความโฆษณาต้องยึดหลักว่าผู้บริโภคเข้าใจ

และ 11. กรณีที่ผู้โฆษณาสงสัยว่าโฆษณาของตนจะฝ่า ฝืนกฎหมาย อาจขอให้คณะกรรมการว่าด้วยการ โฆษณาพิจารณาให้เห็นในเรื่องนั้นก่อนโฆษณาได้

นายนพปฎล เมฆเมฆา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา สคบ. กล่าวว่า ปัญหาที่ผ่านมาของการโฆษณาเครื่องปรับอากาศ ปีนี้ คือ การโฆษณาเกินจริงและการโฆษณาที่ก่อให้เกิดการเข้าใจผิดในเรื่องของการฆ่าเชื้อโรค และการประหยัดไฟ ซึ่งภาพโฆษณาที่ออกมาไม่เหมาะสมทางสคบ.จึงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์นาน โดยปีนี้มีบริษัทเครื่องปรับอากาศที่ทำผิด กว่า 11 บริษัท
ในส่วนบทลงโทษผู้ที่กระทำผิด คือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่งที่ผ่านมาผู้ที่กระทำผิดจะถูกลงโทษแค่การปรับ แต่นโยบายต่อไปอาจจะให้จำคุกและไม่มีการปรับก็เป็นได้ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ทำผิดกฎหมายอีก

ส่วนสินค้าที่อยู่ในลำดับต่อไปของการพิจารณาของทางสคบ. คือ ผงซักฟอกที่มีการโฆษณาเกินจริง และการลดราคาสินค้า 50-80% ของห้างสรรพสินค้าแต่พอลูกค้าไปซื้อแล้วไม่ได้ลดตามที่โฆษณาไว้ รวมถึงการโหลดข้อความหรือรูปภาพอนาจารทางโทรศัพท์มือถือผ่านทางเอสเอ็มเอส ตรงนี้จะทำให้เสื่อมเสียต่อวัฒนธรรม ของชาติ ซึ่งการเอาผิดกรณีนี้อาจจะต้องมีการปรับทั้งตัวสื่อโปรวายเดอร์หรือค่ายโอเปอเรเตอร์ มือถือ เป็นต้น นอกจากนี้สินค้าอื่นๆที่มีการร้อง เรียนจากผู้บริโภคมาก ได้แก่ โฆษณาโทรศัพท์มือถือ, สถาบันฟิตเนส และสาธารณูปโภคของบ้านจัดสรร เป็นต้น

"แนวโน้มการโฆษณาในปีหน้ามองว่าจะดีขึ้นในเรื่องการไม่ทำให้คนหรือผู้บริโภคเข้าใจผิดๆ ในส่วนของการโฆษณาเครื่องปรับอากาศก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าจะเน้นเทคโนโลยีหรือเรื่อง ใดในการทำตลาด แต่เชื่อว่าหลังจากผู้ประกอบการรับนโยบาย 11 ข้อไปก็จะมีการปรับตัวให้ดีขึ้นและไม่ทำผิดกฎอีก" นายนพปฎลกล่าว

นายอุดมศักดิ์ วงษ์ประเสริฐ อุปนายก ฝ่ายประสานงานภาครัฐ ของสมาคมโฆษณาธุรกิจ แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คาดว่าหลังจากที่ผู้ ประกอบการและเอเยนซีรับฟังแนวทางการโฆษณาที่ถูกต้องไปแล้วจะมีการปรับโฆษณาหรือข้อความโฆษณาที่สามารถพิสูจน์ได้ ส่วนประเด็นที่ตัวแทนจากผู้ประกอบการมิตซูบิชิ อีเลคทริคถามถึงการนำโฆษณาจากต่างประเทศมาใช้ในไทยได้หรือไม่นั้น จริงแล้วๆสามารถทำได้ แต่อาจจะต้องมีการปรับบางอย่างให้ตรงกับวัฒนธรรมและกฎหมายไทย

นอกจากนี้ ตัวแทนจากเอกชนรายหนึ่งได้ถามทางสคบ.ถึงเรื่องเทคโนโลยีนาโนที่ถูกนำมาใช้ในเครื่องปรับอากาศ และบริษัทโฆษณาได้นำมาใช้ในการนำเสนอโฆษณามาก ตรงนี้ต้องมีเอกสารหรือหลักฐานมาแสดงว่าได้ผลจริง เพราะเท่าที่ทราบบางบริษัทได้มีการนำนาโนเทคโนโลยีมาผสมกับพลาสติก แล้วใช้ไม่ได้ตามผลที่โฆษณาไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us