|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทุนท้องถิ่นภาค ตะวันออกจับมือบิ๊กรับเหมา "ซิโน-ไทย" ผุดคอนโดฯกลางกรุงเทพฯ "เมซอง เดอ สยาม" มูลค่า 450 ล้านบาท โชว์เพาเวอร์ไม่กู้เงินแบงก์ควักทุนตัวเองลงทุน ด้าน "ปิยาภรณ์" อดีต นกน้อยในไร่ส้ม ควงแขนสามีนักออกแบบชื่อดังโดดร่วมแจมวงการอสังหาฯ ปี 49 เปิด 2 โครงการรวด มูลค่าโครงการกว่า 4,500 ล้านบาท
นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอส แมเนสเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุด ทางบริษัท กิจประชาธานี จำกัด ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้บริหารงานขายโครงการ "เมซอง เดอ สยาม" สุขุมวิท 16 ซึ่งดำเนินการโดยนายปฏิภาณ บู่สกุล ที่เป็นนักธุรกิจท้องถิ่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเขต จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ชลบุรี มาแล้วหลายโครงการ อีกทั้งยังมีที่ดินสะสมในภาคตะวันออกและภาคใต้อีกหลาย จังหวัด
โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 1 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบ ของคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์พร้อมขายในสไตล์ไทยประยุกต์ผสมกับสถาปัตยกรรมตะวันตก มีความสูงเพียง 7 ชั้น จำนวน 24 ยูนิต ขนาด 210-435 ตารางเมตร ราคาขาย 18-48 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 450 ล้าน บาท ซึ่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการนั้น เป็นเงินลงทุนส่วนตัว โดยไม่ได้กู้สถาบัน การเงินแต่อย่างใด ด้านการก่อสร้างได้ มอบหมายให้ STEC เป็นผู้ดำเนินการ ก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้แล้วเสร็จ 100%
"สาเหตุที่เข้ามาพัฒนาโครงการในเขตกรุงเทพฯเป็นครั้งแรกนั้น เนื่อง จากมีความสนิทสนมกับผู้บริหารระดับสูงในบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ STEC เป็นการส่วนตัว และก็ได้มีการปรึกษาถึงแนวทางในการรุกตลาดคอนโดฯใจกลางเมือง ซึ่ง ทางผู้บริหารของ STEC ก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี"
ในด้านการขายได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่าน มา โดยมียอดขายแล้ว 5 ยูนิต เป็น ลูกค้าชาวต่างชาติ ในระดับผู้บริหารที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 7-8 แสนบาทขึ้นไป และตั้งเป้าปิดการขายภายในระยะเวลา 8 เดือนนับจากนี้
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่ง กล่าวว่า การพัฒนาโครงการดังกล่าวนั้น ทาง STEC ได้ถือหุ้นในบริษัท กิจประชาธานี จำกัด อยู่ด้วย เข้าไปใน นามบริษัท เอช ที อาร์ จำกัด (HTR) ประเภทธุรกิจให้เช่า บริการ อาคารสำนักงานและบริหารการจัดการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นผู้มีอำนาจตามสบช.3 จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2525 ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท และ ผู้มีอำนาจประกอบด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หรือนางสนองนุช ชาญวีรกูล ลงรายมือชื่อร่วมกับนายวรพันธ์ ช้อนทอง หรือนายเติมพงษ์ บุนะจินดา ร่วมเป็น 2 คนและประทับตราสำคัญบริษัท โดยตามตัวเลขงบกำไรขาดทุน ณ สิ้นปี 2547 มีรายได้รวม 45.4 ล้านบาท รายจ่ายรวม 39.6 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5.7 ล้านบาท
นางปิยาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตนเองนั้นในปี 49 มีแผน ที่จะเปิดตัวโครงการซึ่งพัฒนาเองด้วย 2 โครงการในนามบริษัท ซี-สเปซ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อกลางปี 48 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยโครงการแรกตั้งอยู่บริเวณ ซ.เกษมสันต์ 3 ซึ่งเป็นการนำที่ดินเก่า ของครอบครัวบนพื้นที่ 1 ไร่เศษมาพัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้าน บนฟ้า" มีสูง 7 ชั้น ที่ให้บรรยากาศเสมือนอยู่ในบ้าน โดย 1 ยูนิตจะมี 2 ชั้นคล้ายๆกับโครงการเลอ รัฟฟิเน่ สุขุมวิท 24 ของกลุ่มนายภาสุร์ เตียวตรานนท์ แต่โครงการดังกล่าวจะมีราคาแพงราคาตั้งแต่ 32 ล้านบาทขึ้นไป และได้ปิดการขายไปแล้ว โครงการ ของบริษัทจึงไม่มีคู่แข่งในรูปแบบเดียวกัน โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 22 ยูนิต ราคา 16 ล้านบาทขึ้นไปหรือ 9.6 หมื่นบาท-1.3 แสนบาทต่อตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้าน บาท โดยการก่อสร้างจะเริ่มประมาณเดือนม.ค.49
"ก่อนหน้านี้เคยอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนและหันมาตั้งบริษัทบริหารงานขาย จนกระทั่งสามี คือนายชนิตว์นันท์ แสนโกศิก ซึ่งมีประสบการณ์ ด้านการออกแบบจากประเทศอังกฤษมาช้านาน ในนามบริษัท ซี-สเปซ อาร์คิเทค จำกัด สนใจ ที่จะนำที่ดินมรดกของครอบครัวมาพัฒนาโครงการของเราบ้าง และโครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกของเรา" นางปิยาภรณ์ กล่าว
ส่วนโครงการที่ 2 ตั้งอยู่ที่กิ่ง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ พัฒนาในนามบริษัท ม่อนพญาพรหม จำกัด ด้วยทุน จดทะเบียน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 800 ไร่ โดยแบ่งการพัฒนา เป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกตั้งอยู่บนพื้นที่ 450 ไร่ ในรูปแบบของสนามกอล์ฟจำนวน 18 หลุม ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่าง การดำเนินการก่อสร้าง และในส่วนที่ 2 จะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 300 ยูนิต ระดับราคาอยู่ที่ 5.8-6.8 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเม.ย.49นี้
อย่างไรก็ตาม ตนยังมีที่ดินสะสมของครอบครัวในย่านใจกลางกรุงเทพฯอีกหลายแปลง อาทิ บริเวณ ถนนสีลม ประมาณ 1 ไร่เศษ,ย่านปทุมวัน ใกล้สยามพารากอนอีกประมาณ 2 ไร่
|
|
|
|
|