|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"มาลี" เตรียมโดดลงสมรภูมิน้ำผลไม้มีประโยชน์เฉพาะด้าน รับเทรนด์ตลาดน้ำ ผลไม้ปีจอเซกเมนต์ย่อยเกิดเพียบ ผุด 2 รสชาติท้าชนทิปโก้ผู้นำร่องเปิดน้ำผลไม้ผสมคอลลาเจน ปีหน้า ตั้งเป้าแชร์พุ่ง 22%
นายธริน คุณวิเศษกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการขายในประเทศ บริษัท มาลี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้ตรามาลี เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทได้เตรียมเปิด ตัวน้ำผลไม้ 100% ด้วยการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าโดยมีประโยชน์ต่อสุขภาพเฉพาะด้านมากขึ้น 2 รสชาติ จากปัจจุบันน้ำผลไม้ 100% ของมาลี มีทั้งหมด 12 รสชาติ เน้นจุดขาย ใน เรื่องของสุขภาพทั่วไปเป็นหลัก ทั้งนี้ เพื่อรองรับแนวโน้มตลาดน้ำผลไม้ใน ปีหน้านี้ ที่จะมีเซกเมนต์ย่อยเกิดมาก เช่น ล่าสุดทิปโก้ผู้นำตลาดน้ำผลไม้ครองส่วนแบ่ง 40% นำร่องเปิดตัวน้ำผลไม้ผสมคอลลาเจน ผสมแอลคาร์นิทีนและผสมแคลเซียม-วิตามิน
สภาพตลาดน้ำผลไม้โดยรวมมูลค่า 3,200 ล้านบาท ปีนี้มีอัตราการเติบโต 15% โดยเป็นการเติบโตจากน้ำผลไม้ 100% มูลค่า 2,000 ล้าน บาทเป็นหลักถึง 18% เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ ส่วนที่เหลือ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำผลไม้ 40% และน้ำผลไม้ระดับล่าง โดยตลาดน้ำผลไม้ 40% สภาพไม่เติบโตเนื่อง จากเป็นเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์ด้าน ความสดชื่นเหมือนกับซอฟต์ดริงก์กลุ่มอื่นๆ อย่าง ชาเขียว น้ำอัดลมทำให้ปีนี้ถูกแชร์ตลาดไป ส่วนตลาดน้ำผลไม้ระดับล่างปีนี้มีอัตราการเติบโตที่ลดลง
แนวโน้มตลาดน้ำผลไม้โดยรวมปีหน้าคาดว่าจะมีอัตราการ เติบโต 20% ขณะที่สภาพตลาดน้ำผลไม้ทั้งระดับบน-ล่างคงจะไม่แตกต่างจากปีนี้มากนัก โดยการเติบโตยังคงมาจากน้ำผลไม้ 100% เป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมองว่าตลาดน้ำผลไม้ 100% พาสเจอร์จะมีเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนประมาณ 10% ของมูลค่าตลาดน้ำผลไม้ 100% ส่วนตลาดน้ำผลไม้ 40% เชื่อว่าผู้ประกอบการจะหันมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าโดยเพิ่มประโยชน์เฉพาะด้านมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันซอฟต์ดริงก์เข้ามาแชร์ตลาดเพิ่มขึ้น
"พฤติกรรมของผู้บริโภคไทยยังดื่มน้ำผลไม้ต่ำกว่า 10 ลิตรต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วดื่มน้ำผลไม้ 30 ลิตรต่อคนต่อปี นอกจากนี้ยังพบว่ามีเพียง 20% เท่านั้นที่ดื่มน้ำผลไม้เป็นประจำทุกวัน ส่วนที่เหลืออีก 80% ดื่มไม่เป็นประจำ ทำให้ช่องว่างในการทำตลาดยังมีอีกมาก โดยล่าสุดบริษัทได้ขยายช่องทางการจำหน่ายน้ำผลไม้มาลีผ่านสายการบินไทย แทนที่ทิปโก้ โดยจะเริ่มอย่างเป็นทางการในปีหน้า"
ผลประกอบการกลุ่มน้ำผลไม้มาลีปีนี้ 1,000 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมา 800 ล้านบาท แบ่งเป็น น้ำผลไม้ 100% มีส่วนแบ่งราว 20% ปีหน้าตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 21-22% ส่วนตลาดน้ำผลไม้มาลีทีน และบรรจุภัณฑ์กระป๋องเซกเมนต์น้ำผลไม้ 40% ปีนี้มีส่วนแบ่ง 12% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 15% ในปีหน้า
|
|
|
|
|