Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 ธันวาคม 2548
นักลงทุนดักซื้อหุ้นปิดงบดันดัชนีขึ้น ตลาดฯศึกษาแก้ราคาหุ้นน้องใหม่ต่ำจอง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Stock Exchange




ตลท.ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาหุ้นต่ำกว่าจอง ดูตัวอย่างเกาหลีใต้เปิดทางให้เจ้าของรับซื้อหุ้นคืนนอกตลาด แต่ยังไม่สรุปเหตุมีหลายแนวทาง ที่ศึกษาอยู่ ส่วน "เอ็มเอไอ แมชชิ่ง ฟันด์" หวังดึงเวนเจอร์แคปฯเข้าร่วมสร้างความแข็งแกร่ง ให้ผู้ประกอบการ ด้านภาวะตลาดหุ้นนักลงทุนแห่ซื้อดักทำราคาปิดงบท้ายปี ดันดัชนีขึ้น 7.40%

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณี ของหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายหลายบริษัทปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าราคาจองว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาหลายแนวทาง โดยหนึ่งในแนวทางที่กำลังศึกษา คือ ที่ตลาดหุ้นของประเทศเกาหลีใต้พบว่าได้อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นใหญ่หรือเจ้าของบริษัทแสดงความมั่นใจว่า หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าราคาจองก็สามารถรับซื้อคืนหุ้นได้แต่เป็นการแยกออกมาซื้อนอกตลาด ซึ่งแนวทางนี้อาจจะมีผลกระทบในแง่ของฟรีโฟลตที่จะน้อยลงนั้นก็จะต้องหาแนวทางแก้ไขที่จะเหมาะสมกับตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนและเป็นแนวทางหนึ่งจากหลายๆ แนวทางที่กำลังศึกษาเบื้องต้น
ก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำระบบกรีนชู ออปชัน ซึ่งเป็นแนวทางของตลาดหุ้นต่างประเทศมาใช้แล้วเช่นกัน ซึ่งหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากจะมีการนำกรีนชูออปชัน มาใช้เพื่อสร้างเสถียรภาพของราคาหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่

นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรที่จะให้ความสำคัญกับราคาวันแรกที่หุ้นเข้ามาซื้อขายแต่ควรที่จะพิจารณาในระยะยาว ซึ่งการที่ราคาหุ้นจะมีทิศทางเป็นอย่างไรนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายว่า มีการจัดสรรหุ้นอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพราะจะมีการจัดสรรให้กับนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบันเพราะเชื่อว่าก็ยังมีนักลงทุนสถาบันบางส่วนที่มีความ ต้องการซื้อและมีจุดประสงค์เพื่อถือหุ้นในระยะยาว

สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนเอ็มเอไอ แมชชิ่งฟันด์ มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะดึงกองทุนร่วมทุน(เวนเจอร์แคปปิตอล)เข้าถือหุ้นในบริษัทที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและมีศักยภาพการเติบโตใน อนาคต อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้กองทุนร่วมทุนในประเทศไทยยังมีไม่มากนักดังนั้นจึงต้องสร้างกลไกที่จะสร้างกองทุนร่วมทุนดังกล่าวให้มีมากขึ้นโดยหวังว่าภาครัฐบาลจะให้การส่งเสริม

ทั้งนี้ นโยบายการลงทุนของ กองทุนเอ็มเอไอ แมชชิ่ง ฟันด์นั้นจะมีการกำหนดระยะเวลาการเข้าถือหุ้นประมาณ 5-7 ปี และจะกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นไว้ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดใน รายละเอียดซึ่งในแง่ของผลตอบแทนจากการลงทุนคงจะได้รับไม่มากนัก เพราะจุดประสงค์ของกองทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการเพื่อ ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai)ในอนาคต

ด้านภาวะการลงทุนในตลาด หลักทรัพย์วานนี้(20 ธ.ค.) ดัชนีผันผวนตลอดทั้งวัน โดยในช่วงท้ายตลาดมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ เพื่อเก็งกำไรก่อนการปิดงบการเงินงวดปี 48 ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 698.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.40 จุด หรือ 1.07% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัน ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 690.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,085.90 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 649.29 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 99.53 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 549.76 ล้านบาท

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทีเอสอีซี จำกัด กล่าวถึงการปรับขึ้นของราคาหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากนักลงทุนดักซื้อก่อนที่บริษัทจดทะเบียน(บจ.)จะต้องเข้ามาทำราคาแต่งงบบัญชี (Window Dressing) ก่อนช่วงปิดเทศกาล คริสต์มาสและปีใหม่

ทั้งนี้ แรงซื้อที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง โดย บล.ทีเอสอีซี ยังแนะนำให้ลงทุนหากดัชนียังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 700 จุด ในกลุ่มธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ เป็นต้น ขณะที่หุ้นในกลุ่มเก็งกำไรบางบริษัทยังลงทุนในช่วงที่มีข่าวเข้ามา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us