กลุ่มเซ็นทรัล ปรับแผนหลังสุวรรณภูมิเปิดใช้งาน ปั้นโซฟิเทลเซ็นทรัลลาดพร้าวเจาะกลุ่มธุรกิจ หลังหลายสายการบินย้ายสัญญาส่งนักบินและแอร์โฮสเตสไปพักโรงแรมใกล้สุวรรณภูมิแทน ยันไม่เปิดโรงแรมย่านสุวรรณภูมิ มั่นใจแอร์ พอร์ตลิงก์เชื่อมต่อส่งทำเลราชประสงค์คึก พร้อมดันโรงแรมที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นตัวเรือธงหลักแทน จับทางรัฐมุ่งนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว

นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะปรับโรงแรมโซฟิเทลเซ็นทรัล ลาดพร้าว ให้เป็นโรงแรมสำหรับนักธุรกิจและกลุ่มคอร์ปอเรต เพราะหลังจากการย้ายสนามบินจากดอนเมืองไปที่สุวรรณภูมิ ทำให้สายการบินต่างชาติหลายสายได้ย้ายสัญญาโรงแรมที่จะให้ กัปตันนักบิน แอร์ และสจ๊วต ไปพักยังโรงแรมที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้โรงแรม โซฟิเทลเซ็นทรัล ลาดพร้าว เสียรายได้จากส่วนนี้ไปประมาณ 10% โดยคาดว่ายังมีอยู่ 2 สายการบิน ที่ยังยืนยันเข้าพักที่ โซฟิเทลเซ็นทรัล คือ สายการบิน ลุฟท์ฮันซ่า และ สายการบินสวิสแอร์

ปรับธุรกิจปั้นเซ็นทรัลเวิลด์แหล่งรายได้หลัก

โดยบริษัทฯได้ปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเปิดตัวของสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยการเปิดตัว โรงแรม เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งจะอยู่ด้านหลังของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2551 ดังนั้น หลังการเปิดให้บริการของโรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ ตรงจุดนี้ จะเป็นจุดสร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯจากที่ปัจจุบัน โรงแรมโซฟิเทลเซ็นทรัลลาดพร้าวจะเป็นจุดสร้างรายได้หลัก

ทั้งนี้เพราะเชื่อในระบบโครงข่ายเส้นทางคมนาคม ที่รัฐบาลได้วางแนวไว้ตามโครงการ แอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งส่วนหนึ่งจะปรับสถานีรถไฟมักกะสัน ให้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ จะทำให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถเดินทางเข้ามาตัวเมืองชั้นในย่านราชประสงค์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

จุดเด่นของโรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ คือ มีพื้นที่ที่จะใช้ในการจัดประชุมสัมมนาถึง 10,000 ตร.ม. โดยมีห้องประชุมขนาดใหญ่แบบไม่มีเสา จุคนได้ถึง 6,000 คน จึงนับเป็นศูนย์คอนเวนชันระดับ "เวิลด์คลาส" ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบกับทำเลย่านราชประสงค์ ถือเป็นย่านธุรกิจสำคัญใจกลางเมือง จะส่งเสริมให้โรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เป็นจุดรองรับการประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ ไปจนถึงการจัดประชุมระดับโลก เช่น World Congress ตอบโจทย์ นโยบายภาครัฐ ที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวชอปปิ้งและการจัดประชุมนานาชาติ ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

"เชื่อว่าภายหลังการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ จะเป็นตัวส่งให้ประเทศไทย ขึ้นสู่ความเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและแหล่งชอปปิ้งของภูมิภาคเอเชียภายใน 5 ปีจากนี้ไป ซึ่งก่อนหน้านี้ เรามีแนวคิดที่จะไปเปิดโรงแรมใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ด้วยโปรเจกต์แอร์พอร์ตลิงก์ของรัฐบาล เราจึงพับแผนการเปิดโรงแรมคงเหลือแต่โครงการเซ็นทรัลซิตี้พลาซ่า เพราะมองว่าโรงแรมเซ็นทรัลเวิล์ กรุงเทพฯ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ขณะนี้จะสามารถรองรับได้"

ตั้งเป้า 5 ปีผุดโรงแรมเพิ่มเป็น 22 แห่ง

นายสุทธิเกียรติ กล่าวถึง แผนธุรกิจ ด้านโรงแรมของเซ็นทรัลว่า ภายใน 3 ปีนับจากนี้ เซ็นทรัลจะมีโรงแรมทั้งของตัวเองและรับบริหารประมาณ 11 แห่ง จากปัจจุบัน มี 9 แห่ง ที่จะเพิ่มมาคือ ที่กระบี่ ภูเก็ต พัทยา และเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีการลงทุนในช่วงนี้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ขณะที่แผน 5 ปี บริษัทฯตั้งเป้าหมายมีโรงแรมบริหารเพิ่มเป็น 22 แห่ง ส่วนหนึ่งบริษัทฯลงทุนเอง อีกส่วนหนึ่ง บริษัทฯจะเข้าไปร่วมทุนกับเจ้าของเดิมเพื่อปรับปรุงใหม่ และเข้าบริหารภายใต้แบรนด์เซ็นทรัล ซึ่งในประเทศจะอยู่ต่างหัวเมืองและแหล่งท่องเที่ยว ส่วนต่างประเทศ จะลงทุนในประเทศ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์

"เรามีแผนที่จะสร้างแบรนด์เซ็นทรัล ให้เป็นเชนโรงแรมในระดับมาตรฐานสากล ระยะแรก จะขยายแบรนด์เซ็นทรัลไปประเทศละแวกใกล้เคียงในภูมิภาคเอเชีย ก่อนขยายไปในภูมิภาคอื่น ซึ่งเซ็นทรัล จะเป็นโรงแรม 5 ดาว เน้นเรื่องบริการที่ประทับใจ โดยเราได้นำข้อดีของระบบการบริหารด้วยระบบเชน มาปรับใช้ให้เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมในเครือเซ็นทรัล เชื่อว่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าสูงสุด"

อย่างไรก็ตามการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมเพิ่มมากขึ้น เป็นเพราะมั่นใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยที่จะเติบโต เพราะทุกรัฐบาลที่ผ่านมาและรัฐบาลในชุดปัจจุบันให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาก แต่ตั้งความหวังให้เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้หลักเข้าประเทศ ซึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มองว่าประเทศไทยได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ เพราะเป็นประเทศที่อากาศดีตลอดทั้งปี มีชายหาดงดงามจำนวนมาก มีประชากรที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และค่าครองชีพที่ไม่แพงเกินไป เป็นเมืองที่ปลอดภัย ทั้งหมดถือเป็นจุดขายสำคัญ

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทรัล กล่าวว่า ศักยภาพของโรงแรมที่มีอยู่ย่านราชประสงค์ เมื่อมีการประชุมขนาดใหญ่ระดับนานาชาติ จะสามารถส่งต่อแขกเข้ามาพักให้แก่กันได้ เพราะถือเป็นโรงแรม 5 ดาว ในเกรดเดียวกันเกือบทั้งหมด ขณะเดียวกันพื้นที่ย่านนี้ยังเป็นแหล่งชอปปิ้งที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในกรุงเทพฯ มีระบบขนส่งมวลชน ที่สะดวก ซึ่งจะต่างจากโซฟิเทลลาดพร้าว ที่ไม่มีโรงแรมที่เป็นเกรดเดียวกันในย่านนั้นเลย ยอกรับว่าตลาดประชุมสัมมนาช่วง 2-3 ปีเติบโตสูง จึงเป็นอีกหนึ่งบริการที่โรงแรมเซ็นทรัลกล้าลงทุน โดยโรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เป็นโรงแรม 5 ดาว สูง 55 ชั้น จำนวนห้องพัก 505 ห้อง มีห้องประชุมใหญ่และห้องประชุมย่อยอีก 16 ห้อง รองรับกรุ๊ปประชุมได้จำนวนมาก