Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 ธันวาคม 2548
ฟันธงขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า1.5-2%             
 


   
search resources

Real Estate
Loan




แบงเกอร์ฟันธงดอกเบี้ย ปีหน้าปรับขึ้น 1.5-2% ไร้เงาสินเชื่อคงที่ คาด สินเชื่อบ้านทั้งระบบ 3 แสนล้านบาท จับตาแบงก์ใหม่ออกแคมเปญดึงลูกค้า ด้านกสิกรไทย เชื่ออสังหาฯ ปีหน้าโต 12% หรือ 83,000 ยูนิต

วานนี้ (19 ธ.ค.) สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยจัดงานสัมมนา เรื่อง "ทิศทางสินเชื่อที่อยู่อาศัย ปี 2549 และอสังหาริมทรัพย์" โดยนางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อสังหาฯ ในปี 2549 จะมีการเติบโตตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่จะมีการเติบโต 4-5% แต่ยังมีปัจจัยลบที่จะเข้ามาส่งผลกระทบให้ตลาดมีการชะลอตัวลงบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องของแนวโน้ม อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้น รวมถึง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีนโยบายปรับดอกเบี้ยตาม โดยคาดว่านับจากไตรมาส 1-3 อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นทุกไตรมาส และจะไปชะลอในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเชื่อว่าปี 2549 จะปรับขึ้นประมาณ 1.50-2.0%

ส่วนการขยายตัวของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในปีหน้าเฉลี่ยประมาณ 6.6-7% ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต บวก-ลบ 5% และจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าในปีหน้าจะไม่มีโปรแกรมสินเชื่อคงที่ ยกเว้นเป็นโครงการ พิเศษ หรือธนาคารใหม่ที่เปิดตัวจะออกแคมเปญเพื่อดึงลูกค้า ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของ แต่ละธนาคาร แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก เนื่องจากเป็นธนาคารใหม่ ฐานลูกค้าน้อย และมีข้อจำกัดในหลายประการ ทั้งเงินทุน เจ้าหน้าที่ สาขา

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2549 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้น 1% ซึ่ง จะส่งผลให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยจะมีการเติบโตประมาณ 14% ในปีหน้า ส่วนธุรกิจอสังหาฯจะยังคงเติบโตประมาณ 14% ในปี 2548 หรือประมาณ 75,000 หน่วย และ 2549 โต 12% หรือประมาณ 83,000 หน่วย โดยในไตรมาส 3 ปี 2548 มีจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 53,476 ยูนิต เพิ่มขึ้น 13.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ คาดว่า ณ สิ้นปี 2548 ตลาดที่อยู่อาศัยที่สร้างโดยผู้ประกอบการจะมียอดขายรวมประมาณ 100,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 14% จากปี 2547 ส่วนเหตุผลที่เชื่อว่าอสังหาฯจะมีการเติบโตในระดับดังกล่าวมาจากตลาด ที่อยู่อาศัยที่สร้างโดยผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด สูงถึง 75% ของยอดขายที่อยู่อาศัยที่สร้างโดยผู้ประกอบการ โดยคาดว่าในปีนี้มียอดขายประมาณ 75,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 25% จากปี 2547

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการ ผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ทิศทางสินเชื่อที่อยู่อาศัยปี 2549 ยังคงมีการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยประมาณ 10-20% โดยเฉพาะใน Segment ราคาต่ำ-ปานกลาง ไม่เกิน 5 ล้านบาท แม้อัตราดอกเบี้ยจะขยับตัวสูงขึ้นซึ่งคาดว่าอีกไม่น้อยกว่า 1% ในปี 2549 แต่ยังอยู่ในระดับที่ผู้ซื้อบ้านรับได้ การนำนวัตกรรมทางการเงินเพื่อที่อยู่อาศัยสมัยใหม่ เช่น MI และ Securitization มาใช้ทำให้ต้นทุน ทางการเงินถูกลง และมีอัตราคงที่มากขึ้นนโยบายบ้านมือสองจะส่งผลต่อตลาดสินเชื่อชัดเจนในปี 2549

สำหรับตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปี 2549 น่าจะมีขนาดตลาดสินเชื่อที่อยู่ปล่อยใหม่ ประมาณ 300,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีขนาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงเหลือทั้งระบบ ประมาณกว่า 1.25 ล้านล้านบาท ธอส. น่าจะมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 35% ทั้งสินเชื่อปล่อยใหม่ และสินเชื่อคงเหลือ

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่จะส่งผลต่อสินเชื่อที่อยู่ อาศัยได้แก่ เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เช่น สหรัฐอเมริกา ภาวการณ์ขยายตัวโดยรวมของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น GDP ไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 5.3% คาดว่าทั้งปี 4.25-4.75% และ 2549 ประมาณ 5% เกิดการขยายตัวของตลาดบ้านมือสอง โดยรัฐให้การส่งเสริม ด้านมาตรการภาษีจำนวนผู้ที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตนเองมีสัดส่วนถึง 50% หรือยังมีอุปสงค์ที่อยู่อาศัยอีกมากในตลาด เกิดโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่โดยภาครัฐจำนวนมาก

ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงและอยู่ในช่วงขาขึ้น ภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงโดยเฉลี่ยปี 2548 ทั้งปีอยู่ที่ระดับ 4.5% แต่คาดว่าปี 2549 จะลดลงเหลือ 5.0% อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นครึ่งปีหลังขึ้น 1% คาดว่าปี 2549 จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งปีอีกประมาณ 1% เช่นกัน ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น สืบเนื่องจาก ต้นทุนทางการเงิน และราคาวัสดุก่อสร้างประชาชนอาจหันมาลงทุนในทองคำมากกว่าอสังหาริมทรัพย์

สินเชื่อปล่อยใหม่ทั้งระบบ ระหว่าง ม.ค.-ก.ย. 48 มีจำนวน 203,924 ล้านบาท ซึ่งลดลงจาก ช่วงเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 4.0 (213,281 ล้านบาท) คาดว่า ปี 2548 ทั้งปี จะมีจำนวนถึง 291,090 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อคงเหลือทั้งระบบ ระหว่าง ม.ค.-ก.ย. 48 จำนวน 1,176,858 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 7.6 (1,094,132 ล้านบาท)   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us