Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 ธันวาคม 2548
แบงก์แลนด์เตรียมเพิ่มทุนพันล้าน คุยอนุมัติลูกค้าสินเชือภายใน3วัน             
 


   
search resources

Banking and Finance
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์เพื่อรายย่อย




แบงก์แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เผยปีหน้าเตรียมเพิ่มทุนอีก 1,100 ล้าน ตั้งเป้าปี 2550 เปิดสาขาเพิ่ม 30 แห่ง ใช้งบลงทุน 2-2.5 ล้านต่อสาขา เตรียมเข้าตลาดปี 51 หลังยกระดับเป็นแบงก์พาณิชย์เต็มรูปแบบ คุยจุดเด่น ให้บริการรวดเร็วอนุมัติสินเชื่อภายใน 3 วัน
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า ธนาคารมีความพร้อมที่จะให้บริการ อย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันได้มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท และคาดว่าน่าจะมีการเพิ่มทุนเป็น 2,600 ล้านบาทในช่วงปลายปี 2549 เพื่อรองรับการขยายตังของสินเชื่อ แต่ ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะหาพันธมิตร เข้ามาร่วมลงทุนในขณะนี้ เนื่องจาก มองว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นได้

ทั้งนี้ ธนาคารมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากที่ธนาคารได้ยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2551 ซึ่งจะสามารถให้บริการอย่างครบวงจร แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อน โดยธนาคารจะต้องมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทตามเกณฑ์ ธปท. ฉะนั้นธนาคารจะต้องมีความพร้อมมากกว่านี้ โดยกระบวนการในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินการพร้อมกับการยกระดับธนาคาร เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ

นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธาน กรรมการบริหาร ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย (LH BANK) กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางธนาคารไม่หวังยกระดับขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ ขนาดใหญ่ทั่วไป แต่จะเน้นนโยบาย ตอบสนองภาครัฐ รวมถึงรองรับการใช้เกณฑ์บาเซิล 2 (Basel II) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศใช้ในปี 2550

"ตอนนี้ระบบการปล่อยสินเชื่อ ของธนาคารมีความพร้อมที่จะรองรับเกณฑ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ซึ่งการนำระบบดังกล่าวมาใช้จะช่วยให้การปล่อยสินเชื่อมีความละเอียด รอบคอบมากขึ้น และจะเป็นผลดีต่อธนาคารเอง ซึ่งขณะนี้ทางแบงก์ได้มีระบบการบริหารความเสี่ยงเป็นอย่างดี หากเกณฑ์ บาเซิล 2 จะกำหนดใช้ในอีก 2 ปีข้างหน้า ก็ไม่มีปัญหา" นายรัตน์ กล่าว

สำหรับยอดสินเชื่อของธนาคารในปัจจุบันมีจำนวน 9,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2549 ที่จะถึงนี้ ธนาคารตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนยอดเงินฝากได้ตั้งเป้าหมายที่ 19,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ 15% ส่วนที่เหลืออีก 85% เป็นเงินฝากประจำ ส่วนสินทรัพย์รวมของธนาคารในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท และมีจำนวนพนักงาน 255 คน

ทั้งนี้ พอร์ตสินเชื่อของธนาคาร นั้นประกอบด้วยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 60-70% ส่วนที่เหลือคือประมาณ 30% จะเป็นสินเชื่อ แฟกตอริ่ง สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งคาดว่าภายหลังจากประกอบธุรกิจเป็นธนาคารเพื่อรายย่อยแล้วจะสามารถ ถึงจุดคุ้มทุนได้ประมาณสิ้นปีหน้า หากผลประกอบการทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งเชื่อว่าทำได้ตามเป้าหมายเพราะจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นลูกค้าของบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) รวมทั้ง บริษัทเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ (AP) ด้วย

นายรัตน์ กล่าวต่อว่า ธนาคาร มีแผนที่จะขยายสาขา 6-7 สาขา ในปี 2549 ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และพัทยา โดยใช้งบลงทุน 2-2.5 ล้านบาท ต่อสาขา ซึ่งได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มให้ได้ 30 สาขาภายในปี 2550 เพื่อรองรับการให้บริการของลูกค้าและเพื่อ ยกระดับธนาคาร แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ให้เป็นธนาคารพาณิชย์

ด้านจุดเด่นในการให้บริการของธนาคารนั้น คือ ความรวดเร็ว โดยธนาคารจะทำการพัฒนาระบบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อให้รวดเร็วกว่าธนาคารพาณิชย์แห่งอื่น ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน และในอนาคตจะพัฒนาระบบให้สามารถอนุมัติได้ภายใน 1 วัน จากเวลามาตรฐานที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจะอยู่ที่ 7 วัน

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 ธันวาคม 2548 (วานนี้) ธนาคารได้เปิดให้บริการรับฝากเงินและบริการสินเชื่ออย่างเป็นทางการหลังจากได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ยกระดับเป็นธนาคารเพื่อรายย่อยได้ในปีที่ผ่านมา โดยมีผลิตภัณฑ์เงินฝาก แบ่งเป็น เงินฝาก เดินสะพัด หรือกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 18 เดือน 24 เดือน 36 เดือน และเงินฝากปลอดภาษี

สำหรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้ของธนาคารนั้น ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) 6.50% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าเบิกเกินบัญชี (เอ็มโออาร์) 6.75% และดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าทั่วไป (เอ็มอาร์อาร์) 7.00% ซึ่งในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารจะคิดโดยพิจารณาจากธนาคารพาณิชย์รายเล็กๆ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us