-เชฟโรเลตสร้างปรากฏการณ์ม้านอกสายตา ขึ้นแท่นเบอร์4ยอดจองมอเตอร์เอ็กซ์โป
-เหตุลูกค้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ และราคาอะไหล่ที่ไม่แพง รวมถึงความสำเร็จของแคมเปญการตลาด
-เตรียมส่งซัพคอมแพ็กต์ เอวีโอ ชนฮอนด้า โตโยต้า

เชฟโรเลต แบรนด์รถยนต์ในกลุ่มเจอเนอรัล มอเตอร์หรือที่รู้จักในนาม จีเอ็ม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่วงการรถยนต์ไทยอีกครั้งด้วยการฟันยอดขายจากงานมหกรรมยานยนต์ที่ผ่านมาเป็นอันดับที่ 4 ด้วยยอดกว่า 1,600 คัน ต่อจากโตโยต้า ฮอนด้า และอีซูซุ ทั้งๆ ที่พึ่งรุกเข้าตลาดเมืองไทยอย่างจริงจังได้เพียง 5 ปีเท่านั้น แต่สามารถแซงรถยนต์คู่แข่งทั้งนิสสัน มิตซูบิชิ มาสด้า และฟอร์ดได้อย่างเหนือความคาดหมาย

ปัจจจุบันกลุ่มเจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ทำตลาดรถยนต์ในไทยภายใต้แบรนด์ เชฟโรเลต โดยมีตัวผลิตภัณฑ์ได้เกือบครบทุกกลุ่มได้แก่ โคโลราโด ปิกอัพเครื่องยนต์คอมมอนเรล, ออพตร้า รถยนต์นั่งขนาดเล็ก, ออพตร้า เอสเตท รถยนต์ประเภทสเตชั่นแวกอน และซาฟิร่า รถยนต์อเนกประสงค์หรือเอ็มพีวี ซี่งในปี 2547 ที่ผ่านมา จีเอ็มในประเทศไทยจบตัวเลขการขายด้วยปริมาณ 17,000 คัน แม้จะไม่สูงนักเมี่อเทียบกับยกลุ่มผู้นำตลาดทั้งโตโยต้า อีซูซุ หรือฮอนด้า แต่หากเทียบกับค่ายรถขนาดกลางด้วยกัน แบรนด์เชฟโรเล็ตถือว่ามีการเติบโตอย่างมาก

ในปีนี้ เชฟโรเลตคาดการณ์ว่าจะสามารถเข้าสู่ปริมาณยอดขายได้ถึง 34,000 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 100% เมื่อเทียบกับปี 2547 ชาติชาย สุวรรณเสวก ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประจำภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์(ประเทศไทย) จำกัดมองว่า ยอดขายที่ออกนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจต่อทั้งแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ของเชฟโรเลตมากขึ้น อีกทั้งลูกค้าส่วนหนึ่งได้มาจากการพูดปากต่อปากถึงรถยนต์เชฟโรเลต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการทำตลาดช่วงที่ผ่านมา

“จะเห็นได้ว่าตั้งแต่เชฟโรเลตเข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทยตั้งแต่ซาฟิร่า มาถึงโคโรลาโด ออพตร้า และออพตร้าเอสเตท รถรุ่นล่าสุดของเชฟโรเลต ทั้งหมดได้รับการยอมรับจากตลาดชนิดเกินความคาดหมายมาก บางรุ่นเช่น ออพตร้าเอสเตท เราคิดว่าจะขายได้ไม่มาก แต่ก็สามารถทำยอดขายได้เกิดเป้ามาก ซึ่งเรามองว่า เป็นเพราะสิ่งที่ลูกค้ามีความกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ของเชฟโรเลตเริ่มหมดไปนั่นเอง”

ชาติชาย มองว่า ที่ผ่านมาลูกค้ามองว่าเชฟโรเลต เป็นรถยนต์จากอเมริกา และราคาค่าอะไหล่ต่างๆ จะแพง แต่เมื่อได้มีรการทำประชาสัมพันธ์ให้ทราบเกี่ยวกับราคาอะไหล่ มีการเปรียบเทียบกับรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ทำให้ลูกค้าทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับราคาอะไหล่ ซึ่งไม่ได้แพงไปกว่าคู่แข่งหรือแบรนด์อื่นๆ เลย หรือแม้อะไหล่บางชิ้นราคายังต่ำกว่าคู่แข่งเสียด้วยซ้ำไป

นอกจากนี้ยังมีความมั่นใจในเรื่องศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายของเชฟโรเลต ที่ปัจจุบันมีแล้วกว่า 85 แห่งทั่งประเทศ รวมถึงบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงก็เป็นการสร้างความมั่นใจในบริการหลังการขายของเชพโรเลตต่อลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น

ประเด็นเรื่องของแคมเปญการตลาดต่างๆ ที่ออกมา เชฟโรเลต ถือว่าเป็นแบรนด์หนึ่งที่รุกตลาดด้วยกิจกรรมการตลาด และแคมเปญส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบ บอลลุน เพย์เมนท์มาใช้เป็นรายการ, การเขย่าตลาดด้วยแคมเปญดาวน์ต่ำ, ดาวน์ 0% หรือดอกเบี้ย 0% ทั้งผ่อนสั้นผ่อนยาว ชาติชาย บอกว่า เป็นการใช้จุดแข็งในด้านการมีบริษัทการเงินของตัวเองที่ให้การสนับสนุน ทำให้เชฟโรเลตสามารถกำหนดกลยุทธ์ด้านแคมเปญได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากกว่า

ในปีนี้เชฟโรเลต บอกว่ายังจะต้องมีกลยุทธ์การตลาดและแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และแปลกใหม่ๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเศรษฐกิจในแต่ละช่วงด้วย เช่น ช่วงน้ำมันราคาแพง หรือดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งแต่ละแคมเปญต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และตรงความต้องการของผู้บริโภคด้วย

สำหรับในปี 2549 นั้น คาดว่าจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่น แต่ยังไม่สามารถะเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยจะเป็นการขยับเข้าสู่กลุ่มรถยนต์ในเซ็กเมนท์ที่ทางเชฟโรเลตยังไม่มีผลิตภัณฑ์ของรับ แม้ทางเชฟโรเลตจะไม่เปิดเผยถึงรายละเอียดของรถยนต์รุ่นใหม่แต่คาดการณ์ว่า รถรุ่นใหม่ที่ว่านี้น่าจะเป็นรถยนต์ขนาดซัพคอมแพ็กต์ภายใต้ชื่อ"เอวีโอ"(aveo) เครื่องยนต์1.5 ลิตร 103 แรงม้า กลุ่มเดียวกับรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส และโตโยต้ายาริส ที่จะเปิดตัวในเร็วนี้

โดยคาดว่าเชฟโรเลตจะนำรุ่น 5 ประตูเข้ามาทำตลาดก่อนเนื่องจาก ตลาดมีความต้องการสูง โดยดูได้จากยอดขายฮอนด้าแจ๊สในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบัน มีการนำ เอวีโอ ทดลองใช้งานในเมืองไทยไประยะหนึ่งแล้ว