Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการายสัปดาห์19 ธันวาคม 2548
ชี้ความต้องการคอนโดสูง ส่งผลราคาขยับพุ่งขึ้น             
 


   
search resources

Real Estate




"โจนส์ แลง ลาซาลล์"ฟันธง ความต้องการคอนโดมิเนียมกลางเมืองสูง ส่งผลราคาขยับขึ้น ชี้ราคาขายเฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 71,000 บาท ส่วนเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ราคาคงที่แม้มีซัปพลายใหม่เข้ามา เหตุต่างชาติยังเข้ามาทำงานในไทยเพียบ

เบ็ญจวรรณ ลือวงศ์ประยูร หัวหน้าฝ่ายวิจัย โจนส์ แลง ลาซาลล์ เปิดเผยว่า ความต้องการคอมโดมิเนียมมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมือง(ซีบีดี) ส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากผลการศึกษาของโจนส์ แลง ลาซาลล์ พบว่าคอนโดมิเนียมในโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว (ทั้งอาคารเก่าและอาคารใหม่ มีราคาเฉลี่ยที่ตารางเมตรละประมาณ 63,700 บาท ซึ่งถือว่าสูงมากหากเทียบกับช่วงที่ราคาต่ำสุด ที่ราคาตารางเมตรละ 38,500 บาทเท่านั้น ในปี 2542 และช่วงที่ราคาเคยขึ้นสูงสุดที่ 52,000 บาทในปี 2537

ทั้งนี้ ราคาคอนโดมิเนียมในโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่จะอยู่ในทิศทางเดียวกันคือ มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ตารางเมตรละมากกว่า 71,000 บาท หากเทียบกับระดับต่ำสุดในปี 2539 ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2540 อยู่ที่ตารางเมตรละ 49,000 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ โครงการระดับเกรดเอบวกบางโครงการปัจจุบันมีราคาขายสูงถึงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร

ปัจจุบัน เขตศูนย์กลางธุรกิจและย่านสุขุมวิทของกรุงเทพฯ มีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วรวมทั้งสิ้นกว่า 47,500 ยูนิต และมีอีกประมาณ 12,000 ยูนิตที่ยังไม่เริ่มการก่อสร้างหรือกำลังอยู่ในระหว่างการสร้าง แต่มีการขายล่วงหน้าก่อนสร้างเสร็จแล้วในบางส่วน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการยังมีเช่นเดิม แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่ดีมากนัก

"จากการที่มีจำนวนยูนิตใหม่ๆ เปิดตัวเข้ามาในตลาดจำนวนมาก ทำให้ยอดการขายของโครงการที่เปิดตัวใหม่ๆ เริ่มชะลอตัวลง ทั้งนี้ ในขณะที่โครงการที่สร้างเสร็จแล้วมียอดขายเฉลี่ยเกือบ 100% โครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จและกำลังเสนอขายยูนิตล่วงหน้า มียอดขายเฉลี่ยที่ 60% ซึ่งเป็นยอดขายที่น่าพอใจ"

อย่างไรก็ดี มีโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อไม่นานมานี้บางโครงการที่สามารถทำยอดขายได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี รวมถึงตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง เช่น โครงการบ้านกลางกรุงสยาม-ปทุมวันของเอเชียน พร็อพเพอร์ตี้ และโครงการลุมพินีเพลสนราธิวาส-เจ้าพระยา ของแอล.พี.เอ็น ที่เปิดโครงการไปก่อนหน้านี้ในปีนี้ ประสบความสำเร็จด้านยอดขายเป็นอย่างดี

เบ็ญจวรรณ กล่าวว่า จำนวนยูนิตที่เปิดตัวเข้ามาในตลาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่ชะลอจำนวนลง โดยในปี 2546 มีโครงการเปิดตัวใหม่คิดเป็นจำนวนยูนิตรวม 5,500 ยูนิต ปี 2547 เปิดตัวยูนิตใหม่ 8,100 ยูนิต และปี 2548 เปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3,600 ยูนิต

"จากการที่ยอดขายเริ่มชะลอตัว และมีจำนวนยูนิตเสนอขายในตลาดเป็นจำนวนมาก คาดว่า ในปี 2549 ยอดจำนวนยูนิตที่จะเปิดตัวใหม่เข้ามาในตลาดชะลอตัวลงไปอีก และราคาขายจะมีระดับคงตัว" เบ็ญจวรรณกล่าว

เซอร์วิสฯยอดพักสูง 80%

หัวหน้าฝ่ายวิจัย กล่าวถึงสภาพตลาดเซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ว่า ปัจจุบัน กรุงเทพฯ ชั้นในมีเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์รวมทั้งสิ้นประมาณ 8,700 ยูนิต ในจำนวนนี้ มีอัตราการเข้าใช้บริการห้องพักเฉลี่ยสูงกว่า 80% ส่วนอาคารเกรดเอมีอัตราการเข้าใช้ห้องพักอยู่ที่ประมาณ 85-90% โดยมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยมีระดับสูงถึงเดือนละ 1,000 บาทต่อตารางเมตร เทียบกับจุดต่ำสุดในปี 2540 อยู่ที่เดือนละ 900 บาทต่อตารางเมตร

ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2549 รวมกว่า 1,600 ยูนิต หรือประมาณ 20% ของจำนวนยูนิตที่มีอยู่ทั้งหมดในขณะนี้ แม้จะมียูนิตใหม่มีกำหนดสร้างเสร็จเพิ่มขึ้นมากในปีหน้า แต่มีแนวโน้มว่า อัตราค่าเช่าและอัตราการเข้าใช้ห้องพักเฉลี่ยจะอยู่ในระดับคงที่ เนื่องจากคาดว่าความต้องการจะยังคงมีอยู่สูง โดยอิงจากตัวเลขของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ซึ่งระบุว่า จำนวนใบอนุญาตที่ออกเพิ่มให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ในปี 2547 มียอดสูงกว่า 18,000 ใบ

"แม้ตัวเลขใหม่ปีนี้จะยังไม่มีการประกาศออกมา อย่างชัดเจน แต่ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนการออกใบอนุญาตทำงานให้ชาวต่างชาติจะมีการชะลอตัวลง ดังนั้น เชื่อว่า ตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ของกรุงเทพฯ จะยังคงมีผลประกอบการที่ดีในปี 2549"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us