เปิดแผนปี 49 บลจ.เอ็มเอฟซีเตรียมจับมือธนาคารออมสิน ร่วมเป็นพันธมิตรในการรุกธุรกิจกองทุนรวมเจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด เพิ่มมาร์เกตแชร์ พร้อมเปิดตัวกองทุนเพื่อสังคม สนองนโยบายรัฐทุ่มลงทุนเมกะโปรเจกต์

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2549 จะให้น้ำหนักใน 3 ประเด็นหลักคือ 1.การขยายฐานลูกค้า ด้วยการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย จากปัจจุบันที่มีข้อจำกัดในช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านบริษัทและตัวแทนจำหน่าย 2.การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และ3.การดูแลเรื่องของภาพลักษณ์ให้เป็นที่ยอมรับนักลงทุน

สำหรับการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ขณะนี้บลจ.เอ็มเอฟซี ได้มีการประสานความร่วมมือกับธนาคารออมสิน ที่มีนโยบายยกระดับการดำเนินธุรกิจให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจประกันชีวิต ประกันภัย ธุรกิจกองทุนรวม และการให้บริการทางการเงินครบวงจร โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในส่วนของเครือข่ายของสาขา เพื่อเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนให้กับบลจ.เอ็มเอฟซี

"เราจะบุกต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งได้มีการ เตรียมความพร้อมทำงานร่วมกับธนาคารออมสิน และการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่การตลาดให้มากขึ้น โดยในปีหน้าเราตั้งเป้าเพิ่มมาร์เกตติ้งอีกประมาณ 30 คน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น" นายพิชิตกล่าว

ทั้งนี้ ในปัจจุบันธนาคารออมสินถือหุ้นในบลจ.เอ็มเอฟซี 13% และกระทรวงการคลังถือหุ้น 16% ในส่วนของการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า นายพิชิต กล่าวว่า ในปีหน้าการทำงานของผู้จัดการกองทุนจะมีความเข้มข้นขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนกองทุนภายใต้การบริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนมาตรฐาน ซึ่งจะมีการผสมผสานในเง่ของการให้บริการต่างๆ และการให้ข้อมูลข่าวสารลูกค้าอย่างครบถ้วน

สำหรับการดูแลภาพลักษณ์ของ บลจ. เอ็มเอฟซี ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีการสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทพอสมควร ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุน โดยในปีหน้าจะพยายามรักษาภาพลักษณ์ให้เป็นที่รู้จักของนักลงทุน

นายพิชิต กล่าวว่า นอกเหนือจากการปรับปรุงภาพลักษณ์ การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายแล้ว ในส่วนของระบบเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจกองทุน โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีภายในทั้งหมด โดยนำเทคโนโลยีที่มีความนำสมัยเข้ามาใช้ เพื่อให้กระบวนการทำงานมีความละเอียดมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานให้น้อยที่สุด

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วง 4-5 ปี ข้างหน้า บลจ.เอ็มเอฟซี ตั้งเป้าการเป็นบริษัทจัดการกองทุนในระดับภูมิภาค เพราะกระแสการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

นายพิชิต กล่าวว่า ในปีหน้าพอร์ตการลงทุนของเราจะไปต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ซึ่งปัจจุบันมีทั้งกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ เพื่อกระจายสินทรัพย์การลงทุนให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุนให้กับ ผู้ถือหน่วยลงทุน

นอกจากนี้ โครงการที่เกี่ยวข้องกับสังคมบริษัทยังได้เตรียมแผนการจัดตั้งกองทุน เพื่อรองรับการโครงการลงทุนสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ไม่ว่าจะเป็น พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ วายุภักษ์ 2 กองทุนซูคุก อิสลามิกฟันด์ ไทยแลนด์ อินฟราสตรักเจอร์ฟันด์ ซึ่งหากรัฐบาลมีความชัดเจนในการลงทุนในเมกะโปรเจกต์ บริษัทก็พร้อมที่จะจัดตั้งกองทุนได้ทันที เนื่องจากด้วางโครงสร้างพื้นฐาน ที่กฎหมายรองรับไว้หมดแล้ว