ในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง แต่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ กลับสวนกระแสตลาดกำไรอู้ฟู่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 21.808 ล้านบาท "อดิศร" ชี้ผลจากดัชนีตลาดหุ้นปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรับตัวดีขึ้น
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET) ได้รายงานผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2548 มีกำไรสุทธิ 34.574 ล้านบาท เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12.766 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.16 บาท เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 0.03 บาท ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 11.821 ล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 181.978 ล้านบาท และได้กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน 0.43 บาท
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่ผลประกอบการของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อิน-เด็กซ์ ฟันด์ ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 มีผลการดำเนินงานเปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ 20 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกองทุนนี้มีลักษณะเฉพาะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนจะมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้น เมื่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส ที่ 3 ของปี 2548 มีระดับที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 จึงส่งผลทำให้การดำเนินงานของกองทุนเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ มีการลงทุนในตราสารแห่งทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมเน้นลงทุนหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวนไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนหลักทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันทำการทุกสิ้นเดือนมุ่งจำลองการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยให้อัตราร้อยละการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสอดคล้องกับอัตราร้อยละการเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ และไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
ขณะที่ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2548 ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทน -2.70% เทียบกับดัชนีมาตรฐานตราสารทุนอยู่ที่ -3.38% ย้อนหลัง 6 เดือนให้ผลตอบแทน 2.24% เทียบกับดัชนีมาตรฐานตราสารทุนอยู่ที่ 0.92% ย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 10.67% เทียบกับดัชนีมาตรฐานตราสารทุนอยู่ที่ 7.39% และย้อนหลัง 3 ปีให้ผลตอบแทน 102.42% เทียบกับดัชนีมาตรฐานตราสารทุนอยู่ที่ 92.11% ทั้งนี้ ดัชนีมาตรฐานตราสารทุนเป็นไปตามเกณฑ์ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,472,837,056.97 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน 6.5615 บาท ราคาขาย 6.5616 บาท ราคารับซื้อคืน 6.5545 บาท จำนวนหน่วยที่ขาย 1,542,317.8228 หน่วย จำนวนหน่วยที่รับซื้อคืน 1,825,553.4112 หน่วย จำนวนหน่วยสุทธิ 224,465,912.3605 หน่วย
สำหรับสัดส่วนหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน ได้แก่ ลงทุนในหุ้น 97.88% เงินฝากธนาคารตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วแลกเงิน 4.68% สินทรัพย์ อื่นๆ -2.56% ส่วนหลักทรัพย์ 10 อันดับแรกที่กองทุนลงทุน ได้แก่
1. หุ้นสามัญ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) 13.13%
2. หุ้นสามัญ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) 6.2%
3. หุ้นสามัญ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) 5.79%
4. หุ้นสามัญ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) (SCC) 5.52%
5. ซิตี้แบงก์ (CITIBANK) 4.68%
6. หุ้นสามัญ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) 3.95%
7. หุ้นสามัญ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) 3.09%
8. หุ้นสามัญ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) 3.03%
9. หุ้นสามัญ บ.ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) 2.41%
10. หุ้นสามัญ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) 2.32%
|