บอร์ด MATI อนุมัติใช้เงิน 221 ล้านบาท เพื่อตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้น 20 ล้านหุ้นหรือ 9.76% ที่ราคาหุ้นละ 11.05 บาท กำหนด รับซื้อตั้งแต่วันที่ 3 -12 มกราคม 2549 แจงเงินสด เหลือเยอะ และไม่มีโครงการลงทุน แถมให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นมากขึ้น
นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) (MATI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 12/2548 วันที่ 13 ธันวาคม 2548 มีมติเกี่ยวกับการอนุมัติโครงการซื้อ หุ้นคืนเพื่อการบริหารการเงิน โดยมีวงเงินสูงสุดที่จะ ใช้ในการซื้อหุ้นคืน 221 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน ไม่เกิน 20,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 9.76% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
โดยวิธีการในการซื้อหุ้นคืนจะเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ในราคาหุ้นละ 11.05 บาท กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2549 ถึงวันที่ 12 มกราคม 2549 ซึ่งหลักเกณฑ์ใน การกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน โดยให้นำราคาหุ้นเฉลี่ย ย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้นด้วยราคาหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 30 วันทำการย้อนหลังก่อนวันที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลซึ่งเท่ากับ 11.05 บาทต่อหุ้นและบริษัทได้พิจารณาใช้ราคานี้เป็น ราคาเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป
สำหรับการที่บริษัทซื้อหุ้นคืน เนื่องจาก บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงิน และภาระหนี้คงค้างน้อย ประกอบกับยังไม่มีโครงการในอนาคตที่ต้องการเงิน ลงทุนจำนวนมาก บริษัทฯ จึงพิจารณาเห็นสมควรว่าการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทเองน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีต่อบริษัทฯและผู้ถือหุ้น
การจำหน่ายและการตัดหุ้นที่ซื้อคืน จะขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดระยะเวลา จำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2549 ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 (ภายหลัง 6 เดือน นับแต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้นแต่ต้องไม่เกิน 3 ปี) กำหนด หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาที่จะจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนในราคาไม่ต่ำกว่า 85% ของราคาปิดเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายล่าสุด
ทั้งนี้ ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นภายหลังซื้อหุ้นคืน เนื่องจากบริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลอย่าง ต่อเนื่อง เมื่อบริษัทฯมีผลกำไรและไม่มีความจำเป็นอื่นใดหรือสาเหตุใดๆ ซึ่งทำให้บริษัทฯต้องงดการจ่าย เงินปันผล ดังนั้น ภายหลังการซื้อหุ้นคืน บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นจำนวนรายน้อยลง ทำให้ อัตราเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น ผู้ถือหุ้นจะได้รับผลตอบแทนมากขึ้น
โดยเงินสดคงเหลือหรือมูลค่าทางบัญชีจะลดลง ซึ่งหากบริษัทฯ ดำเนินการซื้อหุ้นคืนตามวงเงินที่กันไว้สำหรับโครงการนี้ทั้งหมดจำนวน 221 ล้านบาทนั้นเมื่อสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนจะทำให้บริษัทฯ มีสินทรัพย์สภาพคล่องลดลงเป็นจำนวน 221 ล้านบาท
ข้อมูลจากงบการเงินสอบทานงวดล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 พบว่าบริษัทมีกำไรสะสมของบริษัทเท่ากับ 770,894,032.96 บาท และมีหนี้สินที่ ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้น คืนเท่ากับ 95,642,532.19 บาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีสภาพคล่องคงเหลือเพียงพอโดยสามารถใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุน เวียนของบริษัทฯ ในการชำระหนี้คืน และจำนวนผู้ถือ หุ้นสามัญรายย่อย (Free float) ณ วันปิดสมุดทะเบียน ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2548 เท่ากับร้อยละ 25.06 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
|