DTM ไตรมาส 2 ปีนี้ขาดทุนเพิ่ม 68% เนื่องจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่ม และบันทึกบัญชีรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทร่วม ขณะที่ผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินของ DTM สิ้นสุด 30 มิถุนายน 48 และตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามซื้อขายหุ้นของบริษัทต่อไป

นางกุลชลี นันทสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็ดวานซ์ แพลนเนอร์ จำกัด (ผู้ทำแผน)บริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน) ขอนำส่ง งบการเงินไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2548 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2548 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว โดยแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปีนี้ว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 48.70 ล้านบาท ขาดทุน เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 32.47 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนต่อหุ้นเพิ่มจาก 3 สตางค์ต่อหุ้นเป็น 4 สตางค์ต่อหุ้น หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 68%

เนื่องจาก ในไตรมาสที่ 2 ปี 2548 บริษัท DVM Technology Berhad ซึ่งอยู่ในประเทศมาเลเซียและเป็นเพียงบริษัทร่วม (ดาต้าแมท ถือหุ้นร้อยละ 38.25) มีการตั้งสำรอง ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนเงิน 52.78 ล้านบาท และบริษัทฯ บันทึกบัญชีรับรู้ผลขาดทุนสุทธิจากบริษัทร่วม จำนวน 27.08 ล้านบาท แต่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2547 บริษัทฯรับรู้ผลกำไรสุทธิ จำนวน 2.37 ล้านบาททำให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2548 รับรู้ผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น จำนวน 29.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน

ขณะที่ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2547 บริษัทฯได้บันทึกค่าความนิยมตัดจ่ายเป็นจำนวนเงิน 3.14 ล้านบาท แต่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2548 ไม่ได้บันทึกเนื่องจาก บริษัทฯได้ตัดจ่ายค่าความนิยมทั้งจำนวนแล้วในไตรมาสที่ 1 ปี 2548 และในไตรมาสที่ 2 ปี 2548 ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 3.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 267% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก บริษัทฯและบริษัทย่อยมีการบันทึกดอกเบี้ยจ่ายในอัตราผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เดิมเป็นจำนวน 3.15 ล้านบาท และในไตรมาสที่ 2 ปี 2548 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น จำนวน 1.34 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) หลักทรัพย์ DTM ตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์รอบเช้าของวันที่ 16 สิงหาคม 2548 เป็นต้นมา เนื่องจากบริษัทมิได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2548 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯภายในเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด

บัดนี้ บริษัทได้นำส่งงบการเงิน ดังกล่าวมายังตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว โดยผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบและพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง

เนื่องจากบริษัทยังอยู่ระหว่างการแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงยังคงสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ DTM ต่อไป