กลุ่มพายัพ ชินวัตร ผนึกกลุ่มนักลงทุนขาใหญ่หวังรวบรวมหุ้น เพื่อขอให้มีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทหลักทรัพย์(บล.)แอ๊ดคินซัน หวังทำการปลดคณะกรรมการบริษัทออกยกชุด พร้อมเตรียมหาผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาเสียบแทน ขณะที่ฝ่ายวิจัย บล.ไซรัส แนะนำให้ซื้อเพื่อเก็งกำไร

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า แม้ก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มนายพายัพ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ได้ร่วมกับนายชนะชัย ลีนะบรรจง ได้ปรับท่าที เพื่อเข้าร่วมบริหารกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน)

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีอีก กระแสข่าวหนึ่งระบุว่า กลุ่มนายพายัพ มีเป้าหมายที่จะเข้ามาเก็บหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน เพิ่มขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้ามาเก็บใบสำคัญแสดงสิทธิของบล.แอ๊ดคินซันชุดที่ 4 (ASL-W4) หรือวอร์แรนต์ชุดที่ 4 เป็นจำนวนมาก เพื่อหวังแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ โดยจะใช้สิทธิแปลงสภาพภายในวันที่ 16 มกราคม 2549 นี้

ทั้งนี้ กระแสข่าวลือยังได้ระบุต่อว่า กลุ่มนายพายัพมีความต้องการที่จะรวบรวมหุ้นให้ได้ในระดับหนึ่งเพื่อหวังที่จะให้สามารถขอเปิดประชุมผู้ถือหุ้นได้ และหวังที่จะปลดคณะกรรมการของ บล.แอ๊ดคินซัน ทั้งชุดออกมาให้หมดและดึงทีมผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาบริหารงานแทน

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมการของ บล. แอ๊ดคินซันได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหม่ ซึ่งประกอบด้วย นายเมธี ภมรานนท์ เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ,พลตำรวจเอก สมชาย วาณิชเสนี, นายสมศักดิ์ มั่นแดง เป็นกรรมการตรวจสอบ และนายวิชัย ใบประเสริฐ เป็นเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ และได้ดันให้นางสาวฐิติมา ธนากรโยธิน ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบล.เอเพกซ์ และเป็นผู้ที่มีความใกล้ ชิดกับนางอาภา คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ให้มารับตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่

อนึ่ง ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 นาย ชนะชัย ลีนะบรรจง ได้มาหุ้นของบล.แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน) จำนวน 10.22%

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)ได้ออกบทวิเคราะห์ในหุ้นบล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) ว่า ให้ซื้อเพื่อกำไรได้เมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาที่แนวต้านที่ระดับ 11 บาทให้ขาย หุ้นออกมาได้ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของหุ้นพบว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีนี้บริษัทขาดทุนสุทธิ 69.7 ล้านบาทขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาทซึ่งขาดทุนมากกว่าไตรมาส 1 และ 2 ที่ผ่านมา สาเหตุที่ขาดทุนเพราะค่าใช้จ่าย ที่สูงกว่ารายได้ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงานสูงอันดับ 1 ตามด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่ และอุปกรณ์

ในด้านมาร์เกตแชร์ของบริษัทหลังจากที่ได้มีการควบรวมกิจการกับบล.เอเพกซ์แล้วพบว่ามาร์เกตแชร์ลดลงจากปี 2547 ที่อยู่ในระดับ 3.20% ขณะที่ใน 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ในระดับ 2.21% และหากมูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ระดับประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งภายใต้สมมติฐานส่วนแบ่งการตลาดของบล.แอ๊ดคินซัน อยู่ที่ระดับ 2% เชื่อว่ายังมีโอกาสขาดทุนปีละประมาณ 100-200 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยบวกของบล.แอ๊ดคินซันนั้นมี 2 ประเด็น ได้แก่ ประการแรกคือราคาหุ้นในปัจจุบัน ถือว่าซื้อ ขายต่ำกว่ามูลค่าหุ้น ประการที่ 2 ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าบล.แอ๊ดคินซัน กำลังหาพันธมิตรมาร่วมทำธุรกิจ แต่ไม่มีการถือหุ้น ขณะที่ล่าสุดนายชนะชัย ลีนะบรรจง นักลง ทุนรายใหญ่ นั้นได้ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 10% แล้ว รวมกับวอร์แรนต์ อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นการลงทุนในลักษณะพันธมิตร ไม่มีเจตนาฮุบกิจการ

วานนี้(14 ธ.ค.)หุ้นบล.แอ๊ดคินซัน เปิดมาที่ระดับ 10.50 บาทหลังจากนั้นก็ปรับตัวขึ้นมาสูงสุดที่ระดับ 10.70 บาท ต่อมาก็มีแรงเทขายทำกำไรออกมาจนทำให้ราคาอ่อนตัวลง และมาปิดที่ระดับ 10.30 บาทลดลง 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 242.02 ล้านบาท