|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอ็มเอฟซีคาดตลาดหุ้นไทยปีหน้ามีโอกาสทดสอบระดับ 750 จุด ขณะที่ดัชนีปลายปีนี้มีโอกาสเห็น 720 จุด ลุ้นหุ้นน้องใหม่จุดพลุดัชนีปีหน้า โดยเฉพาะหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ คาดกำไร บจ.ปีหน้าขยายตัว 5% ลดลงเมื่อเทียบกับปีนี้ที่ขยายตัวกว่า 15%
นางสาวโมลิกา โอสายไทย นักวิเคราะห์การลงทุนอาวุโส ฝ่ายวิจัยกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงปลายปีคาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยเข้ามาเก็บหุ้นที่มีพื้นฐานดีเข้าพอร์ต โดยระหว่างต้นปีจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอดการลงทุนในตลาดหุ้นของนักลงทุน ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิกว่า 9.1 หมื่นล้านบาท
สำหรับแนวโน้มดัชนีในช่วงสิ้นปีนี้คาดว่าอาจขึ้นไปทดสอบระดับ 720 จุด ส่วนแนวโน้มในปีหน้าคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวทดสอบระดับ 750 จุด โดยได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2549 จะมีอัตราการขยายตัวประมาณ 4.5-5% ซึ่งสูงกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะขายตัวประมาณ 4.5%
นางสาวโมลิกากล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปีนี้ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น คลื่นยักษ์สึนามิ และปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเดียวกัน การเลื่อนเข้ากระจายหุ้นในช่วงปลายปีของ บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ถือเป็น อีกตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นในช่วงปลายปีไม่สู้ที่จะคึกคัก
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจ ที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า คาดว่าจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนเข้ามาลงทุนผ่านตลาดหุ้นมากขึ้น โดยมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท และปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.8-2 หมื่นล้านบาท
สำหรับปัจจัยหนุนที่สำคัญในการกระตุ้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ น่าจะเป็นเรื่องของหุ้นใหม่ ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาด หากหุ้นใหม่ที่เข้าจดทะเบียนได้รับการตอบรับจากนักลงทุน คาดว่าจะทำให้ตลาดโดยรวมดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีนี้ที่การลงทุนผ่านหุ้นจองนักลงทุน ต่างผิดหวัง
ส่วนการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นของ บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) หากสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ในปีหน้า เชื่อว่า จะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นคึกคักได้เช่นกัน เนื่องจากมีมูลค่าตลาดรวม (มาร์เกตแคป) สูง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับปีนี้ โดยคาดว่าอัตรากำไรของบริษัท จดทะเบียนเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ขณะที่อัตราผลกำไรในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 15% เนื่องจากผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมีกัล และหุ้นกลุ่มธนาคารในปีหน้าคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันในปีหน้าอาจมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หรือไม่ได้ทะยานสูงขึ้นอย่างที่เกิดขึ้นในปีนี้ ขณะที่กลุ่มธนาคารเริ่มมีการจ่ายภาษี ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีผลต่อการคำนวณอัตราผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งระบบกว่า 50% ซึ่งฉุดให้อัตราผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งระบบในปีหน้าปรับตัวลดลง
สำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจใน ปี 2549 บริษัทยังคงให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากได้รับประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก จะทำให้มีส่วนต่างดอกเบี้ยรับเพิ่ม และยังได้รับประโยชน์จากกรณีที่ทางการมีนโยบายซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ออกจากธนาคาร ซึ่งจุดนี้จะทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนถึงเอ็นพีแอลที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค ยังคงมีแนวโน้มไปได้ดีเช่นกัน
|
|
|
|
|