สองปีก่อน บิล มาริออตต์ จูเนียร์ ประธานกรรมการมาริออตต์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ตั้งปณิธานไว้ว่า ถึงปี 2000 เมื่อไหร่ มาริออตต์จะต้องมีสาขาทั่วโลก 2,000
แห่ง
ตอนนั้น โรงแรมในเครือของมาริออตต์มีแค่ 1,000 แห่ง แต่ตอนนี้ เป้าหมายดังกล่าวดูเล็กน้อยไปถนัดใจ
หลังจากที่มาริออตต์ประกาศเข้าซื้อเรอแนสซองซ์ โฮเต็ล กรุ๊ป ที่มีโรงแรมในเครืออยู่ประมาณ
150 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่นอกสหรัฐฯ ด้วยวงเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทใหม่ภายหลังการผนวกซึ่งจะมีเชนโรงแรมริทซ์-คาร์ลตันอยู่ด้วย
โดยที่มาริออตต์ถือหุ้น 49% จะมีสาขาทั่วโลกทั้งสิ้น 1,300 แห่ง
นิว เวิลด์ ดีเวลลอปเมนท์แห่งฮ่องกง ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเรอแนสซองซ์ ตกลงรับข้อเสนอของมาริออตต์ที่สัญญาจะจ่ายให้หุ้นละ
30 ดอลลาร์ โดยไม่เสียเวลาพิจารณาทางเลือกของดูเบิลทรี เพราะเสนอราคามาแค่หุ้นละไม่ถึง
27 ดอลลาร์ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 890 ล้านดอลลาร์
"นี่จะเป็นครั้งแรกที่เรามีโรงแรมในจีน อินเดีย รัสเซีย และตุรกี
และตอนนี้เราก็เป็นโรงแรมระดับโลกเต็มตัวแล้ว " มาริออตต์วัย 64 กล่าวอย่างภูมิใจ
บรรดาเชนโรงแรมคู่แข่งต่างอิจฉาตาร้อนเพราะล้วนปรารถนาจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกับมาริออตต์จนตัวสั่น
ความเคลื่อนไหวนี้ยังชี้ให้เห็นสัจธรรมในอุตสาหกรรมโรงแรมที่ว่า การกว้านซื้อโรงแรมทั่วโลกถูกกว่าสร้างขึ้นมาใหม่มาก
เหตุนี้เอง มาริออตต์ถึงได้ซื้อริทซ์คาร์ลตันเข้ามาเสริมอาณาจักรเมื่อ 2
ปีก่อน และฮิลตัน โฮเต็ลส์ถึงต้องประกาศประมูลซื้อไอทีที เชอราตันแบบปฏิปักษ์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่าน
ขณะเดียวกัน แผน "รวมกันเราอยู่" ในธุรกิจโรงแรมก็ถือเป็นข่าวดียิ่งสำหรับเหล่านักเดินทาง
ทั้งบิล มาริออตต์ และสตีเฟ่น บอลเลนบาค ซีอีโอฮิลตัน ต่างถือพิมพ์เขียวก๊อปปี้เดียวกัน
นั่นก็คือการสร้างบริษัทการโรงแรมที่มีห้องพักรับนักเดินทางพร้อมพรักในเกือบทุกเมืองสำคัญของโลก
เพียงแต่ลูกค้ากดหมายเลข 800 เท่านั้น
"สิ่งที่โรงแรมทุกแห่งมุ่งมั่นทำอยู่ในตอนนี้ก็คือ การขยายแบรนด์เนม
และช่องทางเข้าถึงระบบสำรองห้องพัก" แมทธิว ฮาร์ต ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน
(ซีเอฟโอ) ของอิลตันกล่าว
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นในใจของมาริออตต์คือ เขาหวังว่าการซื้อเรอแนสซองซ์จะทำให้โรงแรมมีโอกาสตามติดนักเดินทางที่หิ้วกระเป๋าร่อนไปทั่วโลก
ไปเสนอบริการที่คุ้นเคยไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ ณ มุมไหนของโลกก็ตาม
ในสหรัฐฯ เกือบ 60% ของโรงแรมทั่วประเทศ ล้วนมีสายโยงกับแบรนด์เนมดังอย่างมาริออตต์,
ฮอลิเดย์ อินน์ และไฮแอท แต่สำหรับนอกเมืองลุงแซม เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก
ผู้เล่นระดับโลกจริง ๆ ที่เห็น ๆ อยู่ก็มีแอคคอร์ของฝรั่งเศส กับแลดโบรคของอังกฤษ
เจ้าของเชนฮิลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล ส่วนในเอเเชีย ละตินอเมริกา และยุโรป
มีโรงแรมเพียง 20% เท่านั้นที่ลิงค์กับแบรนด์เนมระดับอินเตอร์ที่เหลือเป็นโรงแรมเล็ก
ๆ และเป็นที่รู้จักในวงแคบ
อย่างไรก็ดี นักเดินทางประเภทนักธุรกิจก็ไม่ชอบปล่อยให้ตัวเองเซอร์ไพรซ์เท่าไหร่นัก
หมายความว่าพวกเขาชอบที่จะเข้าพักในโรงแรมที่เคยไปมาแล้ว เกร็ก พลาว ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของมิลเลอร์
บริววิ่งที่หมดเวลา 60% ไปกับการเดินทางทั่วโลก กล่าวว่า โปรแกรมสะสมความถี่ในการเข้าพักของมาริออตต์ทำให้เขาได้รับบริการในมาตรฐานเดียวกันไม่ว่าจะเดินทางไปทำธุระในแห่งหนตำบลไหน
และต่อไปนี้ มาริออตต์ยังสามารถนำเรอแนสซองซ์มาร่วมในโครงการนี้ด้วย นักวิเคราะห์ชมเชยว่าเป็นการจับคู่ที่เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองคู่กับใบหยก
เพราะในจำนวนโรงแรม 1,057 แห่งซึ่งเป็นแฟรนไชส์หรือไม่มาริออตต์ก็ถือสิทธิ์การบริหารอยู่นั้น
เป็นโรงแรมที่อยู่นอกสหรัฐฯ แค่ 78 แห่ง ขณะที่ของเรอแนสซองซ์แม้จะมี 153
แห่ง แต่อยู่ในอเมริกาแค่ 33 แห่งเท่านั้น
เรอแนสซองซ์กำเนิดมาจากเชนรามาดา ที่ตกเป็นของนิวเวิลด์ ดีเวลลอปเมนท์
บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับนำของฮ่องกง ในปี 1989 สี่ปีต่อมานิวเวิลด์ยังเทกโอเวอร์สตุฟเฟอร์
โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ต เจ้าของโรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์ในวอชิงตัน, สแตนฟอร์ด
คอร์ตในซานฟรานซิสโก และเอสเมอรัลดา รีสอร์ตในปาล์มสปริง
อย่างไรก็ตาม หลายคนยังเป็นห่วงว่ามาริออต์จะบริหารแบรนด์ในมือที่มีอยู่ถึง
7 แบรนด ์ และกระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ อย่างไร เรื่องนี้มาริออตต์บอกว่าหายห่วงได้
ตัวเขามีแผนจะรวมทีมการตลาดและทีมบริหารของเรอแนสซองซ์กับมาริออตต์เข้าไว้ด้วยกัน
ซึ่งจะช่วยให้ช่วงเวลาของการปรับตัวผ่านไปอย่างราบรื่น นอกจากนั้น ยังจะหนุนรายได้และกำไรของมาริออตต์ด้วย
แต่การเติบโตของมาริออตต์ก็ยังผูกติดกับนิวเวิลด์ที่ถือหุ้น 54% ในเรอแนสซองซ์อยู่ดี
นิวเวิลด์นั้นตั้งใจจะปลีกตัวออกจากการบริหาร และเป็นเพียงเจ้าของโครงการเท่านั้น
ในช่วง 2-3 ปีหน้า บริษัทมีแผนสร้างโรงแรมอีก 4-5 แห่ง ในฮ่องกง และอีก 5-6
แห่งในจีน
เฮนรี่ เช็ง ซีอีโอเรอแนสซองซ์ และกรรมการผู้จัดการนิวเวิลด์ บอกว่าการเป็นหุ้นส่วนกับมาริออตต์เป็นประโยน์อย่างมากสำหรับแผนการสยายปีกในเอเชียของนิวเวิลด์
ที่ซึ่งตัวเลขนักเดินทางและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในอัตราปีละ 10% เทียบกับสัดส่วนทั่วโลกที่อยู่ที่
5%
เมื่อไม่นานมานี้เอง โฟร์ซีซัน คู่แข่งตัวยงของมาริออตต์เพิ่งเซ็นสัญญาครอบคลุมโรงแรม
4 แห่งในอินเดีย หนึ่งในจำนวนนี้จะเปิดบริการในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึง โฟร์
ซีซันยังเตรียมการกอสร้างโรงแรมแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ในช่วง ๆ นี้ เพราะเล็งเห็นศักยภาพมหาศาลของตลาดจีน
นักวิเคราะห์ผู้หนึ่งสรุปประเด็นให้ว่า ข้อตกลงล่าสุดของมาริออตต์นำเชนโรงแรมระดับพระกาฬแห่งนี้ไปสู่แถวหน้าในบรรดาผู้เล่นอเมริกันที่กำลังรุกขยายตัวต่างประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง
และผู้เล่นเหล่านี้เองที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโรงแรมแห่งเอเชียแปซิฟิก