"บุญถาวร" อิงผลวิจัยพฤติกรรมลูกค้า หลังไลฟ์สไตล์คนซื้อเปลี่ยนไปเน้นที่มีสินค้าให้เลือกชอปหลากหลาย ทุ่ม งบประมาณปรับปรุงสาขาปิ่นเกล้า- บางนา รับการเจริญเติบโตของประชากรในโซนนั้นๆ ตั้งเป้าปี 50 เพิ่มสาขาเป็น 9 แห่งตามหัวเมืองเศรษฐกิจในแต่ละภาค คาดปี 49 ยอดขาย 7,000 ล้านบาท

นายวิโรจน์ อภิวัฒนลังการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด เปิดเผยถึงผลการศึกษาและสำรวจตลา พบว่า พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าเปลี่ยนไป จากเดิมการซื้อผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านจะเป็นหน้าที่ของผู้รับเหมาทั้งหมด แต่ในปัจจุบันพฤติกรรมเปลี่ยนเป็นการเลือกซื้อด้วยตัวเอง โดยมีผู้รับเหมา สถาปนิกเป็นผู้ให้คำปรึกษา นอก จากนี้ ยังเลือกซื้อในร้านหรือโชว์รูม ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท มีสินค้าจำนวนมากให้เลือกซื้อ ทำให้ บริษัทเล็งเห็นความสำคัญของการปรับปรุงร้านค้าให้ทันสมัยและสวยงาม รวบรวมสินค้าที่หลากหลายและครบวงจร รวมถึงมีทีมงานผู้ออกแบบตกแต่งไว้รองรับสำหรับลูกค้าเข้ามาปรึกษา

โดยในปีนี้บริษัทได้ทำการปรับปรุงสาขาปิ่นเกล้าให้มีพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นจาก 2,600 ตารางเมตรเป็น 6,500 ตารางเมตร จากชั้นเดียวเป็น 2 ชั้น เพิ่มพื้นที่ส่วน DIY (Do it Yourself) กว่า 1,000 ตารางเมตร ด้วยงบประมาณกว่า 120 ล้านบาท โดยก่อนหน้าการปรับปรุงโชว์รูมใหม่สาขาปิ่นเกล้าสร้างยอดขายให้บริษัทเดือนละ 110 ล้านบาท ซึ่งในปี 2549 มั่นใจว่าสาขาปิ่นเกล้าจะสร้างรายได้ให้บริษัท 1,800 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการปรับปรุงโชว์รูมบุญถาวรสาขารัชดาฯ พบว่า ยอดขายปรับตัวดีขึ้น โดยในปีนี้ เพิ่มขึ้นถึง 50% จากในปี 2547 ที่มียอดขาย 1,400 ล้านบาท ปี 2548 มียอดขาย 2,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปีหน้ามียอดขาย 2,500 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงสาขาบางนา เป็นสาขาที่ 3 เพื่อรองรับการเปิดของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท บนเนื้อที่ทั้งหมด 27 ไร่ เพิ่มพื้นที่จาก 2,000 ตร.ม. เป็นประมาณ 10,000 ตร.ม.

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายที่จะปรับปรุงโชว์รูมปีละ 1 แห่งให้ครบทุกสาขาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคและการแข่งขันของตลาด ซึ่งหลังจากปรับปรุงโชว์รูมที่บางนาแล้ว สาขาต่อไปเป็นรังสิต

นอกจากการปรับปรุงโชว์รูมใหม่แล้ว บริษัทยังมีนโยบายจะเปิดโชว์รูมบุญถาวร เพิ่มขึ้นเป็น9 โชว์รูม ต่อเนื่องถึงปี 2550 จากปัจจุบันบุญถาวรมีทั้งหมด 5 โชว์รูม คือ สาขารัชดาฯ, บางนา, รังสิต, ธนบุรี-ปากท่อ 1 และธนบุรี-ปากท่อ 2 และสาขาปิ่นเกล้า โดยปลาย ปี 2549 จะเพิ่มโชว์รูมที่เกษตร-นวมินทร์ เป็นสาขาที่ 6 จำนวน 50 ไร่ งบประมาณ 250 ล้านบาท ส่วนรูปแบบนั้นอยู่ระหว่างออกแบบ เนื่องจากติดปัญหาเกี่ยวกับสีของผังเมืองที่กำหนดให้สร้างอาคาร ได้ขนาดไม่เกิน 2,000 ตร.ม. ดังนั้น อาจจะเป็นรูปแบบหลายอาคารเชื่อมต่อกันและจะเพิ่มโชว์รูมที่ 7 ที่พัทยา ขณะนี้กำลังเจรจาเพื่อซื้อที่ดิน และโชว์รูมที่ 8 คือเชียงใหม่ มีที่ดินแล้วจำนวน 60 ไร่ สำหรับสาขาที่ 9 บริษัทมีความสนใจในพื้นที่ภาคใต้ แต่ในขณะนี้กำลังมองหาทำเลเพื่อลงทุนสาขาใหม่

นายวิโรจน์กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้วยการผสมผสานระบบเทคโนโลยี(ไอที)ด้วยรูปแบบของ E-Library ซึ่งสามารถใช้บริการตรวจสอบสต๊อกสินค้าและราคาได้ทุกสาขา พร้อมกับเพิ่มการขนส่งให้เร็วขึ้น โดยวางเวลาการบริการไว้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังรับรายการสินค้า(ออเดอร์)จากลูกค้า นอกจากนี้ ยังเตรียมเพิ่มในส่วนของระบบจัดส่งทั้งสายส่งและระบบไอที การจัดสต๊อกสินค้า รองรับการเปิดสาขาในต่างจังหวัดด้วย

ปัจจุบันบุญถาวรมีอัตราการเติบโตปี 2548 (11 เดือน) กว่า 20% ด้วยยอดขายประมาณ 5,500 ล้านบาท แบ่งเป็น สาขารัชดาฯ ที่มียอดขายในปีนี้สูงที่สุด 2,000 ล้านบาท รองลงมาคือสาขาปิ่นเกล้ายอดขายประมาณ 1,300 ล้านบาท คิดเฉลี่ย 4,000 บาทต่อบิล และครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจค้าปลีกแบบครบ วงจรของประเทศเกี่ยวกับสุขภัณฑ์ ทั้งนี้ คาดการณ์ไว้ว่าจะมีอัตราการเจริญเติบโตในปี 2549 ประมาณ 30% และมียอดขายไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท

สำหรับในปีหน้า บริษัทมีแผน ที่จะเน้นทำตลาดกลุ่มฐานลูกค้าเก่า โดยส่งไดเรกต์เมลไปยังลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงบ้านหรือห้องใหม่(รีโนเวต) โดยบริษัทจะมีทีมออกแบบ ทีมช่างคอยให้คำปรึกษา และบริการซ่อม เนื่องจากลูกค้าส่วน ใหญ่จะกลัวความยุ่งยากในการปรับปรุงบ้าน