|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
บลจ.วรรณ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมียอดเอ็นเอวีจะเพิ่มเป็น 6.5 หมื่นล้านบาท หลังเปิดตัวกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก 2 กองทุน หวั่นเปิดเสรีการเงินปี 2550 จะกระทบธุรกิจ บลจ.ของคนไทย และวอนรัฐเลื่อนการเปิดเสรีออกไปก่อน
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (เอ็นเอวี) จะเพิ่มเป็น 65,000 ล้านบาท จากที่ปัจจุบันมียอดรวม 61,500 ล้านบาท ส่วนปี 2549 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกับตลาดโดยรวม ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเฉลี่ยเดือนละ 1 กอง เพื่อทดแทนกองเดิมที่ออกในปีนี้ที่จะทยอยหมดอายุลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่จัดตั้งกองทุนที่ลงทุนในตั๋วแลกเงิน (บี/อี) เป็นการเฉพาะ เนื่องจากขณะนี้เกณฑ์ในการออกและลงทุนในบี/อี เข้มงวดมากขึ้น ทำให้ไม่มีสินค้าให้เลือกลงทุนมากพอ โดยถ้าบริษัทจะลงทุนในบี/อี ก็จะใช้กองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในตราสารหนี้อื่นมาดำเนินการแทน และไม่มีนโยบายที่จะออกกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมอีก เพราะกองทุนที่มีอยู่แล้วมีนโยบายการลงทุนที่ครอบคลุมมากพอแล้ว รวมถึงการลงทุนในหุ้น เอ็ม เอ ไอ ด้วย
ส่วนปี 2549 บลจ.วรรณ จะเน้นขยายกองทุนหุ้นเดิมเป็นหลัก และมีแผนที่จะเปิดกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก 2 กองทุน ซึ่งสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในช่วงนี้คืออสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์
นางวิวรรณ กล่าวถึงการเปิดเสรีธุรกิจการเงินว่า จะทำให้การแข่งขันในธุรกิจ บลจ.สูงขึ้น และกระทบต่อการทำธุรกิจของ บลจ.ของไทยค่อนข้างมาก เนื่องจากต่างชาติมีฐานเงินทุนสูง และพร้อมที่จะแบกรับผลขาดทุนในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจได้นานกว่า บลจ.ไทย นอกจากนี้ นักลงทุนภายในประเทศอาจจะไม่มีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ที่ บลจ.ต่างชาติจะนำเข้ามา และอาจทำให้นักลงทุนได้รับความเสียหายจากการลงทุนได้ ทั้งนี้ คาดว่าอย่างเร็วที่สุดการเปิดเสรีธุรกิจการเงินจะเกิดขึ้นปี 2550 ซึ่งหากเป็นไปได้ บลจ.ไทยก็อยากจะให้ยืดเวลาในการเปิดเสรีทางการเงินออกไปก่อน
|
|
 |
|
|