|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำ เตรียมแตกไลน์ ขยายธุรกิจลงทุนที่พักอาศัย วางแผนพัฒนาที่ดิน 500 ไร่ ขึ้นคอนโดมิเนียมโลวไรส์ อาคารพาณิชย์ และบ้านพักระดับหรู จัดแบ่งโซนนิ่ง จับลูกค้าระดับกลาง-บน รับกระแสเมืองที่เติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันเตรียมใช้เงินทุนอีกกว่า 80 ล้านบาท รีโนเวท ห้องพัก จับตลาดครอบครัว ปรับปรุงระบบการจองผ่านเว็บไซต์ ตอบรับไลฟ์สไตล์ เทรนด์นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางด้วยตัวเอง ตั้งเป้าปีหน้าธุรกิจเติบโต 8.75% หรือมีรายได้กว่า 400 ล้านบาท
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท แอนด์สปา เปิดเผยว่า ทางโรงแรมฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจลงทุนด้านที่อยู่อาศัย เนื่องจากมีที่ดินที่พร้อมจะพัฒนาอีก 500 ไร่ บริเวณด้านหน้าริมถนนเพชรเกษม ฝั่งตรงข้ามโรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำ และบริเวณด้านข้างของโรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำ โดยการลงทุนครั้งนี้ก็เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองชะอำ และจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันนอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางเข้ามาจำนวนมากขึ้นทั้งหัวหินและชะอำ ยังมีสถานศึกษาหลายสถาบัน เข้ามาตั้งวิทยาเขต ตลอดจนการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ทั้งนี้ในรายละเอียดของแผนงานที่วางไว้คือ ที่ดินฝั่งตรงข้ามโรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำฯ บริเวณริมถนนจะสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ กึ่งธุรกิจ ส่วนด้านในสร้างเป็นคอนโดมิเนียม แบบโลว์ไรส์ ไม่เกิน 4-5 ชั้น ระดับราคายูนิตละ 4-5 แสนบาท ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบขายขาด และให้เช่า โดยจะจัดทำเป็นโซนนิ่ง ไม่ปะปนกัน เจาะกลุ่มคนทำงานบริษัทและโรงงาน ตลอดจน นักศึกษาสถาบันราชฎักและวิทยาเขตต่างๆในละแวกนี้
ส่วนที่ดินด้านข้างโรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำฯ ตามแผนที่วางไว้ คือ จะทำเป็น ที่พักอาศัยซึ่งมีทั้ง คอนโดมิเนียม และบ้านพัก ระดับหรู จับกลุ่มลูกค้าระดับ ทั้งคนไทยและต่างชาติ
จะลงทุนเองทั้งหมด แต่อาจจะจัดหาผู้ร่วมทุนในบางส่วน สำหรับการก่อสร้างยังไม่เริ่มในปีนี้ แต่ปีหน้าจะประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ และกำลังซื้ออีกสักระยะก่อนเริ่มดำเนินงาน
นอกจากนั้นในส่วนของโรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำฯช่วงโลว์ซีซั่นปีหน้า หรือประมาณ พ.ค.-มิ.ย.จะรีโนเวทห้องพักในโซน รีเจนซี่ วิง จำนวน 200 ห้อง ใช้งบลงทุนประมาณ กว่า 80 ล้านบาท หรือราวห้องละ 4-5 แสนบาท โดยการรีโนเวทจะปรับพื้นที่ห้อง เปลี่ยนเตียงให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มครอบครัว
สำหรับช่องทางจัดจำหน่ายได้มีการพัฒนาระบบการจองที่พักผ่านเว็บไซต์ ให้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยลูกค้าสามารถจองและเช็คห้องพักได้ทันที ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบเพื่อตอบสนองเทรนด์ของนักท่องเที่ยวที่เริ่มเปลี่ยนไป นิยมเดินทางด้วยตัวเองเพิ่มมากขึ้น โดยศึกษาข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยว และที่พักผ่านเว็บไซต์ ดังนั้นเราจึงพัฒนาเว็บไซต์และใส่ข้อมูลทั้งแหล่งท่องเที่ยวและการจองห้องพักบรรจุไว้ในเว็บไซต์ และปีหน้าตั้งเป้าหมายสัดส่วนการจองที่พักผ่านเว็บไซต์จะเป็น 5% ของยอดจองที่พัก จากปัจจุบันมีประมาณ 1-2% โดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แถบยุโรป สแกนดิเนเวีย เยอรมัน และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น โดยมีทั้ง เอเย่นทัวร์ และลูกค้าแบบ FIT
ทางด้านตลาดคนไทย แผนงานในปีหน้า จะเพิ่มกิจกรรมให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับการพักผ่อน เช่น การนำวัฒนธรรมพื้นบ้าน แหล่งท่องเที่ยวเขาวัง และขนมหวานเมืองเพชร และแหล่งชอปปิ้ง ที่เป็นเอ้าท์เลท เข้ามาผสมผสาน จัดเป็นโปรแกรมเชิงทัศนะศึกษา และนันทนาการ
นอกจากนั้นยังลงทุนอีกราว 15 ล้านบาท จัดสร้างสปา ไว้คอยบริการให้แก่ลูกค้า ล่าสุดจัดกิจกรรม “โครงการ ART FOR DOG” เป็นโครงการจัดประกวดเพ้นท์หุ่นสุนัข ชิงรางวัล เริ่มโครงการตั้งแต่วันนี้ถึง 15 เม.ย.49 แบ่งเป็น 2 รุ่น คือ รุ่น 7-12 ปี และ รุ่น 13-25 ปี โดยจะนำเงินรายได้ทั้งหมดบริจาคให้กับ “มูลนิธิรักษ์สุนัข” ที่หัวหิน ผู้สนใจสามารถซื้อน้องหมา เพื่อนำมาระบายสีและส่งประกวดในราคาตัวละ 199 บาท ได้ที่ โรงพยาบาลสัตว์ ทองหล่อ , โรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำฯ , และที่สำนักงานขายอาคารรีเจ้นท์เฮ้าส์ ชั้น 6
อย่างไรก็ตาม นาง ปิยะมานกล่าวทิ้งท้ายว่า โรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำฯ มีการปรับตัว เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ตลอด 22 ปีที่ได้เปิดดำเนินงานมา ซึ่งเราเชื่อว่า โปรดักส์ และบริการของ รีเจ้นท์ ชะอำ มีความเป็นมาตรฐาน และสามารถสู้กับคู่แข่งขัน หรือ โรงแรมที่เป็นเชนต่างประเทศได้ โดยเราบริหารธุรกิจแบบกระจายความเสี่ยง โดยทำการตลาดทั้งต่างชาติและคนไทย สัดส่วนลูกค้าจะอยู่ที่ต่างชาติ 60% และ คนไทย 40%
แผนการตลาดปี 2549 คาดว่าจะใช้งบ 30 ล้านบาทเพิ่มจากปี 2548 ประมาณ 2% โดยจะแบ่งทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และโรดโชว์ในต่างประเทศ 15 ล้านบาท และ อีก 15 ล้านบาท ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในประเทศไทย ตลอดจนออกบูธในงานคอนซูเมอร์เซลต่างๆด้วย สำหรับปีนี้ ผลประกอบการทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้ที่ 365 ล้านบาท มีอัตราการาเติบโตจากปีก่อน 11.52% และปี 2549 ตั้งเป้ารายได้ที่ 400 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปีนี้ 8.75%
|
|
|
|
|