|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คาโอฯ ทุ่ม 4,000 ล้านบาท ผุดโรงงานแห่งใหม่ย่านอมตะนคร เพิ่มกำลังผลิต 1.5 เท่า หวังดันไทยศูนย์กลางการผลิต-กระจายสินค้าอาเซียน ตั้งเป้าส่งออกปีหน้าโต 110% ล่าสุดแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ “ชิเกรุ อูเอยามา” ผ่ามรสุมปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ และภาวะการแข่งขัน ฉุดรายได้ปีนี้โตช้าแค่ 9% หรือราว 6,500 ล้านบาท ประกาศนโยบายปีจอเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์-แบรนด์สินค้า ชูการสื่อสารการตลาดแบบ 2 ทางกับผู้บริโภค
นายโมโตกิ โอซากิ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาโอ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยถึงการลงทุนในประเทศไทยว่า คาโอฯได้ลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อก่อตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร บนพื้นที่ 130,000 ตารางเมตร ซึ่งมีพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 เท่า มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า เริ่มเดินเครื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ เพื่อผลิตสินค้าอุปโภค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผ้าอนามัย เครื่องสำอาง รวมถึงเคมีภัณฑ์ ฯลฯ
ทั้งนี้โรงงานที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ จะเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ กำลังผลิตจะเน้นเพื่อป้อนตลาดภายในประเทศมากกว่าการส่งออก ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มส่งออกไปแล้ว ที่ ประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์และมาเลเซีย และภายหลังจากคาโอฯผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตในอาเซียน ในปีหน้านี้ตั้งเป้าไว้ว่า ผลประกอบการโดยรวมของคาโอจะมีอัตราการเติบโต 110%
“คาโอฯ ประเทศญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ที่มีศักยภาพเหนือกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งคาโอฯ เล็งเห็นว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ที่ยาวนานของไทยและญี่ปุ่น จะทำให้สัมพันธภาพทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศแข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคต ภายใต้ข้อตกลงทางการค้า FTA ของ 2 ประเทศ” นายโอซากิ กล่าว
สำหรับผลประกอบการในไทยปีนี้คาดว่าจะทำได้ 6,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตที่ช้าลงคือโต 9% เนื่องจากผลพวงจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นและสถานการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือจีดีพีของไทยขยายตัวได้เพียง 7-8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 10% อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่คาโอฯเท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภครายอื่นๆก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
ภายใต้การแข่งขันที่มีความรุนแรงและแนวโน้มตลาดสินค้าอุปโภคที่มีอัตราการเติบโต 4% ในปีหน้า บริษัทฯจะอาศัยความได้เปรียบจากคู่แข่ง ในฐานะเป็นคนเอเชียด้วยกัน ที่สามารถเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนเอเชียได้มากกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศตะวันตก พร้อมกับการเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ผ่านการสื่อสารการตลาดแบบ 2 ทาง ที่จะให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้บริโภค เพื่อให้เข้าใจถึงไลฟ์สไตล์ ซึ่งแนวทางดังกล่าวส่งผลให้คาโอในญี่ปุ่นเติบโตก้าวไปเป็น 1 ในบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและเครื่องสำอางที่มียอดขาย 940 พันล้านเยนต่อปี
ล่าสุดบริษัทแม่ได้แต่งตั้งให้ นายชิเกรุ อูเอยามา เป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้มารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แทนที่นายชินอิจิโร ฮิรามิน่า ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนก่อน
โดยนายอูเอยามา กล่าวถึงนโยบายการตลาดในปีหน้าว่า บริษัทฯจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ และแบรนด์สินค้า และการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะทำให้คาโอฯก้าวล้ำในการเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยจะให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรก เปิดรับฟังความคิดเห็น และการสื่อสารการตลาดแบบ 2 ทางกับผู้บริโภค ในเบื้องต้นปีหน้านี้ได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการกันแดดลงสู่ตลาดในประเทศไทย
|
|
|
|
|