"เป๊ปซี่" ฮึดสู้ตลาดน้ำอัดลมไม่โต เกาะกระแสเพลงฮิพฮอพ เปิดตัวอีเวนต์"เป๊ปซี่ ฮิพฮอพ ปาร์ตี้" ทะลวงผับ บาร์ เอ็กซ์คูซีฟ 16 แห่งทั่วกรุง หวังสร้างโอกาสการดื่มเจาะคนรุ่นใหม่ ชิงแชร์มิกเซอร์จากโค้ก พร้อมเล็งจัดกิจกรรมลงลึกถึงภูธร ชี้ปีหน้าเทรนด์เครื่องดื่มน้ำผลไม้มาแรง เร่งปั้น "ทรอปิคาน่า" ลงตลาดปีจอ

นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่ โคล่า ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาพตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมูลค่า 30,000 ล้านบาท ปีนี้ที่มีอัตราการเติบโตไม่นัก คือประมาณ 1-2% แบ่งเป็นน้ำสีมูลค่า 6,000 ล้านบาทซึ่งภาวะตลาดทรงตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มสุขภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับตลาดน้ำดำได้รับผลกระทบน้อยกว่า อีกทั้งผู้นำตลาดอย่างเป๊ปซี่ยังมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดน้ำดำมูลค่า 22,000 ล้านบาท ปีนี้เติบโต 5-6% ส่วนปีหน้าคาดว่าสภาพตลาดน้ำอัดลมโดยรวมจะไม่แตกต่างจากปีนี้มากนัก

ล่าสุดเพื่อผลักดันตลาดน้ำดำซึ่งเป็นตลาดใหญ่มูลค่า 22,000 ล้านบาท ให้มีอัตราการเติบโต บริษัทจึงต้องรุกทำตลาดในทุกช่องทาง โดยปีที่ผ่านมาบริษัทได้จัดกิจกรรมมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ที่ สวนอาหาร แต่ปีนี้ได้เจียดงบ 1 ล้านบาท ตอกย้ำกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการจัดกิจกรรม "เป๊ปซี่ ฮิพฮอพ ปาร์ตี้" ภายใต้คอนเซปต์เต็มที่กับชีวิตของเป๊ปซี่ โดยดึงโจอี้บอย และวงก้านคอคลับร่วมแสดงคอนเสิร์ตในช่องทางออนพรีมิสหรือสถานบันเทิง ผับ บาร์ ลักษณะเอ็กซ์คูซีฟ 16 แห่งทั่วกรุงเทพฯ เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม - มกราคมปีหน้านี้ จากนั้นจะพิจารณาถึงผลการตอบรับก่อน แล้วจะขยายกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวสู่ช่องทางออนพรีมิสในตลาดต่างจังหวัด

สำหรับปีนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เป๊ปซี่จัดกิจกรรมใหญ่ในลักษณะอย่างนี้ โดยอาศัยเทรนด์แนวเพลงฮิพฮอพที่กำลังมาแรง เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับตราสินค้า และทำให้ภาพลักษณ์ของเป๊ปซี่มีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ได้ทุกสไตล์การใช้ชีวิตและเหมาะสำหรับทุกโอกาส ทั้งการเป็นเครื่องดื่มที่เพิ่มรสชาติสดชื่นสะใจ และการเป็นเครื่องดื่มสำหรับเพิ่มความสนุกสนานในงานปาร์ตี้ได้อย่างลงตัว

"ในสถานการณ์ที่ตลาดไม่โตมากนัก เราจึงต้องขยายในทุกช่องทาง ซึ่งการจัดกิจกรรมเป๊ปซี่ ฮิพฮอพ ปาร์ตี้"เราไม่คาดว่าในเรื่องของยอดขาย แต่หากเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาดมิกเซอร์ระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับน้ำอัดลมจากเครื่องดื่มคู่แข่งโค้กได้ก็ดี ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทก็ได้รุกทำตลาดผ่านช่องทางออนพรีมิส ด้วยการนำ"ไฟโด ดีโด"มาสคอตกลับเข้ามาเปิดตัวอีกครั้ง ส่วนการทำตลาดของเป๊ปซี่ต้องการสร้างโอกาสในการดื่มให้มีความหลากหลาย โดยสิ้นปีนี้ตั้งเป้าว่าเป๊ปซี่ จะมีส่วนแบ่งเพิ่ม 2-3% จากปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดน้ำดำครองส่วนแบ่ง 62-63%"

นายชาลี กล่าวว่า แผนการตลาดในปีหน้าใกล้เสร็จแล้ว แต่คงจะไม่แตกต่างจากปีนี้ โดยจะเน้นเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มน้ำดำออกมาสร้างสีสันใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งและกับสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง โดยให้ความสำคัญในสัดส่วนที่เท่ากัน แต่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโอกาส เช่น ในปีหน้านี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก บริษัทได้เตรียมจัดแคมเปญ โดยนำนักฟุตบอลระดับซูเปอร์สตาร์ อาทิ เบ็คแฮม ซีดาน โรนัลดินโญ่มาสร้างกระแส ทั้งนี้เพื่อป้องกันบัลลังก์ผู้นำดื่มน้ำอัดลม และตอกย้ำกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาเป๊ปซี่ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวแคมเปญนักฟุตบอลระดับซูเปอร์สตาร์

แนวโน้มการแข่งขันในปีหน้ามีปัจจัยลบ 3 ประการ ได้แก่ การแข่งขันที่จะมีความรุนแรงมากขึ้นในกลุ่มน้ำอัดลมและกลุ่มเครื่องดื่มอื่นๆที่จะมาแชร์กลุ่มผู้ดื่ม เทรนด์กระแสสุขภาพที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะกระแสน้ำผลไม้ สังเกตุได้จากการทุ่มงบทางสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ของผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาดื่มน้ำผลไม้มากขึ้น ซึ่งเป๊ปซี่เองก็มีสินค้าในกลุ่มน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์ทรอปิคานา ที่กำลังจะเปิดตัวในปีหน้านี้ ส่วนแนวโน้มของนมถั่วเหลือก็มีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นเดียวกัน ส่วนวอร์เตอร์ พลัสตลาดนี้ยังไม่เกิดในเอเชีย ซึ่งเป๊ปซี่ก็มีเครื่องดื่มในกลุ่มนี้เช่นกัน ประการสุดท้ายที่เป็นปัจจัยลบ คือ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่คาดเดาไม่ได้