Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2540
"ปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย ยืนหยัดทวนกระแส HBO"             
 


   
search resources

HBO
ปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย
TV




หลายปีก่อน ยามเข้าไปรื้อปรับระบบองค์กรในบริษัท ยู แอนด์ ไอ คอปอเรชั่น จำกัด ธุรกิจในกลุ่มช่อง 3 ปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย เข้าข่ายยอดนักสู้ทีเดียวทว่าบัดนี้ริ้วรอยแห่งขวากหนามก็คงจางไปแล้ว

วันนี้ ในการทำงานร่วมกับทีวีบี ฮ่องกง เพื่อเผยแพร่รายการของคนเอเชียแข่งกับรายการที่ผลิตจากซีกโลกตะวันตก เช่น HBO ปราโมทย์ พบเกมใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม เพราะการเดินแนวทางนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่หนุ่มร่างเล็กที่ดูทะมัดทะแมงคนนี้ ก็คงเฉียบแหลมพอที่จะแสดงผลงานอีกครั้งหนึ่ง

ระยะ 3 ปีที่ผ่านมาแนวคิดในการส่งซอฟต์แวร์รายการไปสร้างตลาดยังต่างประเทศขึ้นสู่กระแสสูง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม มีเดียพลัส, มีเดีย ออฟ มีเดียส์ และบางกอกเอนเตอร์เทนเมนท์ หรือช่อง 3 เพียงแต่มีวิธีคิดแตกต่างกันไป

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจคอมพิวเตอร์ โทรคมนาคม สิ่งพิมพ์ และบันเทิง นักธุรกิจส่วนหนึ่งก็เริ่ม "คิดเหมือนกัน" คือจะต้องไม่จำกัดสายตาอยู่เพียงภายในประเทศที่ตลาดเริ่มแน่นขนัด

หากเป็นธุรกิจบันเทิงคำว่าตลาด มิได้หมายถึงประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประเทศที่อยู่ต่างทวีปทั้งในอเมริกา และยุโรปซึ่งมีคนเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือคนไทยและคนจีนอาศัยอยู่

การจะพิชิตตลาดในทำนองนี้ ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการอ่านอารมณ์มนุษย์ เพราะหนังจีน แม้จะสอดคล้องกับความต้องการของคนจีน ก็ยังไม่ได้หมายความว่า คนจีนทั่วไปจะดูหนังเหมือนกันหมด ยกตัวอย่างเปาบุ้นจิ้น เป็นหนังที่คนจีนในไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ ติดกันงอมแงม แต่ในไต้หวันกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก

คนไทยจำนวนไม่น้อยเบื่อละครไทยที่ไม่เพียงแต่น้ำเน่า แต่ยังอุตส่าห์ส่งกลิ่นอีกด้วย ครั้นเมื่อดูเคเบิลทีวีที่ลอกเลียนแนวคิดอเมริกา คนไทยจำนวนมากรู้สึกว่า เคเบิลทีวีก็คือทีวีช่องภาษาอังกฤษ จึงต้องผสมผสานรายการให้มีความเป็นท้องถิ่นมากขึ้น เป็นเหตุให้เคเบิลทีวีเกือบจะทุกเจ้าต่างเคยคุยนักคุยหนาว่าจะผลิตรายการเอง

"ยูทีวี ไอบีซี ไทยสกาย ทีวี ประกาศมากี่ครั้งแล้วว่าจะทำโปรแกรมเป็นรสนิยมท้องถิ่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และเคเบิลทีวีก็มีปัญหาที่เก็บค่าสมาชิกได้ไม่คุ้มสักที" ปราโมทย์ให้ความเห็น

ปัจจุบันเขาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของช่อง 3 และเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ทีวีบี 3 เน็ตเวิร์ก จำกัด ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนระหว่างช่อง 3 และทีวีบีฮ่องกง ในอัตรา 60:40

มิใช่ว่า ปราโมทย์จะดูเบาเคเบิลทีวี เพียงเพราะเขาสังกัดอยู่ในค่ายฟรีทีวี อันที่จริงช่อง 3 นั้นวางตัวเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจของเคเบิลทีวีมากกว่า เนื่องจากคลังซอฟต์แวร์รายการจำนวนมากของช่อง 3 สามารถสนองความต้องการของเคเบิลทีวีได้

"เคเบิลทีวีไม่มีทางลงทุนทำรายการเอง เพื่อสร้างช่องรายการไทย 5-10 ช่องอะไรทำนองนี้ เพราะมันแพงมาก ลงทุนสร้างละครเรื่องเดียว 10 ล้าน ไปฉายโรงหนังแล้วเก็บเงินได้ 20 ล้านบาทคุ้มค่ากว่าฉายทางเคเบิลทีวีซึ่งมีคนดูจำนวนน้อย เก็บได้แต่ค่าสมาชิก ค่าโฆษณาก็ไม่มี" ปราโมทย์กล่าว

นี่จึงเป็นช่องทางให้ช่อง 3 ประสานมือกับทีวีบี จัดแพ็กเกจรายการ ASIAN ENTERTAINMENT NETWORK (AEN) ขายให้แก่เคเบิลทีวีบางช่อง เช่น ยูทีวี เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่คลังบันเทิง แต่ธุรกิจก็มิได้หยุดเพียงเท่านี้เพราะ AEN มีโครงการที่จะขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และต่างทวีปที่มีคนไทยและคนจีนอยู่หนาแน่น

จากการเริ่มคอนเซ็ปต์ AEN มาจนวันนี้ ก็เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ในแง่การดำเนินงานก็กินเวลา 7 เดือน ปราโมทย์กล่าวอย่างสบายใจว่า AEN ได้ผลและทำกำไรแต่เขาก็มิได้แจกแจงตัวเลขว่าเท่าไร จึงต้องฟังหูไว้หูกันก่อนอย่างไรก็ตาม พออนุมานได้ว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดี

การประสานซอฟต์แวร์รายการระหว่างช่อง 3 กับ ทีวีบี ถือได้ว่าเป็นการรวมตัวของสองเจ้าถิ่น ที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะทีวีบีนั้นมีการขยายตัวออกไปยังไต้หวัน จีน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และแม้กระทั่งสหรัฐ หรือ TVB USA ประเทศเหล่านี้มีฐานคนจีนอยู่มากพอสมควร

เท่ากับว่าทั้งช่อง 3 และทีวีบี เริ่มทวนกระแสผู้ยิ่งใหญ่เช่น HBO ช่องทางของทีวีบี ก็จะกลายเป็นช่องทางธุรกิจช่อง 3 ด้วย

ภายใต้โลโก AEN-ที่ปรากฎบนจอโทรทัศน์ ผลประโยชน์ต้องเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ทั้งช่อง 3 และทีวีบี ก็มีอิสระที่จะดำเนินธุรกิจต่างแดนด้วยตนเอง

เห็นได้ชัดว่า ช่อง 3 เล่นบทสร้างภาพใหญ่ในลักษณะที่ไม่เสี่ยงจนเกินไปนัก ขณะที่ทีวีบีก็จะได้ประโยชน์จากตลาดในไทยและเพื่อนบ้าน โดยอาศัยมือการตลาดเช่นช่อง 3

เมื่อเริ่มต้นทั้งทีวีบีและช่อง 3 อาศัยการขายรายการที่มีอยู่แล้ว แต่ต่อไปก็จะเป็นการสร้างรายการใหม่ เพื่อกระจายไปตามช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเคเบิลทีวี ทีวีผ่านดาวเทียม และฟรีทีวีต่าง ๆ ซึ่งเป็นฐานตลาดที่ใหญ่กว่าเคเบิลทีวีเพียงอย่างเดียว

ความสำเร็จของ AEN ต้องอาศัยการปรุงรสที่สอดคล้องกับคนเอเชียเป็นหลักใหญ่ โดยที่ไม่กังวลกับการมีเครือข่ายแพร่ภาพกระจายเสียงมากนัก

"คนที่เป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ต่างหากที่จะเป็นเจ้าโลก" ปราโมทย์กล่าวอย่างมั่นใจ "ต่อให้เป็นเจ้าของฮาร์ดแวร์เป็นเจ้าของดาวเทียม มีทีวีนับร้อยช่อง แต่จะใส่รายการอะไรลงไปนี่สิเป็นปัญหาเคเบิลทีวีถึงลำบากไง เพราะซอฟต์แวร์ดี ๆ ล้วนมีราคาสูงทั้งสิ้น"

ความสำเร็จของช่อง 3 ทำให้ปราโมทย์มีพื้นฐานความคิดเช่นนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดในแง่ของเครือข่ายการส่งสัญญาณทีวี เป็นที่รู้กันดีว่าช่อง 3 มิได้มีแต้มต่อมากไปกว่าช่องอื่น ๆ แต่ออกจะเป็นรองด้วยซ้ำ แต่ช่อง 3 ได้รับความนิยม เพราะมีคุณภาพและรสชาติของรายการถูกใจผู้ชมมากกว่า เมื่อเรตติ้งสูงก็สามารถดึงดูดโฆษณาได้

"ละครช่อง 3 ไม่ได้ดังตูมตามทั้งปี บางเรื่องของช่อง 5 ดังกว่าก็มี แต่ช่อง 5 ดังเรื่องเดียว แล้วก็หายไป จึงไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เอเยนซี"

ช่อง 3 กำลังเริ่มยุคมหาอำนาจซอฟต์แวร์เอเซียไปยังตลาดใหม่ โดยไม่ผลีผลามลงทุนในเรื่องเน็ตเวิร์กทีวีอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะในรูปไหนเพราะอันที่จริงช่อง 3 ก็เป็นฟรีทีวีอยู่แล้ว

ในระยะนี้ ทีวีบี 3 เน็ตเวิร์ก ภายใต้โลโก AEN เริ่มผลิตรายการเพลงของชาวเอเชียที่เรียกว่า ASIN JUCTION และรายการสารคดีด้านสังคมธุรกิจเพื่อป้อนในไทยและขายในตลาดเอเซีย

ในตอนปลายปีนี้ ก็จะอาศัยเครือข่ายของ TVB USA เพื่อแพร่โปรแกรมของช่อง 3 คิดเงินจากการขายรายการ TVB USA มีถึง 8 ช่อง จึงนับเป็นช่องทางธุรกิจที่น่าสนใจทีเดียว ตอนนี้อยู่ระหว่างเปลี่ยนการส่งสัญญาณจากอะนาล็อกเป็นดิจิตอล จากนั้นก็จะเป็นการทดสอบสัญญาณ

นอกจากนี้ AEN ยังได้รับการติดต่อจากบริษัทไทย เวฟ อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง จำกัด เพื่อให้แพร่ภาพรายการไปยุโรป โดยมีศูนย์แพร่ภาพอยู่ในอังกฤษแต่ก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน

ทาง AEN มองว่า การดำเนินงานของไทยเวฟยังไม่เป็นธุรกิจอย่างเต็มตัว แต่ออกจะเป็นลักษณะ "กุศล" คือเป็นกระบอกเสียงของไทยในยุโรป จึงได้รับการสนับสนุนซอฟต์แวร์ฟรีจากช่อง 5 และช่อง 9 ทั้งที่ไทยเวฟมีการเก็บค่าสมาชิก เดือนละ 930 บาท จากผู้รับบริการ ซึ่งจะต้องติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียม และอุปกรณ์ถอดรหัสสัญญาณ

การดำเนินงานในระยะแรกของไทยเวฟ ไม่ได้ผลนักจึงต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ เพื่อให้อยู่ในธุรกิจต่อไปได้

ต่อมาไทยเวฟจึงเป็นบริษัททีวีผ่านดาวเทียมช่องภาษาไทยในเครือสหวิริยา โอเอ โดยสหวิริยาถือหุ้นอยู่ถึง 60% ผู้ก่อตั้งคือ ไวยวุฒิ จันทร์หอม ถือหุ้น 30 % อีก 10% เป็นของบริษัทซิสเท็กส์ อินโฟร์ โปร

"ผมใช้คำว่าไทยเวฟเป็นกระบอกเสียง เพราะเขาได้ซอฟต์แวร์ฟรี แต่ถ้าเมื่อไรเป็นธุรกิจอย่างจริงจังใครจะให้ซอฟต์แวร์ฟรีกับไทยเวฟ อย่าลืมว่าค่าเน็ตเวิร์กกับค่าซอฟต์แวร์มันแพง" ปราโมทย์ให้ความเห็น

แจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ ประธานกรรมการสหวิริยา โอเอ ซึ่งเข้ามาต่อชีวิตของไทยเวฟให้ยืนยาวขึ้น ก็คงไม่ได้มองผลกำไรในระยะสั้นเท่านั้น ด้านหนึ่งก็เป็นการชิมลางในธุรกิจใหม่ ๆ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็หวังให้ไทยเวฟเป็นเครื่องมือทางการตลาดของสหวิริยาในระยะยาว ซึ่งอาจจะเป็นในแง่การประชาสัมพันธ์และการขายสินค้า แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้ภาพร่างที่ชัดเจนนัก

การที่กลุ่มบันเทิงในไทยเริ่มมีความคิดในระดับภูมิภาคตลอดจนระดับโลก เป็นเรื่องน่าติดตาม เพราะธุรกิจเริ่มก้าวมาถึงจุดที่จะกระจุกตัวอยู่แต่เพียงในประเทศไม่ได้แล้ว

คนไทยส่วนหนึ่งก็มิได้มีชีวิตอยู่เฉพาะในเมืองไทยอีกต่อไป แต่ชีวิตอาจหมายถึงทั้งทวีปหรือทั้งโลก ทั้งในแง่ของการเดินทางและการสื่อสารนั่นคือคนชั้นกลางในเมืองไทยอาจกลายไปเป็นคนชั้นกลางในยุโรป ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาได้ในวันรุ่งขึ้น โดยมีวิถีชีวิตไม่ต่างกันนัก เพียงแต่รสชาติบันเทิงต่างหากเล่า ซึ่งยังต่างกันอยู่

นักธุรกิจมองว่า การสนองตรงส่วนนี้ได้อย่างมีศิลป์คือ เงิน เงิน และก็เงิน

นี่เป็นตลาดใหม่ที่มิใช่เป็นเรื่องแอบแฝงอีกค่อไปเหมือนกับการที่มีคนญี่ปุ่นมากมายในละตินอเมริกา มีคนหลายสัญชาติที่อาจกลายเป็นคนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ในสองทศวรรษหน้า

มีเดียพลัสเคยถึงกับต้องล้มเลิกโครงการวิทยุข้ามชาติไปยังลอสแองเจลิส เมื่อพบความจริงว่า ยังไม่ได้รับความสนใจ และไม่คุ้มกับการลงทุนเท่าไรนัก ไทยเวฟ ก็ยังขาดความน่าสนใจในเชิงธุรกิจแต่แนวคิดแบบ AEN ก็ยังมีโอกาสเร้าใจได้ โดยอาศัยฐานการตลาดที่กว้างกว่า และการลงทุนร่วมกับพันธมิตรซึ่งทำให้เสี่ยงน้อยที่สุดนั่นเอง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us