|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โตชิบา ลอนช์สินค้าใหม่ 100 รายการ รองรับไลฟ์ไซเคิลของสินค้าที่สั้นลง โดยชูจุดขายในเรื่องของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า พร้อมงัดกลยุทธ์สปอร์ตแอนด์เฮลธ์ รับกระแสบอลโลกและเทรนด์ด้านสุขภาพที่ผู้บริโภคยังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันวงจรชีวิตหรือไลฟ์ไซเคิลของสินค้าประเภทเทคโนโลยีมีอายุที่สั้นลง ช่วงเวลาไม่กี่เดือนสินค้าก็ตกรุ่น ต่างจากอดีตอย่างทีวีรุ่นหนึ่งสามารถอยู่ในตลาดได้นานหลายปี แต่ปัจจุบันต้องมีรุ่นใหม่ออกมาแทนที่รุ่นเก่าทุกปี ดังนั้น โตชิบา จึงมีการปรับตัวในเชิงรุกมากขึ้นด้วยการเตรียมออกสินค้าใหม่กว่า 100 รายการ ซึ่งถือว่ามากที่สุดสำหรับโตชิบาที่จะออกสินค้าในแต่ละปีมากขนาดนี้ แต่นอกจากจะต้องมีสินค้ารุ่นใหม่ๆออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ละเอียดซับซ้อนมากขึ้นแล้ว ยังต้องพบกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด ซึ่งคู่แข่งก็มีการออกสินค้าต่างๆมากมายและมีกลยุทธ์การตลาดอื่นๆที่จะดึงความสนใจจากลูกค้าไม่ว่าจะเรื่องของราคา เงินผ่อนระยะยาว ดอกเบี้ย 0% ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้นทำให้โตชิบามีความเสี่ยงไม่มากนักจากปัญหาลูกค้าผิดชำระนี้เป็นการลดความเสี่ยงไปในตัว และเพื่อที่จะแข่งขันกับคู่แข่งได้ โตชิบา จึงพยายามสร้างจุดต่างให้กับผลิตภัณฑ์ ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าซึ่งมีทั้งในเรื่องของการดีไซน์ การเพิ่มฟีเจอร์ในการทำงาน
ก่อนหน้านี้โตชิบาก็มีการใช้วิธีในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาแต่เมื่อสงครามราคาลดน้อยลงก็ต้องพบกับปัญหาวงจรชีวิตสินค้าที่สั้นลงทำให้การออกสินค้ารุ่นใหม่ๆที่มีแวลูแอ็ดเด็ดยังต้องทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลยุทธ์ด้านราคาโตชิบาจะเคยประกาศว่าจะไม่เล่นสงครามราคา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ล่าสุดมีการย้ายฐานการผลิตทีวีประเภทจอแบนและบางเข้ามาผลิตในประเทศไทยซึ่งทำให้มีต้นทุนที่ต่ำลงจนสามารถกำหนดราคาที่แข่งขันกับคู่แข่งได้ดีกว่าที่ผ่านมา ในขณะที่สินค้าหมวดเอชเอมีการผลิตในเมืองไทยอยู่แล้ว
สินค้าหลักๆของโตชิบามี 3 กลุ่ม คือ หมวดภาพและเสียง (AV) ทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 20% เครื่องไฟฟ้าในครัวเรือน (HA) 55% และ IT 25% สำหรับกลยุทธ์หลักที่โตชิบาจะใช้ในปีหน้าคือ สปอร์ตแอนด์เฮลธ์ เนื่องจากในปีหน้าจะเป็นปีที่มีมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งโตชิบาเป็นผู้สนับสนุนหลักทั้งฟุตบอลโลกและฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ขณะเดียวกันกระแสความห่วงใยในเรื่องของสุขภาพก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
โตชิบาจะมีการใช้งบการตลาดในปีหน้ากว่า 400 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 20% แบ่งเป็นงบโฆษณา 30% งบกิจกรรมการตลาด 70% โดยมีงบสำหรับทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในช่วงฟุตบอลโลก 40 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะสามารถปิดยอดขายได้ 4,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 11% ในขณะที่ตลาดเครื่องไฟฟ้ามีการเติบโตเพียง 5-8% เท่านั้น ซึ่งการที่โตชิบาสามารถสร้างการเติบโตได้มากกว่าตลาดรวมเป็นผลมาจากการออกสินค้าใหม่และการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้โตชิบายังได้คาดการณ์ถึงยอดขายในปีหน้าว่าจะสามารถปิดยอดขายได้ 4,400 ล้านบาท
"จุดแข็งของโตชิบาคือเรามีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้ารุ่นใหม่ มีฟีเจอร์ใหม่ๆที่จะตอบสนองผู้บริโภคในแต่ละตลาด ขณะเดียวกันเราก็ให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อดีลเลอร์และลูกค้าของเรา เราไม่ใช่แบรนด์ที่จะให้เขามากที่สุด แต่เราจะทำให้เขาพึงพอใจมากที่สุด การนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตไม่ได้เพียงการการสร้างรายได้ให้กับร้านค้า แต่เป็นคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเขาด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเราก็มีการทำกิจกรรมด้านสังคมร่วมกับดีลเลอร์ และสุดท้ายการมีสินค้าที่สามารถใช้งานร่วมกันเป็นโซลูชั่นในทุกลุ่มสินค้าไม่ว่าจะเป็น เอวี เอชเอ และไอที" กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร โตชิบา ไทยแลนด์ กล่าว
สินค้าที่เป็นไฮไลท์หลักของโตชิบาในปีหน้าคือทีวีเนื่องจากเป็นปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยสินค้าที่จะเน้นมากที่สุดคือ แอลซีดีทีวี ซึ่งมีราคาถูกลงหลังผลิตในเมืองไทย โดยมีขนาดตั้งแต่ 15-42 นิ้ว ราคาระหว่าง 30,000-159,000 บาท ขณะเดียวกันก็มีการสร้างเซกเมนต์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการจำหน่าย ดีแอลพี โปรเจ็กชั่น ขนาดหน้าจอ 72 นิ้วราคา 300,000 บาท ซึ่งมีความคมชัดกว่าโปรเจ็กชั่นทีวีทั่วไป และมีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดในเมืองไทย โดยก่อนหน้านี้ซัมซุงก็มีการออกดีแอลพีทีวีซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีระหว่างพลาสม่าทีวีกับโปรเจ็กชั่นทีวีเพื่อให้ได้ทีวีจอใหญ่ที่มีราคาถูกลงมาโดยดีแอลพีของซัมซุงรุ่นจอใหญ่สุดคือ 61 นิ้ว ขณะที่โซนี่ก็มีการทำแกรนด์เวก้าซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีแอลซีดีและโปรเจ็กชั่นทีวีเข้าด้วยกันโดยมีขนาดจอใหญ่สุดที่ 60 นิ้ว
ส่วนสินค้าเครื่องไฟฟ้าในครัวเรือนจะอิงกับเรื่องของสุขภาพ เช่น ตู้เย็นประตูเดียวก็มีการทำช่องแช่แข็งให้มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือรุ่น 2 ประตูก็มีการพัฒนาเทคโนโลยี Hybrid Plasma Deodorize ที่ยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งก่อนหน้านี้ซัมซุงมีการพัฒนาเทคโนโลยีซิลเวอร์นาโนช่วยในการยับยั้งแบคทีเรียเช่นเดียวกับตู้เย็นของอีเลคโทรลักซ์ ที่มีระบบป้องกันแบคทีเรีย
นอกจากนี้ยังมีเครื่องกรองอากาศที่มี Nano Farrite Filter ช่วยในการทำลายเชื้อแบคทีเรียและเชื้อต่างๆอีกหลายชนิด ทั้งนี้สินค้าหมวดเครื่องไฟฟ้าในครัวเรือนมีการเชิญ หมักแดง-ม.ล.เฉลิม สวัสดิวัฒน์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์รับเชิญในการร่วมทำกิจกรรมพิเศษกับดีลเลอร์และลูกค้าของโตชิบา
นอกจากในเรื่องของการจากความแตกต่างให้กับตัวสินค้าแล้ว โตชิบายังมีการพัฒนาช่องทางจำหนายซึ่งมีทั้งโมเดิร์นเทรดและดีลเลอร์ที่มีกว่า 350 ราย โดยจะมีการนำสินค้าที่สามารถต่อเชื่อมเป็นโซลูชั่น เช่น เอวี กับไอที มาจำหน่ายร่วมกัน เช่น ร้านคอมพิวเตอร์ก็จะขายโทรทัศน์ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ หรือ ร้านโทรทัศน์ก็จะมีการนำคอมพิวเตอร์หรือสินค้าอื่นๆที่ใช้งานเป็นโซลูชั่นร่วมกันได้มาขาย ซึ่งจะผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการขยายสาขาชอปโตชิบา ซึ่งเป็นเอ็กคลูซีพดีลเลอร์ที่จำหน่ายสินค้าแต่แบรนด์โตชิบา และ ร้านโตชิบาไอชอป ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าไอที รวมถึงเป็นช่องทางในการทำ CRM กับผู้บริโภคโดยมีการสาธิตวิธีการใช้งานสินค้า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค ล่าสุดมีการเปิดชอปรูปแบบใหม่ที่สยามพารากอนซึ่งจะมีการโชว์นวัตกรรมใหม่ๆของโตชิบา รวมถึงจะมีรุกตลาดองค์กรให้มากขึ้น
|
|
|
|
|