Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 ธันวาคม 2548
MME ควง TUCC ให้กำไรรายย่อย "ซีมิโก้" ได้ทีโวปีนี้เหนือจองทุกตัว             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้

   
search resources

ซีมิโก้, บล.
Stock Exchange
ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์, บมจ.
ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์, บมจ.




"ไมด้า-เมดดาลิสท์" ควงแขน "ไทยยูนีคคอยล์" ย่ำรอยหุ้นน้องใหม่ค่ายซีมิโก้ปีนี้เหนือจองทุกตัว บิ๊กซีมิโก้ ชี้ปีนี้ผลงานดีลูกค้าสนใจให้เป็นอันเดอร์ไรต์ฯ หุ้นเพียบ ด้าน "กมล" ย้ำศักยภาพบริษัทฯ ดี "โสภาวดี" เชื่อหุ้นใหม่ท้ายปีน่าจะสดใสตามหลัง 3 หุ้นน้องใหม่เทรดวันเดียวกันเหนือจองรวดทั้งหมด บล. ซีมิโก้ โชว์ผลงานด้านวาณิชฯ สุดสวย หุ้นที่ดูแลปรับขึ้นทั่วหน้า

วานนี้ (8 ธ.ค.) มีหุ้นที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) คือ หุ้น บมจ. ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ (MME) ซึ่งมี "นายกมล เอี้ยวศิวิกูล" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เข้าซื้อขายเป็นวันแรก จากราคาจองซื้อ (IPO) อยู่ที่ 8 บาท เปิดตลาดซื้อขายที่ 8.50 บาท โดยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 9.55 บาท ก่อนจะปรับลดลงมาปิดที่ 8.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 3.12% มูลค่า การซื้อขาย 475.48 ล้านบาท

ส่วนหุ้น บมจ.ไทยยูนีคคอยล์ เซ็นเตอร์ (TUCC) ที่เข้าซื้อขายเป็นวันแรก จากราคาจองซื้อที่ 2.70 บาท เปิดตลาดซื้อขายที่ 3.66บาท และปรับตัวสูงสุดที่ 3.80 บาท ซึ่งถือเป็นราคาปิดเพิ่มขึ้น 1.1 บาท หรือ 40.74% มูลค่าการซื้อขาย 390.15 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นน้องใหม่ดังกล่าวปรับตัวเหนือจองให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนในวันแรก สวนทิศทางตลาดหุ้นไทยโดยรวมที่กลับมาทรุดตัวลง หลังนักลงทุนเทขายทำกำไร

นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ เอนเธอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MME กล่าวว่า รู้สึกพอใจที่ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุน เพราะหุ้นราคาปรับเหนือราคาจองได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะว่าภาวะตลาดหุ้นดีขึ้นหลังจากปัญหาทางการเมืองระหว่างนายกรัฐมนตรี กับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล คลี่คลาย

ทั้งนี้ หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายดอกลำโพงและตู้ลำโพงสำหรับเครื่อง (กระดานปาเป้า) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 55% ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 25-30% เพราะฉะนั้น หากบริษัทฯ ได้รับยอดสั่งซื้อมากก็จะส่งผลให้กำไรปรับตัวดีขึ้น

ส่วนประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งหนังสือโดยให้บริษัทชี้แจงการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อมูลในหนังสือชี้ชวนบริษัทก็พร้อมจะดำเนินการชี้แจงภายใน 3 วัน ตามระยะเวลาที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด โดยที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 160 ล้านบาท ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ความเข้าใจในเรื่องตัวเลขผิดพลาด เพราะหากเปรียบเทียบกับยอดขายที่อยู่ที่ระดับ 205 ล้านบาท เป็นไปไม่ได้ว่าบริษัทจะมีกำไรถึง 160 ล้านบาท

ส่วนข้อมูลการขยายการส่งออกสินค้าของบริษัทไปยังประเทศต่างๆ 11 ประเทศ แต่ที่ระบุในหนังสือชี้ชวนระบุไว้เพียง 4 บริษัท เนื่องจากในช่วงที่ยื่นไฟลิ่งให้สำนักงาน ก.ล.ต.บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา ขณะที่ในวันที่มีการแถลงข่าวบริษัทได้ข้อสรุปในเรื่องการส่งสินค้าตามที่แถลงคือ 11 ประเทศ

อนึ่ง ได้มีการซื้อขายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) ในหุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ฯ จำนวน 20 รายการ คิดเป็น 17.8 ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 142.4 ล้านบาท ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 8 บาท

ซีมิโก้ฟุ้งปีนี้ผลงานเยี่ยม

นางปิ่นมณี เมฆมัณฑนา ผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบมจ. ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอนเธอร์เทนเม้นท์ กล่าวว่า ผลงานของ บล.ซีมิโก้ ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการ จำหน่ายบริษัทใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงที่ผ่านมา ผลงานถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ราคาหุ้นบริษัทต่างๆ สามารถปรับขึ้นเหนือราคาจองซื้อได้โดยตลอด ซึ่งทำให้หลายบริษัทมีความสนใจที่จะให้บริษัทเข้าไปจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บล.ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินหรือเป็นแกนนำในการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย (ลีดอันเดอร์- ไรเตอร์) ภายในปีนี้ ประกอบด้วย บมจ. ค้าเหล็กไทย (TMT), บมจ.เพิ่มสิน สตีล อินดัสทรี (PERM), บมจ.โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ (GC) และเตรียมที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปีนี้อีก ประกอบด้วยบริษัทเอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด(มหาชน)และยังมีบริษัทสตีล อินเตอร์เทค จำกัด (มหาชน) ที่บล.ซีมิโก้ เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

TUCC เชื่อ Q4 ดีกว่า Q3

นายยงยุทธ งามไกวัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUCC กล่าวว่า พอใจกับราคาหุ้นที่ซื้อขายในวันแรก ที่สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2.70 บาทได้ จากปัจจัยพื้นฐานบริษัทที่ดี ประกอบกับการดำเนินงานของธุรกิจมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง แม้ว่าภาวะตลาดหุ้นจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม

บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 4/48 จะออกมาดีกว่าในช่วงไตรมาส 3/48 ที่มีกำไรสุทธิ 25.09 ล้าน บาท เนื่องจากบริษัทมีคำสั่งซื้อค่อนข้างมาก โดยคาดรายได้ทั้งปีจะอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2549 รายได้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าจากปี 2548 เพราะหลังจากทางบริษัทฯ มีการระดมทุน ก็พร้อมจะนำเงินที่ได้มาซื้อเครื่องจักรขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ดังนั้นผลประกอบการในอนาคตคงจะดีขึ้น

ทั้งนี้ ผลประกอบการในไตรมาส 3/48 ปรากฏว่ามีกำไรสุทธิ 58.13 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.35 บาท กำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.93 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท ส่วนงวด 9 เดือนในปี 2548 มีกำไรสุทธิ 104.93 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.39 บาท กำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.02 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท

หุ้นใหม่ที่เหลือมีลุ้น

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หุ้นใหม่ที่เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็มเอไอช่วงหลังจากนี้น่าจะดีขึ้น หลังจากวานนี้ (8 ธ.ค.) หุ้นไอพีโอเข้าซื้อขายถึง 3 บริษัทก็สามารถยืนเหนือจองได้

ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองได้คลี่คลายทำให้ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัว และนักลงทุนมีความมั่นใจที่จะกลับมาลงทุนมากขึ้น โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีความเชื่อในพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย

"นักลงทุนรายย่อยยังนิยมที่จะเล่นหุ้นเก็งกำไร ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะต้องมีพื้นฐานของบริษัทประกอบด้วยตลาดหุ้นไทยจะต้องเพิ่มจำนวนนักลงทุนสถาบัน ซึ่งจะทำให้ดูหุ้นปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น" นางสาวโสภาวดีกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us