เอ็กแซ็กท์เผยสถานการณ์วงการโทรทัศน์เริ่มร้อน ระบุมีบางสถานีขอเพิ่มค่าโฆษณา มองว่าการทำงานทีวีปีหน้าจะยากขึ้นเหตุต้นทุนการผลิตพุ่งสูง เผยแผน ตลาดปี 2549 เน้นทำรายการเดิมที่มีอยู่ให้ดี และเตรียมปรับบางรายการใหม่ เพิ่มซิตคอมและละครคอมเมดี้ ส่วนประเด็น กสช. มองว่าส่งผลเสียต่อวงการและประชาชนเสียผลประโยชน์ที่สุด

นายถกลเกียรติ วีรวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด บริษัททีนทอล์ก จำกัด และบริษัทซีเนริโอ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบางสถานีเริ่มส่งสัญญาณไป ยังผู้ผลิตรายการในเรื่องการขอแบ่งยอดรายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาผ่านรายการต่างๆในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ตรงนี้มองว่าจะส่งผลต่อสถานการณ์โดยรวมของธุรกิจโทรทัศน์ในปีหน้าที่จะทำงานได้ยากลำบากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตจะมีสูงกว่าทางสถานีโทรทัศน์

รวมถึงเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีจะส่งผลต่อรายได้ของแต่ละสถานีที่อาจจะลดน้อยลง เพราะการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาของผู้ประกอบการสินค้ามีข้อจำกัดมากขึ้น ดังนั้น ในฐานะผู้ผลิตรายการจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรายการให้ดีขึ้นหรือพยายามรักษารายการเดิมที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของรายใหญ่จะได้เปรียบรายย่อยตรงที่มีความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น จำนวนรายการที่มีมากและงานที่มีคุณภาพ ขณะที่รายเล็กจำนวนรายการมีน้อย ดังนั้น โอกาสที่ลูกค้าจะเลือกลงโฆษณาจึงมีน้อยตาม แต่ถ้ารายการมีคุณภาพก็อยู่ได้

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี2549 ของทั้ง 3 บริษัทจะเน้นการทำรายการเดิมที่มีอยู่กว่า 15 รายการให้ดีขึ้น โดยจะมีการปรับเปลี่ยนบางราย การ อาทิ รายการคนดีผีคุ้มออกอากาศ ทางช่อง 9 จะเปลี่ยนเป็นคอมเมดี้ ซีรีส์เรื่องหนึ่งมิตรชิดใกล้ นำแสดงโดย แป้ง อรจิราและป้อง ณวัฒน์ , รักแปด พันเก้า ทางช่อง 9 จะเปลี่ยนเป็นราย การประเภทซิตคอมบ้านนี้มีรัก นำแสดงโดยกัปตัน ภูธเนศ หงษ์มานพ ส่วนรายการที่จะถูกปรับออก คือ ปาปารัสซี่ ที่ออกอากาศทางช่อง 9 เนื่องจากทางช่อง 9 เรียกเวลาคืนกลับ ไปบริหารเอง
ขณะที่รายการของบริษัทฯที่ออกอากาศทางช่อง 5 ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากทางช่อง 5 มีการปรับเปลี่ยนผู้อำนวยการสถานีคนใหม่ ดังนั้นผังรายการต่างๆ ของ บริษัทฯจึงยังไม่สรุป ล่าสุดสำหรับรายการที่ออกอากาศทางช่อง 5 เช่น ละครหลังข่าวที่ออกอากาศวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี, รายการน้องใหม่ดารามหาชน, เมืองมายารีพอร์ต และรายการขอบอก

สำหรับผลประกอบการของ บริษัทฯคาดการณ์ว่าในปี 2549 จะมียอดรายได้ 700-800 ล้านบาทและเติบ โต 10% ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตใกล้ เคียงกับปีนี้ โดยยอดรายได้แบ่งออก เป็นบริษัทเอ็กแซ็กท์และบริษัททีน-ทอล์ก 500 ล้านบาท และบริษัท ซีเนริโอ 300 ล้านบาท ส่วนตลาดรวม การใช้เม็ดเงินผ่านสื่อโทรทัศน์คาดว่าจะเติบโตไม่เกิน 10%

ส่วนปัญหาจากเรื่องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ หรือ กสช. ที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้เพิกถอนคณะกรรมการทั้ง 7 คน มองว่าส่งผล ต่อวงการโทรทัศน์และวิทยุของบ้านเรามาก ในด้านความไม่มั่นคงของธุรกิจ ซึ่งหากกสช.เกิดขึ้นเชื่อว่าจะพลิกรูปแบบของธุรกิจนี้ให้ดียิ่งขึ้น เพราะคนจะได้ทำงานอย่างเสรีขึ้น และ งานจะแข่งตรงที่คุณภาพของงาน และปัจจุบันผู้ประกอบการในบ้านเรามีความพร้อม และรอที่จะเปิดตัวอยู่หลายช่อง โดยรอเพียง กสช.เกิดและอนุญาตให้เปิดเท่านั้น แต่ผลสรุป กสช.ไม่เกิดตรงนี้คนที่ได้รับผลเสียมากที่สุด คือ ประชาชน