ราคาทองคำพุ่งกระฉูดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาขายทองคำรูปพรรณแตะบาทละ 10,250 บาท ขณะที่ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศทะลุ 508 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สูงสุดในรอบ 24 ปี นายกสมาคมผู้ค้าทองคำยอมรับฉุดยอดขายทองคำในช่วงปีใหม่ซบเซา คาดปีนี้ยอดขายในประเทศลดฮวบถึง 20% บีบผู้ค้าทองคำหันไปส่งออกต่างประเทศ
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคม ผู้ค้าทองคำ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำในประเทศคาดว่ายังคงมีทิศทางผันผวน และในระยะสั้นยังคงมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก โดยราคาทองคำวานนี้ (6 ธันวาคม) ทองคำแท่งราคารับซื้อคืน 9,850 บาท ราคาขาย 9,950 บาท ส่วนราคาทองคำรูปพรรณได้สร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาขายอยู่ที่ 10,250 บาท และราคารับซื้อคืนอยู่ที่ 9,763.04 บาท
สำหรับปัจจัยที่เป็นแรงกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยังคงเป็น ปัจจัยเดิมๆคือ การเข้ามาเก็งกำไรของบรรดา กองทุนเก็งกำไร (เฮดจ์ฟันด์) ที่โยกเงินเข้ามาเก็ง กำไรในตลาดค้าทองคำ จากที่ก่อนหน้าเข้าไปเก็ง กำไรราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยราคาทองคำใน ตลาดต่างประเทศได้ทะยานแตะ 508 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวสูงสุดในรอบ 24 ปี
"แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นก่อนถึงปีใหม่คาดว่ายังคงผันผวน และมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่ม คาดว่าจะทำให้ยอดขายทองคำในประเทศในช่วง ปีใหม่จนถึงปีใหม่ปรับตัวลดลง โดยเชื่อว่าปีนี้ทั้งปียอดขายทองคำภายในประเทศจะลดลงประมาณ 20%" นายจิตติกล่าว
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน-6 ธันวาคม 2548 การเคลื่อนไหวของราคาทองคำค่อนข้างผันผวน โดยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 950 บาท หรือคิดเป็น 10%
นายจิตติ กล่าวว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่ม ขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ฉุดให้ยอดขายทองคำในประเทศปรับตัวลดลง โดยในขณะนี้ทองคำส่วนใหญ่ที่มีการนำเข้าจะเน้นส่งออกไปขายยังต่างประเทศ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการชะลอตัวของยอดขายภายในประเทศ
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาหลังเปิดเสรีการค้า (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ประเทศไทยขาดดุลการค้าอยู่ 7,000 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้เป็นปีพิเศษที่มีการนำเข้าทองคำมากกว่า 20,000 ล้าน บาท แต่เมื่อนำมาแปรรูปทองคำในจำนวนดังกล่าว เพื่อการส่งออกแล้วจะมีมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท
นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ กล่าวอีกว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน คิดเป็น 20% ทำให้คนสนใจลงทุนด้วยทองคำมากกว่า แต่ประชาชนไม่ควรตื่นทองมากไป หากมีเงินเหลือเก็บ หรือต้องการลงทุนในระยะยาวควรจะใช้วิธีเก็บออมจะดีกว่า และคาดว่าในปีหน้าราคาอาจเพิ่มพุ่งสูงไปอยู่ที่ 525 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก็มีความเป็นได้
|