|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สภาพัฒน์คาดปี 48 จีดีพีโตถึง 4.7% หลังไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 5.3% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 4.5% ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลแค่ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่แบงก์ชาติปลื้มตัวเลขสภาพัฒน์ ลุ้นสองเดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปี แต่ไม่ควรตั้งเป้าเกิน 10% ต่อเดือน ด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ฯคาดจีดีพีไทยแค่ 4.5%
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)หรือสภาพัฒน์ แถลงภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 ว่า มีอัตราการขยายตัว 5.3% หรือเพิ่มขึ้น จาก 4.6% ในช่วงไตรมาส 2 ทำ ให้คาดว่าทั้งปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 4.7% ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าโต 3.8-4.3%
ทั้งนี้ ในรายงานสภาพัฒน์ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ขยายตัวสูงขึ้น เนื่องมาจากการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่การนำเข้าชะลอลง การท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และภาคเกษตรขยายตัว 4.4% หลังจากหดตัวต่อเนื่องมา 6 ไตรมาส โดยมีผลผลิตของพืชสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วเหลือง ผัก ผลไม้ และปาล์มน้ำมัน
ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลเล็กน้อยในไตรมาสที่ 3 ภายหลังจากที่ขาดดุลอย่างต่อเนื่องใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยรวม 3 ไตรมาสแรกของปี 2548 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 4.4%สูงกว่าการคาดการณ์ของแหล่งต่างๆ แม้ว่าอัตราเงิน เฟ้อจะสูงขึ้นเป็น 5.6% เนื่องจากผลกระทบราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นมาก นอกจากนี้ การใช้นโยบายการ เงินการคลังในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดความ สมดุลในระบบการเงิน มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง
"การดูแลเรื่องการนำเข้าและส่งออกในไตรมาส 3 ทำให้ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่มเป็นบวก รายได้จากสินค้าเกษตรขยายตัวเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ กุ้ง ไก่ และยางพารา ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเติบโตอย่างต่อเนื่อง"
โดยสรุป ตัวเลขเศรษฐกิจปี 2548 สภาพัฒน์คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 4.7 % อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเป็น 4.5% ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 1.8% ของจีดีพี และอัตราการว่างงานทั้งปีอยู่ที่ 1.9%
เลขาธิการสภาพัฒน์กล่าวด้วยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้าย เนื่องจากการส่งออกที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้สูงในหมวดอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์และชิ้นส่วน รวมทั้งการท่องเที่ยวฟื้นตัวมากขึ้น นอก จากนั้นผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง การปรับเพิ่มเงินเดือนราชการที่มีผลตั้งแต่เดือนต.ค.จะช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายครัวเรือน
ธปท.เตือนอย่าตั้งความหวังส่งออกสูง
นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสภาพัฒน์ชี้ให้เห็นว่าแม้มีปัญหาสินค้าล้นตลาด แต่เศรษฐกิจยังขับเคลื่อนและมีแรงขยายตัว ทั้งนี้ ธปท.คาดว่าปัญหาการผลิตสินค้าชะงักงันน่าจะเกิดขึ้นเฉพาะปี 2548
ทั้งนี้ ในเดือน พ.ย.และ ธ.ค.48 ตัวเลขเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะการส่งออกที่เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามา อย่างไรก็ตาม ไม่ควรตั้งความหวังไว้มากถึงขนาดที่ว่าการส่งออกใน 2 เดือนสุดท้ายของปี จะขยายตัวได้สูงกว่า 10% เพราะหากจะทำให้ขยายตัวได้สูงก็จะต้องส่งออกให้ได้สูงกว่าเดือนละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเรื่องที่เหนื่อย มาก
"แม้ว่าตัวเลขการส่งออกของเดือนตุลาคมที่ ธปท. ประกาศมีการขยายตัวเป็นตัวเลขเพียงหลักเดียว คือ 7% นั้นไม่ต้องตกใจ เนื่องจากฐานตัวเลขการส่งออกของเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมามีฐานสูงทำให้ตัวเลขการ
ส่งออกเดือนตุลาคมปีนี้ขยายตัวไม่มาก"
สำหรับปี 2549 เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าน่าจะขยายตัวต่อเนื่องได้ดี แต่ยังต้องติดตามปัญหาสินค้าล้นตลาดในภาคเกษตรว่าจะคลี่คลายหรือไม่ หากคลี่คลายไปในทางที่ดี ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีด้วย
ฟิทช์เรทติ้งส์ฯชี้จีดีพี 4.5%
นายวินเซนต์ มิลตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวประมาณ 4.5% ส่วนแนวโน้มในปีหน้าคาดว่าจีดีพีจะขยายตัวในระดับ 5% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น และการลงทุนของภาคเอกชน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้การส่งออกปรับตัวในทิศทางที่สูงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจจีนที่โตต่อเนื่อง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นที่คาดว่าจะขยายตัวสูงขึ้น
ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศในปีหน้า คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีนี้ โดยบริษัทเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก เพราะไม่ได้ปรับตัวสูงจนทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถรับภาระ ต้นทุนได้ ด้านการลงทุนของภาคเอกชน เชื่อว่าจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตบางภาคอุตสาหกรรมเริ่มเต็มกำลังผลิต
ตัวเลขเศรษฐกิจปี 2548
- จีดีพี 4.70%
- เงินเฟ้อ 4.50%
- อัตราการว่างงาน 1.90%
- ดุลบัญชีเดินสะพัด -3.2 พันล้านเหรียญ
ที่มา : สภาพัฒน์
|
|
|
|
|