สถานการณ์ตลาดเบียร์ไม่โตบีบคั้นสามค่ายเบียร์ "ไทยเบฟฯ-บุญรอดฯ-ไทยเอเชียฯ" ชี้เทรนด์สงครามฟองเบียร์ฟาดฟันด้วยพอร์ต โฟลิโอเพื่อช่วงชิงแชร์ "ไทยเบฟฯ" แก้จุดอ่อนซุ่มพัฒนาเบียร์เซกเมนต์พรีเมียม- สแตนดาร์ดรักษาบัลลังก์ "บุญรอดฯ" รอวัน คลอสเตอร์โตเปิดศึกเซกเมนต์พรีเมียม ส่วนขณะนี้ขอปั้นลีโอดูดแชร์ช้างก่อน ปีหน้าเขี่ยไทยเบฟขึ้นเป็นผู้นำตลาดเบียร์รวม "ไทยเอเชียฯ"จุดพลุมีพอร์ตโฟลิโอครบก่อนใคร หมายตา 3 ปีขึ้นเป็นผู้นำตลาด
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง อาชา เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันตลาดเบียร์ผู้ประกอบการ 3 ค่ายใหญ่ ประกอบด้วย ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด, บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จะสู้กันในเรื่องของพอร์ตโฟลิโอ หรือการมีเบียร์ที่ครบ ทุกเซกเมนต์ คือ ตั้งแต่เบียร์อีโคโนมี สแตนดาร์ด และพรีเมียม บริษัทจึงจะต้องเตรียมพัฒนาเบียร์ในเซกเมนต์ที่บริษัทยังไม่มีในพอร์ต เช่น เบียร์ เซกเมนต์พรีเมียม และเบียร์สแตนดาร์ด
ปัจจุบันบริษัทมีเบียร์อยู่ในพอร์ตเพียงเซกเมนต์ เดียว คือ อีโคโนมี ได้แก่ เบียร์ช้างเบียร์ดีกรีหนักมีแอลกอฮอล์สูง 6.5% และเบียร์อาชาเบียร์รสนุ่มมีดีกรี 5.4% โดยขณะนี้บริษัทกำลังพัฒนาเบียร์สูตรใหม่ เพราะสุดท้ายในฐานะที่บริษัทเป็นผู้นำตลาดเบียร์มูลค่า 82,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด กว่า 61% จะต้องมีเบียร์ครบทุกเซกเมนต์ แต่ตอนนี้ สภาพเบียร์พรีเมียมเป็นตลาดที่เล็กอยู่ คือ ประมาณ 5% ของมูลค่าตลาดรวม 82,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7,380 ล้านบาทเท่านั้น โดยมีผู้เล่นหลักเพียง 2 ราย คือ ไฮเนเก้น และอาซาฮี ส่วนสแตนดาร์ดสัดส่วนเพียง 15% หรือประมาณ 12,300 ล้านบาท มีผู้เล่นหลัก ได้แก่ เบียร์สิงห์ และไทเกอร์
ในขณะที่เบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี ซึ่งมีผู้เล่นรายหลัก ได้แก่ เบียร์ช้าง เบียร์ลีโอ และเบียร์เชียร์ ยังคงเป็นตลาดที่มีความสำคัญอยู่ เพราะเป็นตลาด ที่ใหญ่ที่สุดมูลค่าถึง 61,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดตัวเบียร์ใหม่ในเซกเมนต์พรีเมียมหรือ สแตนดาร์ด บริษัทไม่จำเป็นต้องใช้ตั้งชื่อแบรนด์ใหม่ เพราะมองว่าภายใต้แบรนด์ "ช้าง" เป็นตราสินค้า ที่มีความแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในวงกว้างอยู่แล้ว
ดร.พิษณุ วิเชียรสรรค์ กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้บริหารโรงงานจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ตอนนี้ในส่วนของโรงงานที่จังหวัดกำแพงเพชรทีมวิจัยและพัฒนาเบียร์ ได้พัฒนาเบียร์ในทุกเซกเมนต์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากนโยบาย ของบริษัทมีคำสั่งที่จะทำตลาดเบียร์เซกเมนต์ใหม่ ในส่วนของโรงงานมีความพร้อมที่จะส่งเบียร์ที่พัฒนาและวิจัยให้กับบริษัทเพื่อทำตลาดได้ทันที
ไม่เร็วก็ช้าจนเกินไปเชื่อว่าไทยเบฟฯคงจะต้องเปิดตัวเบียร์เซกเมนต์ใหม่อย่างแน่นอน เพื่อ รักษาบัลลังก์ความเป็นผู้นำตลาดเบียร์โดยรวม เพราะคู่แข่งหลักทั้ง 2 ค่ายจ้องที่จะช่วงชิงบัลลังก์ผู้นำตลาดเบียร์ ซึ่งทั้งสองค่ายได้ประกาศตัวเองอย่างเป็นทางการแล้ว โดยขณะนี้มีกระแสข่าวมาว่า ไทยเบฟฯเองกำลังซุ่มพัฒนาเบียร์ตัวใหม่โดยจะจ่อคิวลงตลาดเบียร์พรีเมียมในอนาคตอันใกล้นี้
บุญรอดฯชี้เทรนด์แข่งฟูลพอร์ต
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายเบียร์สิงห์ ไทเบียร์ ลีโอ และคลอสเตอร์ เปิดเผยว่า การแข่งขันในตลาดเบียร์มีแนวโน้มว่าจะแข่งกันในเรื่องของพอร์ตโฟลิโออย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันบริษัทถือว่ามีเบียร์อยู่ในพอร์ตที่ครบอยู่แล้ว ได้แก่ ลีโอและไทเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมีเบียร์สิงห์เซกเมนต์สแตนดาร์ด และคลอสเตอร์ เซกเมนต์พรีเมียม นอกจากนี้ ยังมีเบียร์อาซาฮีเบียร์ ระดับพรีเมียมที่บุญรอดฯเป็นหุ้นส่วนอีกหนึ่งตัว
แผนการตลาดจากนี้ บริษัทจะเน้นที่เบียร์ ลีโอเป็นหัวหอกหลัก ควบคู่กับเบียร์สิงห์ ส่วนคลอสเตอร์วางเป้าหมายให้เติบโตด้วยตัวเองไปก่อน โดยจะไม่เน้นทำตลาดมากนัก เนื่องจากมองว่าคลอสเตอร์ยังมีกลุ่มเป้าหมายที่จำกัดอยู่ คือ กลุ่ม นักท่องเที่ยวเป็นหลัก ล่าสุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ บริษัทได้ลงสื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์เพื่อตอกย้ำแบรนด์และสกัดผู้บริโภคไม่ให้ลืมแบรนด์คลอสเตอร์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้มีการทำตลาดเซกเมนต์พรีเมียมอย่างจริงจังก็ตาม แต่เป้าหมายในปีหน้านี้บริษัทจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดเบียร์โดยรวม ครองส่วนแบ่ง 47% แทนที่ไทยเบฟฯซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งกว่า 50% แบ่ง เป็นเบียร์ช้าง 50% อาชา 3% โดยปัจจุบันบุญรอดฯ มีส่วนแบ่ง 38% แบ่งเป็นเบียร์สิงห์ 12-13% เบียร์ ลีโอ 25% ขณะที่คู่แข่งไทเกอร์ 1-2% ไฮเนเก้น 5-6% อาซาฮี 2-3%
ทั้งนี้เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้บุญรอดฯเองคงต้องลุกขึ้นมาทำตลาดเบียร์ระดับพรีเมียมอย่างแน่นอน เพื่อครองความเป็นผู้นำตลาดเบียร์โดยรวมอย่างขาดลอย โดยการตั้งเป้าจะเป็นผู้นำตลาดของบุญรอดฯเพียง 47% นั้นยังไม่ขาดลอยมากนักเมื่อเทียบกับไทยเบฟฯ ดังนั้นการจะเป็น ผู้นำตลาดอย่างขาดลอยจะต้องทำเบียร์ตัวใหม่หรือเซกเมนต์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง
ไทยเอเชียฯ จุดพลุครบทุกเซกเมนต์
นายปัญญา ผ่องธัญญา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด หรือทีเอพีบี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ เปิดเผยว่า นโยบายทางการตลาดบริษัทต้องการ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเบียร์หลายแบรนด์ หรือเป็น "พอร์ต โฟลิโอ บริวเวอรี่" คือการมีเบียร์ครอบคลุม ทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ระดับพรีเมียม ซึ่งบริษัทมีเบียร์ ไฮเนเก้นลงสู่ตลาดเมืองไทยมานานแล้ว ตามด้วยเบียร์ไทเกอร์จัดอยู่ระดับสแตนดาร์ด ซึ่งเพิ่งเปิดตัว ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และล่าสุดเปิดตัวเบียร์เชียร์ เซกเมนต์อีโคโนมีลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคมนี้
โดยวางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปี บริษัทจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดเบียร์โดยรวมครองส่วนแบ่งอย่างน้อย 15% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 9% แบ่งเป็น ไฮเนเก้นเป็นผู้นำตลาดพรีเมียมมีส่วนแบ่ง 94% โดยปีหน้าตั้งเป้าโต 5% ส่วนไทเกอร์มีส่วนแบ่ง 4% ในสแตนดาร์ด ขณะที่เบียร์เชียร์หลังจากที่เปิดตัวลงสู่ตลาดในเดือนตุลาคมมียอดขาย 2 ล้านกระป๋อง และภายในปีแรกตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท หรือส่วนแบ่ง 5%
ตลาดเบียร์ล่วงหน้าส่งสินค้าในพอร์ตชิงแชร์
แนวโน้มตลาดเบียร์โดยรวมมูลค่า 82,000 ล้านบาทในปีนี้ไม่มีอัตราการเติบโต โดยมีมูลค่าเท่า กับปีที่ผ่านมาคือ 82,000 ล้านบาท หรือ 1,625 ล้าน ลิตร ส่วนแนวโน้มตลาดเบียร์ปีหน้าก็ไม่มีอัตราการ เติบโต ส่งผลให้ในปีหน้าสถานการณ์การแข่งขันจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยแต่ละค่ายจะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ภายใต้กลยุทธ์การแข่งขันที่มีชั้นเชิง มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง เพิ่มขึ้น และประการสำคัญแข่งขันในเรื่องของการมีพอร์ตโฟลิโอหรือการมีเบียร์ครบทุกเซกเมนต์ เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่งให้ได้มากที่สุดในทุกเซกเมนต์
|