ค่าย "มิตซูบิชิ" ระดมทุนครั้งใหญ่มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ด้วยการออก หุ้นกู้อายุ 3 ปีให้แก่นักลงทุนสถาบัน ค้ำประกันโดยธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ และถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรตติ้งสในระดับ AA+ เพื่อใช้ในการลงทุนผลิตปิกอัพรุ่นไทรทัน การพัฒนาและวิจัย (R&D) รถรุ่นใหม่ๆ ตลอดจนถึงการขายและส่งออก ขณะที่ยอดขาย ปิกอัพใหม่ในไทยเริ่มอืด ต้องงัดแคมเปญออก มาสู้ หวังดันยอดกลับมาอยู่ในอัตราปกติ 4-5 พันคันต่อเดือน

รายงานข่าวจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (MMTh) ได้เตรียมจัดหาเงินทุนโดย การออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี มูลค่า 5 พันล้านบาท ผ่าน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยกำหนดเปิดให้ผู้ลงทุนสถาบันแสดงความต้องการในวันที่ 8 ธันวาคมนี้

ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ดังกล่าว จะครอบคลุมถึงแผน ทางการเงินและรายได้ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รวมถึงการขยายการลงทุนในปิกอัพขนาด 1 ตัน มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ซึ่งถือ เป็นโมเดลหลัก ที่ผลิตอยู่ในโรงงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ตลอดจนถึงรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะผลิตออกมา โดยจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมิตซูบิชิ และการทำตลาดในไทยด้วย

สำหรับการออกหุ้นกู้ระดมทุนครั้งนี้ เป็นหุ้น กู้มีประกันของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ครั้งที่ 1/2548 ได้รับการค้ำประกันจากธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ และได้แต่งตั้งให้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้แทนถือหุ้นกู้ และมีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้กับนักลงทุนสถาบัน

แหล่งข่าวจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (MMTh) เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่าการออกหุ้นกู้เป็นจำนวนกว่า 5,000 ล้านบาท ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้หุ้นกู้ ในระดับที่ AA+ จากบริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ จำกัด นั่นแสดงให้เห็นถึงน่าเชื่อถือในระดับที่สูงมาก จึงน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันในประเทศไทย

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการผลิตปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน ซึ่งได้มีการดำเนินการผลิต และเปิดตัวไปในไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และจะเริ่มส่งออกประมาณต้นปีหน้าซึ่งการออกหุ้นครั้งนี้ถือเป็นการบริหารด้านการเงิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังมีการลงทุนบางส่วนที่ยังต้องใช้เงินอยู่ อย่างเช่น การพัฒนาและวิจัย หรืออาร์แอนด์ดี (R&D) รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ตลอดจนด้านการขายและส่งออก เป็นต้น

นายวิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ย่อมส่งผลดีต่อมิตซูบิชิ ในเรื่องของการสร้างความแข็งแกร่ง ทั้งในด้านการผลิตและขาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศและส่งออกปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน ไปกว่า 140 ประเทศทั่วโลก หรือ ปีละกว่า 1 แสนคัน ตลอดจนถึงการลงทุนด้านการพัฒนาวิจัยรถรุ่นใหม่ๆ ด้วย

ในส่วนของสถานการณ์ตลาดของปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน หลังจากเปิดตัวทำตลาดมาประมาณกว่า 3 เดือน ได้รับการตอบรับจากลูกค้า เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แม้ยอดขายเดือนตุลาคมจะลดลง เหลือเพียงกว่า 3 พันคัน แต่ในเดือนพฤศจิกายนยอดขายปิกอัพไทรทัน ได้กลับมาอยู่อัตราที่น่าพอใจกว่า 4 พันคัน ซึ่งอยู่ในอัตราปกติที่ประมาณ 4-5 พันคันต่อเดือน

"ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ลูกค้ามีความต้อง การปิกอัพ 4 ประตูสูงมาก แต่เราไม่สามารถ ผลิต ได้เพียงพอ จึงทำให้ยอดขายลดลงไปพอสมควร แต่ขณะนี้ได้แก้ไขได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่จะต้องทำต่อไป คือ ทำยังไงให้ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ใช้ซื้อปิกอัพเพื่อใช้งานจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปิกอัพแบบมาตรฐาน และเมกะแค็บ ให้เลือก ใช้ปิกอัพมิตซูบิชิ เพราะต้องยอมรับว่าลูกค้ากลุ่ม นี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องรถโมเดลใหม่หรือ ไม่แต่อยู่ที่การเป็นเจ้าของรถได้ง่ายมากกว่า"

นายวิกรานต์กล่าวว่า เพื่อตอบสนองความ ต้องการลูกค้ากลุ่มใหญ่นี้ ล่าสุดมิตซูบิชิจึงได้ออกแคมเปญดาวน์ต่ำเพียง 29,000 บาท สำหรับปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นเมกะแค็บ พร้อมรับประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี ซึ่งการออกแคมเปญนี้ไม่ใช่เป็นการสนับสนุนทางการเงินของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แต่เป็นเงื่อนไขพิเศษที่ร่วมมือกับบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

สำหรับการแข่งขันของตลาดปิกอัพในปีหน้า หรือ 2549 คาดว่าจะแข่งขันกันรุนแรง เพราะจะมีรถยนต์โมเดลใหม่ๆ เปิดตัวสู่ตลาดหลายรุ่น แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อมิตซูบิชิมากนัก ซึ่งอย่างที่บอกไว้ ลูกค้ากลุ่มใหญ่ไม่ได้เน้นเรื่องรถโมเดลใหม่ แต่เขาต้องการรถที่ใช้งาน และเป็นเจ้าของได้ง่าย ขณะที่รถใหม่ไม่สามารถเล่นเรื่องราคา หรือแคมเปญได้ จึงทำให้เสียเปรียบรถเก่าที่ทำตลาดไปได้ระยะหนึ่งแล้วมากกว่า