เผยยอดเสนอขายบ้านเอื้ออาทร ยังไม่เข้าเป้า หลังเปิดรับซื้อโครงการแบบเทิร์นคีย์กว่า 1 เดือน ล่าสุดยอดเสนอขายรวม 318,916 หน่วย จากจำนวนบริษัทเสนอขาย 25 ราย ชี้รับเหมารายเล็ก-ใหญ่ที่ผ่านขั้นตอนวางหนังสือค้ำประกัน ล้วนเป็นบริษัทร่วมลงทุนกับต่างชาติเกือบหมด ด้านรองผู้ว่า กคช. แจงนำระบบ ERP ช่วยลดต้นทุนบริการ ตรวจสอบงานเสริมศักยภาพการแก้ปัญหาขั้นตอนดำเนินงาน ช่วยยืนราคาบ้านเอื้อฯ คาดระยะแรกลดต้นทุนได้กว่า 70%
แหล่งข่าวจากการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ กคช.เปิดให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างและบริษัทเอกชน เสนอขายโครงการบ้านเอื้ออาทรแบบเทิร์นคีย์ให้แก่ กคช.ซึ่ง กคช.ได้เปิดรับซื้อโครงการที่เสนอขายทั้งสิ้น 400,000 หน่วยตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.ถึง 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้รับเหมาได้นำเสนอจำนวนยูนิตเข้ามาแล้ว ทั้งสิ้น 318,916 หน่วย จากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 25 ราย จากจำนวนผู้รับเหมาที่เข้าร่วมรับฟังเงื่อนไขของการเสนอขายบ้านให้กับ กคช. 58 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง กคช.คาดจะมีผู้ยื่นเสนอประมาณ 380,000 ยูนิต
ทั้งนี้ มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่เสนอขายจำนวนตั้งแต่ 10,000 หน่วยขึ้นไปและมีการวางบิดบอนด์ การันตีแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการพิจารณาของคณะกรรมการและบอร์ด กคช. โดยบริษัทเหล่านั้น อาทิ บริษัทกิจการร่วมทำงาน ภคภูมิ-ไอทีดี บริษัทในเครืออิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ITD เสนองานก่อสร้าง 100,000 ยูนิต, บริษัท กิจการร่วมค้า ซินเท็ค-ไมวาน เสนอ 50,000 ยูนิต, บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เสนอ 40,000 ยูนิต, บริษัทกิจการร่วมค้า เอสจี-เอ็มเอ็นเอช-เอเพ็คซ์ เสนอ 30,000 ยูนิต, บริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่นเอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เสนอ 20,000 ยูนิต, บริษัท กิจการร่วมค้า พีซีซี เสนอ 10,000 ยูนิต, บริษัท กิจการร่วมค้า เอ.เอส. แอสโซซิเอท และกลอรี่ คอนสตรัคชั่น เสนอ 20,000 ยูนิต และบริษัทราชธานี บ้านและที่ดิน จำกัด เสนอ 14,136 ยูนิต เป็นต้น
ขณะที่บริษัทที่ได้เสนอทำโครงการบ้านเอื้ออาทรต่ำกว่า 1,000 ยูนิต เช่น กิจการร่วม ค้าของ เอเคดีและซีเอนซี 684 ยูนิต, บริษัท ฤทธาเหมราช จำกัด 585 ยูนิต, ห้างหุ้นส่วนจำกัด บี เอส (97) คอนสตรัคชั่น 360 ยูนิต และบริษัท ทีเน็ต เอเชีย จำกัด 220 ยูนิต เป็นต้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า การเสนอโครงการในครั้งนี้ ผู้รับเหมาทั้งรายเล็กและรายใหญ่ส่วนใหญ่ จะเป็นบริษัทที่มีการร่วมลงทุนกับต่างชาติเข้า มาประมูลโครงการเป็นหลัก เนื่องจาก กคช.ได้กำหนดเงื่อนไขเพื่อป้องกันการทิ้งงานหรือทำงานล่าช้า โดยผู้รับเหมาต้องแนบหลักประกัน (Bid Bond) จำนวน 5% ของมูลค่าโครงการ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กคช.ยังต้องตรวจสอบรายละเอียดต่างของบริษัทผู้เสนอขายบ้านในโครงการบ้านเอื้ออาทร ส่วนปัญหาเรื่องยอดการเสนอขายที่ยังไม่ได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ 400,000 หน่วยนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะเปิดรับซื้อเพิ่มหรือให้ชะลอออกไปก่อนและเปิดให้ประชาชนจองสิทธิ์ในส่วนที่มีการเสนอขายไปก่อนแล้ว
นายพรศักดิ์ บุณโยดม รองผู้ว่าฯ กคช. กล่าวว่า การเคหะฯได้นำระบบคอมพิวเตอร์ ERP หรือ Enterprise Resources Planning เข้ามาช่วยในการบริหารงาน การจัดเก็บข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของการเคหะฯ ทำให้สามารถลดต้นทุนจากการดำเนินการ และการใช้ครุภัณฑ์ ในทุกๆ ด้านของ กคช. โดยขณะที่ระบบดังกล่าวยังอยู่ในช่วงของการทดสอบ และทดลองระบบ ซึ่งคาดว่าระบบ ERP จะสามารถใช้งานได้สมบูรณ์แบบในอีก 3 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่แน่ชัดว่าการเคหะฯจะสามารถลดต้นทุนหลังการนำระบบ ERP มาใช้ได้เท่าไหร่ แต่ กคช. มีความมั่นใจว่าระบบ ERP จะเข้ามาช่วยเร่งขั้นตอนการดำเนินงานได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งหลังจากที่ติดตั้งระบบดังกล่าวและเริ่มใช้งานจริง คาดว่าจะช่วยลดขั้นตอน การทำงานในแต่ละส่วนงานลงได้ทำให้งานเร็วขึ้น 70% และช่วยให้ประชาชนที่มาติดต่องานกับ กคช. ได้รับบริการที่ดีขึ้นรวดเร็วขึ้น รวมถึงสามารถรับทราบถึงปัญหาต่างที่เกิดขึ้นได้รวดเร็ว ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ปัญหาในทุกขั้นตอนของงานได้ทันที นอกจากนี้ ยังสามารถคุมต้นทุนการ ดำเนินงาน ในการพัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทร ให้สามารถยืนราคาเดิมได้ตลอดโครงการจนถึงสิ้นปี 2552
สำหรับระบบ ERP จะเป็นระบบการจัดการที่เข้ามาใช้แทนระบบเอกสารเดิมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์องค์กร สามารถเข้าไปเสริม ประสิทธิภาพกับระบบงานของการเคหะฯ ใน12 ระบบงาน ประกอบด้วย ระบบบัญชีแยกประเภททั่วไป, ระบบบริหารสินค้าคงคลัง,ระบบบัญชีเจ้าหนี้และจ่ายเงิน, ระบบงบประมาณและบริหารโครงการ, ระบบจัดซื้อจัดจ้าง, ระบบเงินเดือนและค่าตอบแทน,ระบบริหารการเงิน, ระบบบริหารต้นทุนโครงการและการปรับส่วนต้นทุน, ระบบรายงานข้อมูลเพื่อผู้บริหาร และระบบงานส่วนหน้า
|