Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 ธันวาคม 2548
ราคาทองคำพุ่ง : ต้อนรับปีใหม่ 2549             
 


   
www resources

โฮมเพจ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

   
search resources

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, บจก.
Jewelry and Gold




ราคาทองคำในตลาดทองไทยทำสถิติสูงสุดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แตะระดับ 9,750 บาท/บาทในช่วงปลาย เดือนพฤศจิกายน 2548 นับเป็นราคาทองคำแพงขึ้น 21% ในรอบปีนี้ เมื่อเทียบกับราคาทองคำเฉลี่ยประมาณ 8,000 บาท/บาทในช่วงต้นปี 2548 ทองคำไทยมีราคาทะลุระดับ 9,000 บาท/บาทเป็นครั้งแรกเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา และขยับสูงขึ้นรวดเร็วในช่วงนี้ตามทิศทางของราคาทองคำในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นในช่วงสั้นๆ แตะระดับ 502 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ในระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 ซึ่งเป็นราคาทองคำตลาดโลกสูงสุดใน รอบ 18 ปี

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าราคาทองคำในตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกและอาจพุ่งขึ้นถึงระดับ 525 ดอลลาร์/ออนซ์ในไตรมาสแรก 2549 จะส่งผลให้ทองคำของไทยมีราคาแพงขึ้นตามไปด้วย โดยอาจจะทะลุระดับ 10,000 บาท/บาท ซึ่งจะเป็นสถิติราคาทองคำสูงสุดระดับใหม่ของไทย

ทองคำที่ซื้อขายในตลาดทองของไทยมีราคาเคลื่อนไหว ตามราคาทองคำต่างประเทศ เนื่องจากการค้าทองคำของไทยเป็นทองคำที่นำเข้าจากต่างประเทศ การกำหนดราคาทองคำไทย จึงขึ้นอยู่กับราคาทองคำในต่างประเทศเป็นหลัก ประกอบกับเงินบาทของไทยมีค่าอ่อนตัวลงในช่วงนี้ อยู่ในระดับเฉลี่ยประมาณ 41.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เทียบอัตราแลกเปลี่ยน 39.05 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ตอนต้นปี คิดเป็นเงินบาทอ่อนตัวลงประมาณ 5.8% ทำให้การคิดคำนวณราคาทองคำของไทยในรูปเงินบาท มีปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย การที่เงินบาทมีค่าอ่อนตัวลง มีส่วนทำให้ราคาทองคำที่ซื้อขายกันในประเทศไทยแพงขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สถานการณ์ที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดทองไทย ดังนี้(ทองแพง แรงซื้อลด ขายคืนเพิ่ม การที่ทองคำในตลาดทองไทยมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ตามราคาทองคำต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อขายทองคำของประชาชนทั่วไป แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มแรก : ชะลอซื้อ ประชาชนส่วนใหญ่มักจะชะลอการซื้อทองคำและเครื่องประดับทองคำในช่วงราคาทองคำขาขึ้น เพราะต้องการรอดูทิศทางราคาทองคำให้ชัดเจนก่อน จึงจะตัดสินใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่

กลุ่มสอง : เร่งซื้อ ประชาชนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก ยังคงต้องการซื้อทองคำและเครื่องประดับทองคำในช่วงนี้ เพราะเกรงว่าราคาทองคำจะแพงขึ้นอีก จึงตัดสินใจซื้อทองคำทันที นอกจากนี้ ประชาชนบางกลุ่มก็มีความจำเป็น ต้องซื้อทองคำ สำหรับใช้ในงานมงคลต่างๆ และใช้เป็นของขวัญของกำนัลในช่วงเทศกาลปีใหม่ แม้ว่าทองคำมีราคาแพงขึ้น แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต้องยอมควักกระเป๋าซื้อทองคำและเครื่องประดับทองคำในช่วงทองแพง

อย่างไรก็ตาม บรรดาบริษัทห้างร้านที่ใช้ทองคำจัดทำเป็น ของขวัญ-ของกำนัล เพื่อมอบให้แก่พนักงานดีเด่นและลูกค้าเนื่องในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ คาดว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เพราะการจัดทำของชำร่วยต่างๆ ต้องสั่งซื้อและจัดทำไว้ล่วงหน้าแล้ว

กลุ่มสาม : ขายคืน การที่ทองคำมีราคาแพงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ทำให้ประชาชนบางกลุ่มนำทองคำและเครื่องประดับทองคำที่เป็นสมบัติเก็บออมไว้ก่อนหน้านี้ ไปขาย คืนแก่ร้านค้าทอง เพราะเห็นว่าจะได้กำไรจากการขายทองที่มีราคาแพงขึ้น เมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อทองคำในอดีต โดยเก็งว่าหากราคาทองคำถูกลง ก็จะซื้อทองคำและเครื่องประดับทองคำเก็บออมไว้เช่นเดิม

(มูลค่านำเข้าทองคำสูงขึ้น การที่ทองคำในตลาดโลกมีราคาแพงขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่านำเข้าทองคำของไทย การนำเข้าทองคำของไทยในช่วง 10 เดือนแรก 2548 มีมูลค่า 1,741 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พุ่งขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547 คาดว่าการนำเข้าทองคำของไทยจะมีมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดปีนี้ ทองคำเป็นสินค้าสำคัญในหมวดเครื่องเพชร-พลอย-อัญมณี-เงินแท่งและทองคำ ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าสำคัญอันดับ 9 ของไทย

การนำเข้าทองคำของไทยที่เพิ่มขึ้นมากในปีนี้ เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้แก่

นำเข้าทองคำเพื่อผลิตเป็นเครื่อง ประดับทองรูปพรรณสำหรับจำหน่ายในตลาดทองภายในประเทศ ส่วนใหญ่ คนไทยทั่วไปนิยมใช้ทองคำเป็นเครื่องประดับตกแต่งเพื่อความสวยงาม และเพื่อบ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่เครื่องประดับทองคำรูปพรรณ

นำเข้าทองคำเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเป็นเครื่องประดับทองคำสำเร็จรูปเพื่อส่งออก การส่งออกเครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำของไทย เพิ่มขึ้น 44% เป็นมูลค่า 931 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ อัญมณีและเครื่องประดับของไทยเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 7 ของไทย

เก็บออมทองคำแท่งเพิ่ม ราคาทองคำที่มีแนวโน้มแพง ขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าจะจูงใจให้นักลงทุนสนใจซื้อทองคำแท่งเพื่อ เก็บออมมากขึ้น ในฐานะสินทรัพย์มีค่า ทองคำแท่งนับเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุน ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ และนักลงทุนไทย นิยมซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็บออมและเพื่อการลงทุน ส่งผลให้การซื้อทองคำแท่งของไทยเพิ่มขึ้นมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

สำหรับคนไทยที่มีรายได้ระดับกลางถึงระดับสูง และพอมีเงินเก็บออมอยู่บ้าง ก็มักนำเงินออมบางส่วนไปซื้อทองคำแท่งเพื่อเก็บไว้เป็นทรัพย์สมบัติเช่นกัน ถึงแม้ขณะนี้มีแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เริ่มขยับสูงขึ้นก็ตาม แต่เป็นการขยับขึ้นอย่างช้าๆ ประชาชน ชาวไทยที่จัดเป็นชนชั้นกลาง จึงหันไปซื้อทองคำแท่งซึ่งเป็นทรัพย์สินมีค่าที่ยอมรับกันทั่วไป ขณะที่ประชาชนทั่วไปและ ผู้ใช้แรงงานจะนิยมเก็บออมทองคำในรูปเครื่องประดับทองรูปพรรณมากกว่าทองคำแท่ง เพราะสามารถใช้ประโยชน์จาก เครื่องประดับทองรูปพรรณ ทั้งเพื่อสวมใส่แสดงถึงความมีฐานะของตน และเพื่อเป็นการเก็บออมพร้อมๆ กันด้วย

จับตานักเก็งกำไร การคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มราคาทองคำ ซึ่งคาดว่าจะมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า อาจเป็นช่องทางให้นักเก็งกำไร ราคาทองคำเล็งเห็นโอกาสในการทำกำไรในช่วงที่ทองคำมีราคาสูงขึ้นรวดเร็ว โดยเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาทองขาขึ้น และนำออกขายเมื่อเห็นว่าราคาทองถึงจุดสูงสุดแล้ว ดังนั้น ทางการไทยน่าจะมีมาตรการควบคุมดูแลการซื้อขายทองคำ ที่ผิดปกติ เพื่อมิให้เกิดการเก็งกำไรในลักษณะดังกล่าว เพราะจะส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำของไทยเป็นวงกว้าง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ และตลาดทองไทยในปี 2549 น่าจะมีพื้นฐานเข้มแข็งต่อไปในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง อันเป็นผลจาก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่คาดว่าจะยังคงรักษาระดับราคามั่นคงในปีหน้า ทำให้ความต้องการซื้อทองคำในตลาดต่างประเทศทรงตัวอยู่ในระดับสูง เพราะทองคำยังเป็นสินทรัพย์ประกันความเสี่ยงที่ดีที่สุดในโลก

สำหรับราคาทองคำของไทยซึ่งผูกติดกับราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะมีราคาสูงขึ้นตามราคาทองคำ โลก ดังนั้น การซื้อทองคำ ทั้งในรูปทองคำแท่งและเครื่องประดับทองคำเพื่อการลงทุนและเก็บออม จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบในช่วงที่ราคาทองคำค่อนข้างผันผวน อันเป็น ผลจากความต้องการทุ่มซื้อทองคำในตลาดต่างประเทศที่พุ่งขึ้นมากผิดปกติ หากแรงซื้อทองคำในลักษณะดังกล่าวคลี่คลายลง คาดว่าราคาทองคำโลกจะกลับสู่ภาวะปกติ สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของตลาดทองคำต่างประเทศ ในที่สุด ส่งผลดีแก่ตลาดทองคำของประเทศไทยให้คลายความปั่นป่วนลงตามไปด้วย

ที่มา:บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยจำกัด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us