Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 ธันวาคม 2548
สมาคมบจ.คาดปี48กำไร4แสนล้าน อดิศร ชี้กองทุนเตรียมกลับลำซื้อหุ้น             
 


   
search resources

Economics
Investment




สมาคม บจ. คาดกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนปี 48 อยู่ที่ 4 แสนล้านบาท ระบุน้ำมันแพงยังเป็นปัจจัยหลัก ขณะที่ปี 49 กำไรสุทธิโต 3% ด้าน "สมบัติ-สมาคมโบรกฯ" ลุ้น 2 หุ้น ใหญ่เข้าจดทะเบียนปีหน้าหวัง ดันดัชนี ขณะที่ "อดิศร" เชื่อกองทุนเตรียมกลับลำมาซื้อหุ้นหลังดอกเบี้ยขึ้น

นายมงคล สิมะโรจน์ อุปนายก สมาคมบริษัทจดทะเบียน กล่าวว่า กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปี 2548 น่าจะอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนมีสุทธิประมาณแสนล้านบาท จากผลกระทบเรื่องราคาน้ำมัน ขณะที่ในปี 2549 ผลกระทบในเรื่องดังกล่าวจะเป็นปัจจัยต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ ความคิดเห็นเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกแบ่งออกเป็น 2 แนวความคิด โดยกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าราคาน้ำมันในปีหน้าจะปรับขึ้นไม่เกิน 60 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ขณะที่อีกกลุ่มคาดว่า ราคาน้ำมันอาจจะปรับตัวขึ้นถึงระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งแม้ว่าราคาน้ำมันในปีหน้าจะเป็นเท่าใดก็จะส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอย่างแน่นอน

สำหรับปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8 แสนบาร์เรลต่อวัน ขณะที่งบประมาณแผ่นดินในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท จะเห็นได้ว่าประเทศไทยใช้เงินในค่าน้ำมันถึง 70% ของงบประมาณแผ่นดิน หรือ ประมาณ 7 แสนล้านบาท ขณะที่ในปีหน้างบประมาณแผ่นดินจะอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท สัดส่วนรายจ่ายค่าน้ำมันเมื่อเทียบกับงบประมาณประเทศจะอยู่ในระดับ 50%
"หากคิดว่าราคาน้ำมันในปีหน้าจะอยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อ บาร์เรล ซึ่งจะเท่ากับ 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งเท่ากับงบประมาณประเทศ" นายมงคลกล่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าราคาน้ำมัน จะปรับขึ้นในระดับเท่าไหร่ การบริหารงานของบริษัทจดทะเบียนก็จะต้องปรับตัวให้ได้ ซึ่งทางเลือกหนึ่งของทางรัฐบาลคือการกระตุ้นให้ ให้มีการใช้แก๊สโซฮอลล์

นายสมบัติ นราวุฒิชัย อุปนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้าจะเติบโตในระดับ 4.3% โดยในปีหน้าจีดีพีจะอยู่ที่ประมาณ 4% ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังอยู่ในแนวโน้มที่ดี

ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของกำไร สุทธิบริษัทจดทะเบียนในปี 49 จะอยู่ ในระดับประมาณ 3% ขณะที่กำไรขั้นต้นก่อนหักภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 5% เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มธนาคารจะเริ่มมีการเสียภาษีที่ได้รับการยกเว้นก่อนหน้านี้

สำหรับตลาดหุ้นในปีหน้าระดับพีอีเรโชจะอยู่ที่ 9-10 เท่า ซึ่ง จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายประกอบ เช่น การเข้าจดทะเบียนของบริษัทขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น รัฐวิสาหกิจ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เนื่อง จากเรื่องดังกล่าวอยูในความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหากสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้จะส่งผลดีต่อดัชนีตลาดหุ้นประมาณ 3%

ในส่วนของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯปัจจุบันระดับพีอี เรโชอยู่ที่ประมาณ 8.5 เท่า ซึ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่าราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ต่ำมาก

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 49 จะอยู่ที่การเข้าจดทะเบียนของ 2 บริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งหากสามารถเข้า จดทะเบียนได้ก็จะกระตุ้นความน่าสนใจให้กับนักลงทุนได้อีกครั้ง โดย คาดว่าปีหน้าดัชนีจะอยู่ที่ระดับประมาณ 710 จุด ซึ่งหากบริษัทขนาดใหญ่สามารถเข้าจดทะเบียนก็ จะทำให้ดัชนีสามารถปรับขึ้นไปได้อีก

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ในปีหน้ากองทุนน่าจะกลับมาทยอยลงทุนในหุ้นมากขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้การลงทุนในตราสารหนี้น้อยลง ขณะที่ปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยเป็นกลุ่มที่น่าลงทุน

ทั้งนี้ เศรษฐกิจในปีหน้าน่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี โดยตัวเลขภาคลงทุนจากคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุนระบุว่าปีนี้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากเมื่อปี 47 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนภาพการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us