กว่า 100 ปีของ การเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยวันนี้ กลุ่มบริษัทเนสท์เล่
กำลังสร้างสายสัมพันธ์ ที่สนิทแนบแน่นกับผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อความเข้าใจในชีวิต
และพฤติกรรมการบริโภคอย่างแท้จริง
"ยินดีต้อนรับสู่ศูนย์ผู้บริโภคเนสท์เล่ค่ะ" เสียงหวานๆ ใสๆ ของพนักงานกลุ่มบริษัทเนสท์เล่จะส่งเสียงมาตามสายทันทีเมื่อท่านกดโทรศัพท์หมายเลข
652-0454 เพื่อเข้าสู่ระบบบริการสอบถามข้อมูลทางด้านโภชนาการ และสุขภาพอัตโนมัติทางโทรศัพท์ และโทรสาร ที่มีชื่อเรียกว่า
"สายสัมพันธ์ เนสท์เล่" ซึ่งสามารถใช้บริการได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง
มิสเตอร์ โทมัส เอส.โคลีย์ ประธานกรรมการ และประธานคณะบริหาร กลุ่มเนสท์เล่แห่งประเทศไทย
ยืนยันว่า เนสท์เล่เป็นบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหาร และเครื่องดื่มแห่งแรกในประเทศไทย ที่จัดบริการแบบนี้
และในขณะนี้เองก็ยังมีการพัฒนาให้ความสำคัญเกี่ยวกับศูนย์ผู้บริโภค เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อ และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเนสท์เล่กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังในฐานะเป็นผู้นำระดับโลกทางด้านอาหาร
ศูนย์ผู้บริโภคของเนสท์เล่ได้ดำเนินการมาเกือบ 2 ปีแล้ว และเมื่อกลางเดือนมีนาคม
2543 ที่ผ่านมานั้น ได้ทำการเปิดศูนย์ใหม่ ณ ที่ทำการใหญ่ ของบริษัท บนชั้น
21 อัมรินทร์ ทาวเวอร์ อย่างเป็นทางการ
กว่า 107 ปี ของการเข้ามาเป็น กลุ่มเนสท์เล่ในประเทศไทยดังหลักฐาน ที่เป็นภาพโฆษณาชิ้นแรกของนมข้นหวานตรา
"แหม่มทูนหัว" ลงในหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ ฉบับวันที่ 18 ตุลาคม 2436 เมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยดี
โดยการนำผลิตภัณฑ์หลายชนิดเข้ามาจากต่างประเทศ ดังนั้น ในปี 2490 จึงได้มีการจัดตั้งบริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ขึ้นในประเทศไทย
ก้าวแรกของการสร้างฐานการผลิตในประเทศไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 ในปัจจุบันกลุ่มเนสท์เล่ประเทศไทย
มีโรงงานผลิต 9 แห่ง มีพนักงานกว่า 3,000 คน และมียอดขายถึง 19 พันล้านบาท
กลุ่มบริษัทเนสท์เล่มีการจัดซื้อวัตถุดิบ และวัสดุสำหรับหีบห่อจากบริษัทซัปพลายเออร์ในประเทศถึง
180 แห่ง เป็นมูลค่าถึง 9,000 ล้านบาท
เนสท์เล่ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารประเภทต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า ที่มีชื่อเสียง
เช่น เนสท์เล่ ตราหมี เนสท์เล่ไมโล เนสกาแฟ เนสท์เล่คอฟฟี่เมต แม็กกี้ เนสท์เล่สมาร์ทตีส์
เนสท์เล่แอลซีวัน และเนสท์เล่ไอศกรีม
สำหรับภารกิจหลักของศูนย์แห่งนี้ จะมีกิจกรรมต่างๆ คือ 1. ศูนย์บริการข้อมูลผู้บริโภค และบริการสายสัมพันธ์เนสท์เล่
โดยผู้บริโภคสามารถโทรศัพท์ หรือโทรสารเข้ามายัง ที่ศูนย์ เพื่อซักถามข้อสงสัย
ข้อเสนอแนะ หรือร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเนสท์เล่ ข้อมูลทั้งหมดจากผู้บริโภคจะถูกบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์
ซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับใช้เฉพาะบริษัทในเครือเนสท์เล่ทั่วโลกเท่านั้น
เนสท์เล่ยังมีผู้เชี่ยวชาญทาง ด้านอาหาร และโภชนาการ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็ก
ซึ่งจะช่วยตอบข้อซักถาม และให้คำปรึกษา ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร และโภชนาการ รวมทั้งวิธีการเลี้ยงดูเด็กมาประจำทุกวันทำการ
อีกทั้งยังมีสัตวแพทย์ มาประจำทุกวันศุกร์ในช่วงเวลา 13.00-17.00 น. เพื่อให้บริการข้อมูล
คำแนะนำเกี่ยวกับอาหาร และสุขภาพอนามัยของสุนัข และแมวอีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถโทรศัพท์มาได้ ที่ 256-9838 โทรสาร 256-9839 และหมายเลขฟรีสำหรับต่างจังหวัดคือ
(088) 225-688 ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์
ส่วนบริการสายสัมพันธ์เนสท์เล่ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภครับทราบข้อมูลใหม่ๆ
ด้านอาหาร และโภชนาการจากเนสท์เล่ได้อย่างสะดวก และรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง
เพียงโทรศัพท์มายังหมายเลข 652-0454 แล้วกดเลือกหัวข้อต่างๆ กว่า 100 รายการ
เช่น กดรหัส 93 จะเป็นเรื่องราวของโภชนาการ และสุขภาพ ซึ่งจะมีหัวข้อต่างๆ
เช่น กด 0200 เป็นเรื่องของโภชนาการเตรียมความพร้อมของคุณแม่ และลูกน้อยกด
0300 เป็นเรื่องโภชนาการในวัยเด็กกด 0400 สูตรอาหารเสริมคุณค่าสำหรับ ลูกวัย
4-6 เดือน กด 0500 สูตรอาหารเสริมสำหรับลูกวัย 7-9 เดือน กด 0900 จะเป็นโภชนาการสำหรับโรคต่างๆ
รหัส 94 จะเป็นเรื่องของเนสท์เล่ แฟมิลี่คลับ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรม ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเนสท์เล่กับผู้บริโภค
ในปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้นกว่า 140,000 คน ซึ่งจะเป็นผู้ที่อยู่ ในกรุงเทพฯ
และปริมณฑลร้อยละ 80 รหัส 95 ตำรับชวนชิม ซึ่งจะเป็นเรื่องของ สูตรอาหารน่าทานต่างๆ
หรือรหัส 98 จะ เป็นเรื่องของการทำนายโชคชะตาราศี เป็นต้น
จากบริการดังกล่าว ผู้บริโภคสามารถเลือกเมนูคำสั่งให้ระบบส่งข้อมูลที่ต้องการไปให้ ที่บ้านทางโทรสารได้อีกด้วย
นอกจากนั้น ก็ยังมีการจัดกิจกรรมการบรรยาย และเสวนา และสาธิตการทำอาหาร
และเครื่องดื่ม ผู้เข้าฟังการบรรยายจะได้รับเชิญโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
มีการจัดทำเอกสารความรู้ ตำรับอาหาร และข่าวสาร ต่างๆ ด้านอาหาร และโภชนาการ
อาทิเช่น Nutrition News รวมทั้งการจัดทำรายการโทรทัศน์ สาระ เพื่อความรู้เกี่ยวกับอาหาร
และโภชนาการ และสุขภาพ ทางช่อง 7 ทุกวันพุธ เวลา 08.26 น. อีกด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน
เมษายน 2543 นี้เป็นต้นไป