แผนเจาะตลาดรัสเซียของ การบินไทย ชี้ศักยภาพสูงทั้งท่องเที่ยว การค้า การลงทุน มั่นใจ 3 ปี มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยกว่า 3 แสนคน จัดงานฉลองใหญ่เปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพ-มอสโก ที่ Lenin Museum “ชินคอร์ป” ร่วมทีม 40 บิ๊กธุรกิจไทยบุกรัสเซีย ด้านฑูตพาณิชย์ไทย แนะนักธุรกิจ เจาะตลาดกลาง –บน

รัตนาวลี โลหารชุน ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำทีมสื่อมวลชนไทย เดินทางไปรัสเซีย เมื่อวันที่ 8-10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อเยี่ยมชมศักยภาพของตลาดรัสเซีย ซึ่งการบินไทยพบว่าที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาไทยถึง 110,000 คน คาดว่าภายใน 2-3 ปี จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามาไทยเพิ่มเป็น 200,000-300,000 คน

ขณะเดียวกันรัสเซีย กำลังเป็นตลาดการค้าใหม่ที่นักธุรกิจต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน อีกทั้งนักธุรกิจรัสเซียก็ต้องการไปลงทุนหรือไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะรัสเซียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น

“เราพิจารณาทั้งในด้านจำนวนผู้โดยสาร นโยบายรัฐในการเปิดเส้นทางการบินเพิ่ม เราเชื่อว่านี่คือโอกาสของการบินไทย เพราะทุกวันนี้การเดินทางจากรัสเซียมาไทย มีปัญหามากเพราะมีเพียงสายการบินเดียวคือ Aeroflot ซึ่งไม่เพียงพอต่อการรองรับจำนวนผู้โดยสาร”

“ชินคอร์ป” ร่วมทีม 40 บิ๊กไทยบุกรัสเซีย

อย่างไรก็ดียังมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจไทย และนักท่องเที่ยวไทย เริ่มสนใจที่จะไปลงทุนหรือท่องเที่ยวในรัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งการบินไทยได้จัดเที่ยวบินพิเศษเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเพื่อนำนักธุรกิจขนาดใหญ่กว่า 40 คนประกอบด้วย บริษัทชินคอร์ป โดยบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ประธานกรรมการฯ กลุ่มเบียร์ช้าง กลุ่มสหพัฒน์ บริษัทสีทีโอเอ เป็นต้น และยังมี บริษัททัวร์ เดินทางเข้ามาดูลู่ทางการค้า การลงทุนที่รัสเซีย

นอกจากนี้การบินไทย ยังได้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อจะเดินทางไปโรดโชว์ศักยภาพการค้า การลงทุนและภาคบริการต่าง ๆ ที่จะนำรายได้เข้าประเทศ

“พาณิชย์ จะนำนักธุรกิจของไทย เดินทางไปรัสเซีย เร็ว ๆ นี้ เพื่อดูลู่ทางการค้าและการลงทุน ส่วนททท.จะบุกตลาดด้านการท่องเที่ยวเพื่อดึงคนรัสเซียเข้ามาเที่ยวไทย โดยเฉพาะสมาชิกThailand Elite ขณะนี้การบินไทยอยู่ระหว่างการนำเสนอราคาพิเศษเพื่อชักจูงให้เข้ามาใช้บริการสายการบินไทยและเที่ยวในเมืองไทย”

โดยการบินไทยได้จัดงานเลี้ยงเปิดเส้นทางการบินอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ที่บริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์เลนิน (Lenin Museum) อยู่ในบริเวณเดียวกันกับจัตุรัส แดง( RED SQARE) และพระราชวังเครมลิน (Kremlin Palace ) มีสมใจนึก เองตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการบินไทย กงสุลกิตติมศักดิ์รัสเซีย เอกอัครราชฑูตรัสเซียประจำประเทศไทย และบุคคลสำคัญทั้งจากรัสเซียและไทยเข้าร่วมในพิธีเปิด

กลยุทธ์ดึงลูกค้ารัสเซียนั่งบินไทย

ดุลยพงศ์ สุขานุศาสน์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายภาคพื้นยุโรปและแอฟริกา กล่าวว่า การเปิดเส้นทางบินกรุงเทพ-มอสโควครั้งนี้นอกจากชาวรัสเซียจะได้บินตรงมายังประเทศไทยแล้ว ยังสามารถต่อเส้นทางบินเพื่อเดินทางไปยังประเทศใกล้เคียงได้อีกคือ กลุ่มประเทศอินโดจีน บาหลี ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และทุกเส้นทางที่เป็นเครือข่ายของการบินไทย

สำหรับกลุ่มผู้โดยสารที่ทางการบินไทยตั้งเป้าไว้นั้นคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย และนักธุรกิจ กลุ่มที่เดินทางด้านศาสนา คือกลุ่มอินโดจีนประกอบด้วย เวียดนาม สิงค์โปร์ มาเลเซียและพม่า เพื่อการศึกษา (กลุ่มอินโดจีนและอาเซียน) กลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซียที่มีความสนใจเฉพาะอย่าง เช่น กีฬา เป็นต้น โดยกลยุทธ์ที่ใช้นั้นจะเป็นการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการบินไทยให้กับชาวรัสเซียผ่านสื่อต่างๆเช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ วิทยุ รวมทั้งทำการประชาสัมพันธ์แบบ Below the line เช่น สนับสนุนการทำกิจกรรมด้านไลฟ์สไตล์ในตลาดท้องถิ่น ทำกิจกรรมทางการตลาด จัดทริปเดินทาง การทำกิจกรรมกระตุ้นยอดซื้อ ณ จุดขาย (POP) และการทำกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ ทั้งกับผู้โดยสารและพันธมิตร เช่น สายการบิน พารทเนอร์ บอร์ดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ลูกค้าองค์กร เอเย่นต์การท่องเที่ยว บริษัททัวร์ เป็นต้น

การทำการตลาดตรั้งนี้ จะทำให้ชาวรัสเซียเข้ามาใช้บริการของการบินไทย โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์ เป็นช่วงอากาศหนาว และหิมะตกมาก ชาวรัสเซียนิยมเดินทางออกไปท่องเที่ยวในตลาดประเทศก็จะสามารถบินตรงเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้สะดวก

การค้า-ลงทุนรัสเซียรุ่ง

วีระชัย นพสุวรรณวงศ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก กล่าวว่า GDP ของรัสเซียขยายตัวประมาณ 6 % รายได้เฉลี่ยต่อหัวปี 2003 ประมาณ 2,3110 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ปี 2005 เพิ่มขึ้นเป็น 5,015 เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ชาวรัสเซียเลือกในการบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น

“นักธุรกิจไทยควรเจาะตลาดสินค้าระดับกลางและสูง ส่วนระดับล่างนั้นเป็นตลาดของประเทศจีน เราสู้ราคาไม่ได้ และตลาดเสื้อผ้าไทยก็ไม่ควรไปแข่งขันกับตรุกีซึ่งเป็นผู้ครองตลาดรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย”

ดังนั้นสินค้าส่งออกที่ยังมีช่องว่างให้ไทยทำการค้ากับรัสเซียได้ ควรจะเป็นพวก ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ข้าว อาหารทะเลกระป๋องแปรรูป น้ำตาลทรายผลิตภัณฑ์พลาสติก อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

อย่างไรก็ดีนักธุรกิจไทย ควรเลือกที่จะผลิตสินค้าส่งออกที่มีศักยภาพในตลาดรัสเซีย โดยเฉพาะสินค้าที่แปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่นรองเท้าที่จะต้องไว้ใส่ในฤดูหนาวที่มีหิมะตกมาก ส่วนด้านการลงทุนนั้น รัสเซียต้องการผู้ร่วมทุนในด้านการผลิตที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซีย เช่นตั้งโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากรัสเซียมีไม้สนมาก