ฮาวคัม ติดหล่ม เดินหมากแตกหน่วยธุรกิจตามรอยแมทชิ่ง ฝันไกลหวังก้าวสู่ความเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแต่ไปไม่ถึง เติบโตวืดเป้า 50% โอดไม่คิดเปิดเพิ่มแล้ว ขอใช้เวลารักษาแผลใจเซ็ตของเก่าให้อยู่ตัวหลังปีที่แล้วแตกบริษัท ผุดโครงการราวดอกเห็ดแต่ส่วนใหญ่ล้วนง่อนแง่น
การเปิดแผนก ทีวีซี โปรดักชั่น ซึ่งเป็นแผนกล่าสุดของฮาวคัมเอนเตอร์เทนเมนต์ ทำหน้าที่รับงานจากเอเยนซี่และลูกค้ามาผลิตเป็นงานโฆษณาทางโทรทัศน์เป็นการสะท้อนให้เห็นได้ว่าบริษัทแห่งนี้มีย่างก้าวการพัฒนาเจริญรอยตามแมทชิ่งสตูดิโอเข้าไปทุกขณะ
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดดำเนินการฮาวคัมก็ได้แตกบริษัทลูกออกมาแล้วถึง 4 แห่งด้วยกันคือ ฮาวคัมเอนเตอร์เทนเมนต์ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านผลิตรายการโทรทัศน์, ฮาวคัมมีเดีย ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณานอกบ้าน ,ฮาวคัมสตูดิโอ ดำเนินธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์และ ฮาวคัมไอพี ดำเนินธุรกิจด้านคอนเทนต์เกี่ยวกับการดูหนังฟังเพลงในโทรศัพท์มือถือ รวมถึงโครงการในฝันที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแหล่งข่าวในบริษัทกล่าวว่า “เรื่องการดำเนินนโยบายแนวทางเดียวกับแมทชิ่ง...จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เพราะมีบริษัทจุดหมายที่เหมือนกันคือการก้าวสู่ความเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร”
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือกว่าแมทชิ่งจะมาถึงจุดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 12 ปี ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย แม้เห็นความสำเร็จมาเยอะ แต่ความล้มเหลวก็มีมาก ทางสายนี้จึงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่ง ตี๋ สมชาย ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการก็ได้เคยออกมายอมรับด้วยตัวเอง
ดังนั้นการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา 4 แห่งเพื่อเข้ามาลุยในธุรกิจดังกล่าววัดรอยเท้ามืออาชีพต้นแบบ จึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักเพราะขนาดมืออาชีพเองก็เจอตอมาแล้วเช่นกัน แม้ฮาวคัมจะมีทั้งเงินทุนที่แข่งแกร่งในฐานะบริษัทของลูกเศรษฐี และบารมีหนุนหลังได้รับการสนับสนุนป้อนงานจากทั้งทางด้านบริษัทในเครือชินคอร์ป, สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ด้วยการที่ผู้ถือหุ้นในบริษัทชื่อ พานทองแท้ ชินวัตร และความช่วยเหลือด้านสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนรายการจากเดนท์สึ มีเดีย พาเลส(ประเทศไทย)ที่เป็นเอเยนซี่ดูแลลูกค้าขาใหญ่จากญี่ปุ่น อาทิ โตโยต้า, พานาโซนิค, อายิโนโมโตะ กูลิโกะ รวมถึงการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลรายการใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น อาทิ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ ทางช่อง5 เพราะผู้ถือหุ้นในฮาวคัมอีกคนชื่อ นันทสิทธิ์ แจ่มสมบูรณ์ บุตรชาย สฤษดิ์กุล แจ่มสมบูรณ์ ประธานบริหาร เดนท์สึ มีเดีย พาเลส(ประเทศไทย) ซึ่งที่กล่าวมานี้เปรียบเหมือนบารมีส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยหางาน หาโฆษณามาหล่อเลี้ยงบริษัท แต่แม้จะมีงานมารออยู่ตรงหน้า หากองค์กรขาดประสบการณ์ รวมถึงขาดฝีมือในการบริหาร ก็ยากที่จะนำพาให้บริษัทก้าวหน้าเจริญเติบโตไปได้
“ในครึ่งปีแรกบริษัทค่อนข้างติดขัดหลายอย่างทำให้ผลงานที่ออกมามีไม่ถึงครึ่งของเป้าที่ตั้งไว้ ส่งผลให้รายได้ไม่เป็นไปตามคาด ปีนี้ฮาวคัมอาจจะดูเงียบๆไปเพราะในปีที่แล้วเปิดบริษัทในเครือเยอะมากแต่ไม่ได้เปิดเพิ่มในปีนี้อีกเนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่าเซ็ตให้แต่ละบริษัทยืนได้ด้วยตัวเอง สำหรับผลประกอบการนั้นก็มีขาดทุนบ้างในบางบริษัท”แหล่งข่าวกล่าว
หากลองย้อนดูการให้ข่าวของผู้บริหารฮาวคัมในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าบริษัทมีโครงการที่จะทำจำนวนมาก แต่จนถึงวันนี้หลายสิ่งมีความคืบหน้าไม่มากนัก อาทิ ฮาวคัมสกรีนที่มีแผนว่าจะติดตั้งจอในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินได้ครบทุกสถานีในกลางปีที่ผ่านมาแต่ปัจจุบันมีเพียงแค่ 3 สถานีและได้เลื่อนแผนเป็นในช่วงต้นปีหน้าเนื่องจากติดขัดในเรื่องคุณภาพแผ่นฟิล์ม หรืออย่างคอนเสิร์ตที่บอกว่าจะนำ วินนี่ย์ ฮุสตัน, มาดอนน่า, บียองเซ่ รวมถึงคอนเสิร์ตจากญี่ปุ่น เข้ามาเปิดการแสดงในประเทศไทยในปีนี้ ถึงเดือนสุดท้ายของปี ยังไม่มีท่าทีว่าศิลปินคนไหนจะแวะมา ส่วนบริษัท ฮาวคัมไอพี ซึ่งแต่เดิมเคยบอกว่าจะเริ่มให้บริการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดแจ้งว่าการเจรจายืดเยื้อมาถึงปลายปี ก็ยังคงอยู่ในช่วงพูดคุยกับเจ้าของค่ายเพลงเท่านั้น ถึงเวลานี้ก็คงไม่มีผู้บริหารของบริษัทคนใดบอกได้ว่าจะบริการบนโทรศัพท์มือถือของฮาวคัมจะเปิดให้บริการได้เมื่อไร ด้านธุรกิจสร้างภาพยนตร์ซึ่งได้เซ็นสัญญาร่วมกับ มีเดีย เอเชีย กรุ๊ป เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม แต่กลับมีการชะลอโครงการออกไปก่อนเพราะต้องใช้ทุนสร้างสูง อีกทั้งมีแนวคิดที่จะผลิตภาพยนตร์ฉายทั่วเอเชียจึงต้องใช้เวลาไตร่ตรองเพิ่ม นอกจากนี้โครงการสวนสนุกเคลื่อนที่ ซึ่งผู้บริหารเคยบอกว่ามีกระแสการตอบรับดีจากการเปิดให้บริการปลายปีที่ผ่านมา ในปีนี้ก็ได้มีการยกหูปรึกษาแมทชิ่งก่อนจะมีความเห็นตรงกันว่าจะไม่จัดทั้งคู่ ส่งท้ายด้วยการจัดงานเคาท์ดาวน์สิ้นปีนี้ ก็คงไม่มีแล้วเพราะยังไม่เห็นความเคลื่อนไหว หากมีถึงเวลานี้ก็ต้องปิดดีล ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์กันแล้ว แหล่งข่าวให้ข้อมูล
ความไม่แน่นอนทั้งหมดนี้หนึ่งในผู้บริหารฮาวคัมบอกว่า “ทุกอย่างสำหรับฮาวคัมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ” ฟังดูเหมือนองค์กรนี้จะมีความคล่องตัวในการทำงานสูง แต่ในอีกด้านหนึ่งสามารถสื่อให้เห็นได้ว่าบริษัทนี้ขาดนโยบายที่ชัดเจนหนักแน่นและขาดความเป็นมืออาชีพในการทำงาน
สำหรับธุรกิจที่มีผลประกอบการดีที่สุดขณะนี้จนผู้บริหารของฮาวคัมบอกว่า “เริ่มปล่อยได้แล้ว” คือการผลิตและนำเข้ารายการโทรทัศน์ซึ่งออกอากาศทางไอทีวี 2 รายการคือ ใครรักใครหัวใจตรงกัน และ รายการมวยปล้ำ WWE ส่วนต้นปีหน้าก็จะมีการนำ ฮิคารุ เซียนโกะ ภาค 2 และรายการเกมโชว์มาออกอากาศทางช่อง 3 ส่วนไอทีวี ทีวีของเรา ก็จะจัดสรรเวลาเพิ่มให้อีก ซึ่งคาดว่าจะผลิตรายการทอล์กโชว์มาออกอากาศเพิ่ม
ทั้งนี้ ในปีหน้ายังหวังว่ารายได้หลักของฮาวคัมก็คงจะมาจากรายการโทรทัศน์ ,จอโฆษณาฮาวคัมสกรีน และการรุกจัดอีเวนท์ใหญ่ๆในช่วงปีหน้าอีกหลายงาน
|