Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 ธันวาคม 2548
เพาเวอร์-พียันไม่เกี่ยวปิคนิค             
 


   
search resources

เพาเวอร์-พี, บมจ.
Construction
Stock Exchange




นักลงทุนเตรียมลุยหุ้น เพาเวอร์-พี เปิดซื้อขาย 7 ธ.ค.นี้ จากราคาปิดเมื่อ 4 ปีก่อนอยู่ที่ 0.40 บาท มีฟรีโฟลตในตลาดหลักทรัพย์ 91 ล้านหุ้น จับตาดูทีท่าพันธมิตรใหม่ หลังสามารถขายหุ้นได้ 38 ล้านหุ้น ด้าน "ราชศักดิ์" ซึ่งมีชื่อพัวพันถือหุ้นปิคนิคออกโรงการันตีถือหุ้นเพาเวอร์-พียาว พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2548 ที่ 300 ล้านบาท ย้ำรับงานมีมาร์จิ้น 15% วงในเผยราคานอกตลาดอยู่ที่ 10-25 บาทต่อหุ้น

นายราชศักดิ์ สุเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) หรือ POWER เปิดเผยว่า ปริมาณหุ้นของบริษัทที่หมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) จำนวน 91.87 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นของนักลงทุนรายย่อย จำนวน 10.5 ล้านหุ้น และจากเจ้าหนี้ที่มีการแปลงหนี้เป็นทุน จำนวน 42 ล้านหุ้น ราคาแปลงสภาพ 5 บาทต่อหุ้น ส่วนอีก 39.37 ล้านหุ้น เป็นส่วนของพันธมิตรใหม่ คือกลุ่มของตนเอง ซึ่งสามารถขายได้ 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ 157.5 ล้านหุ้น มีราคาต้นทุนที่ 3.80 บาท ส่วนหุ้นที่เหลือจะติดระยะห้ามขาย(ไซเลนต์พีเรียด) 1 ปี ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ โดยขณะนี้บริษัทมีจำนวนหุ้น 210 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 10 บาท

ทั้งนี้ วันเปิดซื้อขายหุ้นของบริษัทในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ จะไม่มีการกำหนดราคาเปลี่ยนแปลงขั้นสูงต่ำของบริษัท โดยราคาปิดหุ้นของบริษัทเมื่อปี 2540 อยู่ที่ 0.40 บาท

"โดยส่วนตัวขอยืนยันว่าจะไม่มีการขายหุ้น จะถือหุ้นในระยะยาวต่อไป โดยบริษัทมีแผนที่จะมีการล้างขาดทุนสะสมที่มี 928 ล้านบาท โดยจะนำผลประกอบการที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง จากการที่บริษัทเน้นรับงานภาครัฐประมาณ 70% ซึ่งจะเข้าไปเป็นผู้รับเหมาช่วงต่อของโครงการยาสูบที่จะย้ายไปก่อสร้างที่ภาคเหนือ จึงทำให้บริษัทมีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถล้างขาดทุนสะสมได้ภายในปี 49"

สำหรับรายได้ปีนี้บริษัทคาดรายได้ 300 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้ 223.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 27.9 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการทยอยรับรู้จากโครงการในมือของบริษัท จำนวน 3,604.39 ล้านบาท ซึ่งมี 5 โครงการ คือ 1. โครงการเขื่อนแควน้อย จ.พิษณุโลกนั้น เป็นธุรกิจร่วมค้ากับ บริษัท ยูบีซี มีมูลค่าโครงการ 3,354 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้นเพียง 10% โดยโครงการดังกล่าวก็ยังมีโครงการต่อเนื่อง 2,000 ล้านบาท 2. โครงการอาคารวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ฯมหาวิทยาลัยเกษตรฯ มูลค่าโครงการ 146.89 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นเพียง 49% 3.โครงการคลังก๊าซ บริษัท World Gas บางปะกง มูลค่า 89 ล้านบาท 4. โครงการคลังก๊าซ บริษัท World Gas ช่องนนทรี

"โดยที่บริษัทมีการเน้นรับงานราชการจำนวนมาก เนื่องจากหวังที่จะรับงานต่อเนื่องของราชการอีก เพราะยังมีงานต่อเนื่องอีก 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทได้เป็นบริษัทต้นๆ ที่จะได้รับพิจารณาให้ดำเนินโครงการ เพราะมีผลงานในการดำเนินงานแล้ว ซึ่งจะรับงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 15% และมีกำไรสุทธิ 5-8%"

นอกจากนี้ บริษัท แอลวีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ POWER โดยเป็นบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการ จำนวน 4 หน่วยงาน เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งมีงานในมือจำนวน 2 โครงการ มูลค่า 674.72 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับภาครัฐทั้งสิ้นและที่บริษัทรับงานนี้ก็จากที่หวังว่าจะมีโครงการต่อเนื่อง อีก 400 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างกำลังประมูลงานบำบัดน้ำเสียที่ ภาคใต้จำนวน 170 ล้านบาท ซึ่งคาดจะสรุปได้ภายในปีนี้ และโครงการดังกล่าวก็จะมีงานต่อเนื่องอีก 300-400 ล้านบาท

นายกิตติพัฒน อินทรเกษตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและการลงทุน บมจ.เพาเวอร์-พี กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวว่ามีกรรมการของบริษัทนำหุ้นไปขายนอกตลาดนั้น ส่วนตัวมองว่าน่าจะเป็นกลุ่มของเจ้าหนี้ที่มีการแปลงหนี้เป็นทุน เพราะจากการสำรวจพบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีการถือหุ้นของบริษัทเพียง 9 ล้านหุ้น จากเดิมที่ถือหุ้น 20 ล้าน และกลุ่มแบงก์อื่นๆ ที่เคยถือหุ้นของบริษัทได้ก็มีการขายหุ้นแล้ว และเป็นการเปลี่ยนมือของนักลงทุนรายย่อยมากกว่าเป็นกรรมการของบริษัท

นายกิตติพัฒนกล่าวต่อว่า จากการที่บริษัทมีการรับงานของบริษัท World Gas นั้น บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องกับ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) เพราะผู้ถือหุ้นและกรรมการบริหารเป็นคนละชุดกัน และบริษัทก็ได้มีการรับงานโดยพิจารณาจากราคาอย่างถูกต้อง แต่ผู้บริหารของบริษัท คือ นายราชศักดิ์ ก็มีการลงทุนในหุ้นปิคนิค บ้างซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดจำนวน 70 ล้านบาท โดยมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นที่ 761 ล้านบาท

สำหรับโครงการเขื่อนแควน้อย จ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 13% ซึ่งจะเร่งสร้างให้ได้ 20% ภายในปีนี้ โดยจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 60 ล้านบาท และโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2551

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้ราคาหุ้น POWER มีการซื้อขายนอกตลาดที่ 10-25 บาทต่อหุ้น โดยที่บริษัทมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้น 761 ล้านบาท นั้นการที่จะสามารถทำให้เป็นส่วนล้ำมูลค่าหุ้นได้ก็มีแนวทาง เช่น การเพิ่มทุน ซึ่งหากมีการเพิ่มทุนจริงก็อาจจะมีการเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงมากกว่าผู้ถือหุ้นรายย่อย

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ราคาหุ้น POWER ร้อนแรงมากในหมู่นักการเมือง ถึงขนาดที่กระแสข่าวลือออกมาเป็นระยะๆ ว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันตั้งแต่บริษัทฯ ยังไม่พร้อมจะกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยราคาที่ซื้อขายกันในขณะนี้ล่ำลือว่าสูงถึง 30 บาท ก่อนจะมีการปล่อยข่าวว่าราคาจะพุ่งไปที่ 60 บาท

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อหุ้นปิคนิคมีปัญหา หุ้น POWER ซึ่งพัวพันกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ปิคนิค ก็ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินอย่างเข้มข้นและสั่งให้แก้ไขงบการเงิน ทำให้ราคาหุ้น POWER นอกตลาดได้รับผลกระทบราคาซื้อขายลดลงมาอยู่ระดับ 10 บาทกว่า อย่างไรก็ดี ต่อมาบริษัทได้แก้ไขงบการเงินเรียบร้อยและสามารถเข้ามาซื้อขายได้อีกครั้ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us