บอร์ด กสท ล้มสรรหาซีอีโอ หลังหลอกให้คนผ่านคุณสมบัติเข้าแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งคาดว่าการสรรหาซีอีโอใหม่จะใช้เวลา 45-60 วัน

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ประธานกรรมการบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดว่า ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท ใหม่ หลังจากที่นายสมพล จันทร์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท และนายมุดตาฟา หมันงะ อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นผู้ผ่านคุณสมบัติเพียง 2 คน เข้าแสดงวิสัยทัศน์ให้บอร์ดรับทราบ ซึ่งปรากฏว่าบอร์ดไม่พอใจวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 คน โดยที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 45-60 วันในการสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ได้

ทั้งนี้ กสท เพิ่งได้รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน (CFO) คือ นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง ซึ่งอดีตเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการตลาด (CMO) คือนายมารุต บูรณะเศรษฐกุล ซึ่งเคยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท Practical Technology โดยผู้บริหารทั้ง 2 ตำแหน่งจะเข้ารับตำแหน่งได้ในวันที่ 1 ม.ค. 2549

สำหรับการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่เกิดขึ้นภายหลังจากที่นายวิทิต สัจจพงษ์ พ้นจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2548 โดยวิทิตถือเป็นผู้บริหารจากภายนอกคนแรก ตามคำสั่งมติบอร์ด กสท วาระพิเศษเมื่อ 12 พ.ค. 2548 ด้วยเหตุผลประโยชน์ส่วนตัวขัดแย้งกับองค์กร หรือ conflict of interest สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทำหนังสือตีความถึงการดำรงตำแหน่งให้กับกสท ว่าขาดคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 2518 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2543

นายมุดตาฟากล่าวภายหลังรู้ผลว่าการแสดงวิสัยทัศน์ให้บอร์ดก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้บริหารหรือนักธุรกิจที่มองออกว่า กสท มีปัญหาอะไร ควรมีธุรกิจหลัก ธุรกิจรองเป็นเช่นไร และระยะยาวควรแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งการที่ให้เหตุผลไม่พอใจวิสัยทัศน์ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมต่อผู้ที่ผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหา

"ผมคิดว่าการเรียกให้มาแสดงวิสัยทัศน์เป็นความต้องการให้จบขั้นตอนเท่านั้น เพราะผมขับรถยังไม่ถึงบ้านเลย ก็โทร.มาบอกว่าไม่ชอบวิสัยทัศน์"