|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้น บล.ยูโอบีฯ เดี้ยงรูดต่ำกว่าจองหนัก เหตุนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นหลังผู้บริหารขายทำกำไรออกมาก่อน "ยูไนเต็ด" ประเมินปีหน้าวอลุ่มตลาดเฉลี่ย 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน แนะทยอยเก็บได้ ส่วนผู้บริหาร-ที่ปรึกษาฯ หุ้นกระเบื้องตราเพชรแปลกใจราคาหุ้นต่ำจอง งงแรงขาย มาจากไหน ทั้งที่หุ้นในมือผู้ถือหุ้น อยู่ในระยะห้ามขาย แนะนักลงทุน อย่าตื่นเตรียมเสนอปันผลหากเท่าเดิมผลตอบแทนสูงกว่า 11%
วานนี้(30 พ.ย.)หุ้น บล. ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH เปิดที่ระดับ 6.40 บาทจากนั้นมีแรงขายออกมาจนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง และปิดที่ 5.85 บาทลดลง 0.55 บาทหรือ 8.59% มูลค่าการซื้อขาย 279.21ล้านบาท ในระดับราคาปิดดังกล่าวถือว่า ลดลงมาต่ำกว่าราคาจองที่กำหนดไว้หุ้นละ 6.20 บาท
แหล่งข่าวจากฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) เปิด เผยว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น UOBKH ปรับตัวลดลงเนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ UOBKH ได้เทขายหุ้นทำกำไรออกมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาซื้อขาย จึงส่งผลทำให้นักลงทุน รายย่อยเกิดความไม่มั่นใจจึงได้เทขาย หุ้นออกมาประกอบกับมีแรงเทขาย ในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ออกมามาก
"ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าปีหน้า บริษัท กฟผ.เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะช่วย ทำให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ในระดับ 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน และจะเป็นผลดีต่อธุรกิจหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงได้แนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อ UOBKH เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลงมา โดยราคาเป้าหมายสำหรับปี 2549 จะอยู่ที่ระดับ 7.50 บาท" แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ UOBKH มีอัตราการทำกำไรที่ดี มีROE ที่สูง และได้ประเมินว่าในปี 2549 มูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นโดยรวมจะคึกคักจากการเข้ามาซื้อขายหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่อย่างบริษัท กฟผ., เบียร์ช้าง, บีเอ็มซีแอล,กสท และ ทศท เป็นต้น โดยส่วนแบ่งตลาดของบล.ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย)อยู่ที่ 2.78% ต่ำกว่าที่บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดที่ 2.8-3% เล็กน้อย คาดว่าจะมีรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เข้ามา 672 ล้านบาทและคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 243 ล้านบาทหรือมีกำไรเพิ่มขึ้น 29%
นายประกิต ประทีปะเสน ประธานกรรมการ บริษัท กระเบื้อง หลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) (DRT) กล่าวว่าราคาซื้อขายหุ้น วันแรกลดลงต่ำกว่าราคา IPO ว่า ทั้งผู้บริหารและที่ปรึกษาทางการเงินรู้สึกแปลกใจที่ราคาหุ้นต่ำกว่าจอง ซึ่งไม่รู้ว่าแรงขายมาจากไหน ทั้งๆ ที่หุ้นที่อยู่ในมือผู้ถือหุ้นเดิม ทั้ง 100% อยู่ในระยะห้ามขาย และเท่าที่พูดคุยกับผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดก็ไม่มีใครที่อยากจะขายหุ้นออกมา เพราะมั่นใจในธุรกิจของ บริษัทฯว่ามีความมั่นคงแข็งแรง และ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก
นายประกิต กล่าวอีกว่า จากราคาปิดวันนี้ที่ 6.25 บาท มีค่า P/E ต่ำกว่า 6 เท่าแล้ว ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อ เทียบกับธุรกิจประเภทเดียวกันที่มีการเติบโตใกล้เคียงกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ DRT ยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผลได้ทุกปี โดยในปีที่ผ่านมาจ่ายปันผลถึงหุ้นละ 1.25 บาท ซึ่งหากบริษัทใช้มาตรฐานเดิมในการจ่ายเงินปันผลจะเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึงกว่า 16% หรือสมมติว่าจ่ายเพียง 70 สตางค์ต่อหุ้น ก็จะคิดเป็นเงิน ปันผลตอบแทนสูงถึงกว่า 11%
สำหรับเรื่องเงินปันผล คณะกรรมการบริษัทจะประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่ที่ให้ข้อมูล ตรงนี้เพื่อจะบอกกับนักลงทุนว่าอย่าตื่นตระหนกกับราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวในแต่ละวัน เพราะยิ่งราคาหุ้นต่ำ อัตราเงินปันผลก็ยิ่งสูง และบริษัทฯ ก็มีความพร้อมที่จะจ่ายเงินปันผลได้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ วานนี้ราคาหุ้น DRT ปิดที่ 6.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 73.56 ล้านบาท
|
|
|
|
|