|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ครม. อนุมัติปรับโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรรวม 9 รายการ หวังช่วยลดต้นทุน การผลิตและเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขันให้กับผู้ผลิตในประเทศ
นายสมชัย สัจจพงษ์ รอง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (29 พ.ย.) ได้มีมติให้ความเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการผลิตในประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ รวมจำนวนทั้งสิ้น 9 ประเภทย่อย
สำหรับสินค้าทั้ง 9 รายการ ประกอบด้วย สาหร่ายทะเลที่ นำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตวุ้น อะลูมินัสต์ซีเมนต์ เครื่องจักรผสม เส้นใย (Blow room) แผ่นเหล็ก TMBP ชิ้นส่วนที่นำเข้ามาใช้ประกอบเป็นอุปกรณ์ล้างไตทางช่อง ท้องระบบ 2 ถุง และโพลิอะไมด์ในลักษณะขั้นปฐมภูมิ
"การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรทั้ง 9 ประเภทย่อย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบนั้น ทางกระทรวงการคลัง ได้หารือ และได้ข้อสรุปร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย"
ส่วนรายละเอียดของการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรดังกล่าว ประกอบด้วย 1.การปรับลดอัตราอากรขาเข้าปัจจัยการผลิตที่ไม่มีผลิตในประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 8 ประเภทย่อย คือ
1. สาหร่ายทะเลสำหรับที่นำเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตวุ้นจากปัจจุบันอัตราอากรขาเข้าเท่ากับ 5% ลดลงเหลือ 1%
2. อะลูมินัสซีเมนต์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตคอนกรีตทนไฟ จากปัจจุบัน อัตราอากรขาเข้าเท่ากับ 10% ลงเหลือ 1%
3. เครื่องจักรผสมเส้นใย (Blow room) ที่ใช้ในกระบวนการ ผลิตเส้นด้ายของอุตสาหกรรม สิ่งทอ จากปัจจุบันอัตราอากรขาเข้า เท่ากับ 5% ลงเหลือ 1%
4. แผ่นเหล็ก TMBP ชนิดที่นำมาใช้ในการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก และเหล็กแผ่นเคลือบ โครเมียม โดยขยายระยะเวลาในการปรับลดอัตราอากรขาเข้าในอัตรา 1% ต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549
5. ชิ้นส่วนที่นำเข้ามาใช้ประกอบเป็นอุปกรณ์ล้างไตทางช่องท้องระบบ 2 ถุง จาก อัตราอากรขาเข้าปัจจุบันเท่ากับ 3%- 20% ลงเหลือ 1%
6. ทบทวนการปรับปรุงอัตรา อากรขาเข้าสินค้าเฉพาะโพลิอะไมด์-6 เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการผลิตในประเทศสามารถแข่งขันได้ โดยปรับเพิ่มอัตราอากรขาเข้าจากปัจจุบันเท่ากับ 5% เป็น 12.5% หลังจากนั้นจะทยอยปรับลดอัตราอากรขาเข้าลง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549
อัตราอากรขาเข้าจะปรับลดลงเหลือ 8.75% และสำหรับการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป อัตราอากรขาเข้าจะปรับลดลงเหลือ 5% เท่ากับอัตราอากรตามโครงสร้างการผลิตที่กระทรวงการคลัง กำหนด
"การดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรสินค้าทั้ง 9 ประเภทย่อยข้างต้น จะช่วยลดต้นทุนการผลิตในส่วนของภาระภาษีนำเข้า และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการผลิตในประเทศให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ รัฐสูญเสียรายได้ในส่วนของภาษีศุลกากรไปเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 8.5 ล้านบาท"
|
|
|
|
|