Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 พฤศจิกายน 2548
ทองคำขายเหยียบหมื่น แพงเป็นประวัติการณ์             
 


   
search resources

Jewelry and Gold




นายกสมาคมผู้ค้าทองคำร้องจ๊าก ราคาทองคำทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จ่อทะลุ 1 หมื่นบาท ฉุดยอดขายลดลงกว่า 30% เตือนนักเก็งกำไรระวังเจ็บตัวเนื่องจากตลาดผันผวนหนัก หลังเฮดจ์ฟันด์เข้า เก็งกำไรสนั่น ดันราคาทองคำในตลาดโลกขึ้นไปทดสอบระดับ 502 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนะคนมีเงินเย็นควรเข้าลงทุน เนื่องจากมีโอกาสเห็นราคาแตะที่ระดับ 525 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ (29 พฤศจิกายน) โดยราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ระดับ 9,750 บาท และราคาทองคำรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 9,950 บาท และมีแนวโน้มในระยะสั้นทองคำรูปพรรณจะขึ้นไปแตะระดับ 10,000 บาท เนื่องจากมีการเก็งกำไรราคา ทองคำโดยผ่านกองทุนเก็งกำไร (เฮดจ์ฟันด์) ที่หันมา เก็งกำไรทองคำ จากที่ก่อนหน้าเก็งกำไรราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงจึงโยกมาเก็งกำไรราคาทองคำแทน

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกวานนี้ (29 พ.ย.) ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดที่ระดับ 498.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยในระหว่างวันทำการมีแรงเก็ง กำไรเข้ามาต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาได้ปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 502 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นแนวต้านที่สำคัญ

"อยากจะเตือนนักลงทุนรายย่อยที่สนใจเข้ามาเก็งกำไรในทองคำให้ระมัดระวัง เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกมีความผันผวนมากจากการเก็งกำไรของเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งสังเกตได้จากวันนี้ราคาในช่วงเช้าขึ้นลงสูงถึง 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ การเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นอาจทำให้ขาดทุนได้ง่าย"นายจิตติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเป็นนักลงทุนที่มีเงินลงทุน ในระยะยาว การลงทุนในทองคำถือว่าให้ผลตอบแทน จากการลงทุนคุ้มค่า โดยในปีนี้ราคาทองคำเคยปรับตัวต่ำสุดที่ 7,850 บาท ในช่วงตรุษจีน แต่หลังจากนั้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันราคาทองคำรูปพรรณ ซึ่งรวมค่ากำเหน็จสูงถึง 10,000 บาทขึ้นไปแล้ว

นายจิตติ กล่าวว่า ภาพรวมการซื้อขายทองคำ ในประเทศปีนี้ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการ ที่ราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้น โดยยอดขายเฉลี่ยทั้งปีคาดว่าจะปรับตัวลดลงประมาณ 20-30% เนื่องจากราคาที่สูงทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน
ส่วนสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวสูงสุดถึง 502 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถือเป็นการทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปี

"ผมยังเชื่อว่าในระยะสั้นราคาทองคำในตลาดโลกมีโอกาสถอยลงมาแตะระดับ 490 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่แนวโน้มในช่วงปีหน้ายังคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าคาดว่าจะได้เห็นราคาทองคำแตะระดับ 525 ดอลลาร์ สหรัฐต่อออนซ์" นายจิตติกล่าว

ทองคำโลกทะลุ $500 ต่อออนซ์

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สัญญาซื้อขายทองคำในตลาดโลกได้พุ่งทะลุระดับ 500 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี ระหว่างการซื้อขายทางแถบเอเชียเมื่อวานนี้(29) โดยพวกดีลเลอร์อธิบายว่า เป็นเพราะเหล่านักลงทุนมุ่งหาแหล่งพักเงินทุนที่ปลอดภัย ในสภาพที่เงินเฟ้อขึ้นสูงขณะเดียวกันก็เนื่องจากนักลงทุนวงนอก ต้องการวิ่งไล่ให้ทันเกาะกระแสราคาทองคำพุ่งลิ่วๆ ในช่วงหลังๆ มานี้อีกด้วย บรรดาดีลเลอร์คาดหมายด้วยว่า ทองคำยังน่าจะไต่ขึ้นไปได้อีก ถึงแม้ในระยะสั้นแล้ว อาจจะมีการเทขายทำกำไร ตลอดจนมีภาวะราคาที่วูบวาบผันผวน

ทั้งนี้ ราคาทองคำขึ้นไปอยู่ที่ 500.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นๆ ของการซื้อขายแถบเอเชีย อันเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนธันวาคม 1987 เป็นต้นมา แต่ในตอนปิดการซื้อขายวานนี้ที่ตลาดฮ่องกงนั้น ราคาถอยลงมาอยู่แถวๆ 499.20-499.70 ดอลลาร์

โลหะมีค่าชนิดนี้เคยทำสถิติราคาสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 873 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนมกราคม 1980 แต่ได้ไหลรูดลงมาจนเหลือเพียง 250 ดอลลาร์ ในช่วงปี 2001 นี้เอง

ดีลเลอร์กล่าวว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่า ราคาน้ำมันซึ่งแพงลิ่วเป็นสถิติ ในที่สุดแล้วจะกระทบ ต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

นอกจากนั้น ยังมีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อจะไต่สูงเช่นกัน ทว่าหลังจากสร้างความหวาดหวั่นกันมากในเดือนตุลาคมแล้ว ระดับเงินเฟ้อโดยรวมก็กลับขยับขึ้นแค่พอประมาณ เนื่องจากราคาน้ำมันคลายตัวลง ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่า ความสนใจในทองคำในช่วงนี้ อาจเป็นเพียงการสะท้อนว่าพวกกองทุนขนาดใหญ่ กำลังมองหาว่าที่ตรงไหนจะกลายเป็นข่าวใหญ่ให้ทำกำไรได้มากๆ ใน รอบต่อๆ ไป จึงวิ่งเข้าวิ่งออกตลาดต่างๆ หมุนเวียน ไปเรื่อยๆ

วิลเลียม ชาน ดีลเลอร์ค้าทองคำแห่ง เดลตา เอเชีย ไฟแนนเชียล กรุ๊ป บอกว่า นักลงทุนกำลังวิ่งเข้าหาทองคำ เนื่องจากกำลังเป็นเครื่องมือการลงทุน ที่เสน่ห์แรงกว่าหุ้นหรือบอนด์ ในเวลาที่อัตราเงินเฟ้อ ทำท่าขึ้นสูง

เขาชี้ด้วยว่า ทองคำทะลุระดับ 500 ดอลลาร์คราวนี้ เนื่องจากนักลงทุนจากชาติร่ำรวยด้วยน้ำมัน ต้องการกระจายเม็ดเงินของพวกตนไปสู่พื้นที่ใหม่ๆ อาทิ พวกโลหะทั้งหลาย ซึ่งพวกเขาสามารถจอดพักผลกำไรเพื่อรอดูจังหวะต่อไป

ราคาทองคำ
ณ วันที่ 30 ธ.ค. 47 ณ วันที่ 29 พ.ย. 48
ราคารับซื้อ ราคาขายออก ราคารับซื้อ ราคาขายออก
ทองคำแท่ง 8,100 8,200 9,650 9,750
ทองคำรูปพรรณ 8,019.64 8,400 9,565.96 9,550

หน่วย : บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us