Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2540
ไทยประสิทธิฯ อายุครบ 50 ปี แต่วันนี้สุขเทพยังเหนื่อยอยู่             
 


   
search resources

ไทยประสิทธิประกันภัย
สุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา
Insurance




บริษัทไทยประสิทธิประกันภัย ฉลองครบรอบ 50 ปีไปเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นับว่าเป็นบริษัทประกันสัญชาติไทยอีกรายที่มีอายุยาวนานมากบริษัทหนึ่ง ถ้าเทียบกับอายุขับของคนก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมากพอสมควร แม้จะไม่ถึงกับต้องล้มลุกคลุกคลานแต่อุปสรรคที่ผ่าน ๆ มาแต่ละยุคแต่ละสมัยไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ย้อนไปเมื่อ 50 ปีก่อนในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2490 บริษัทประกันของตระกูลจันทร์ศรีชวาลาถือกำเนิดขึ้นภายใต้ชื่อ "บริษัท ไทยประสิทธิ ประกันภัย และคลังสินค้า จำกัด" ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ตั้งบริษัทอยู่บนถนนทรงวาด และในปี 2513 บริษัทจึงได้ย้ายมาอยู่ที่ถนนสี่พระยา เริ่มทำธุรกิจจากรับประกันบางประเภทและขยายจนครบวงจร

ต่อมา บริษัทได้เพิ่มศักยภาพในการรับประกันให้กับลูกค้ารายใหญ่ด้วยการติดต่อกับบริษัทประกันภัยในต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ เยอรมนี นอร์เวย์ อิตาลี หรือสวีเดน ฯลฯ หลังจากนั้น บริษัทได้ยกเลิกกิจการคลังสินค้าเพื่อเน้นด้านประกันภัยอย่างเดียว จากนั้นจึงเปลี่ยนชื่อบริษัทซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ไทยประสิทธิฯ เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม 'สยามวิทยา' ซึ่งมีบริษัทในเครือเป็นสถาบันการเงินอื่นอีก อาทิ ธนาคารแหลมทอง จำกัด (มหาชน) ธนาคารคาธอริค ซีเรียน (อินเดีย), บงล. คันทรี่, บค. ยูนิโก้ เฮาซิ่ง นอกจากนี้ ในกลุ่มยังมีธุรกิจอื่น ๆ ด้วย คือ ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจเหมืองแร่, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจสนามกอล์ฟ และธุรกิจสื่อสาร

เมื่อดูจากธุรกิจต่าง ๆ ในกลุ่มสยามวิทยาแล้วจะเน้นไปในด้านของสถาบันกาเรงินและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก เหตุผลในเรื่องนี้ สุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา กรรมการผู้จัดการคนปัจจุบันเคยปรารภว่า ครอบครัวของเขานั้นแท้จริงแล้วทำธุรกิจที่ดินเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งธุรกิจนี้ถ้ามีบริษัทหรือสถาบันการเงินเป็นแบ็กอัพย่อมทำให้การดำเนินธุรกิจค่อนข้างที่จะสะดวก เนื่องจากไม่ต้องไปพึ่งพาสถาบันการเงินอื่นมากนัก "เพราะการซื้อขายที่ดินจะต้องใช้การตัดสินใจที่รวดเร็ว และแม่นยำ การพึ่งพาคนอื่นมาก ๆ จะทำให้การค้าไม่ราบรื่นเท่าที่ควร"

อย่างไรก็ตาม เหตุผลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะว่ากันตามความจริงแล้ว ธุรกิจแต่ละประเภทของกลุ่มที่ดำเนินกิจการอยู่ต่างเลี้ยงตัวเองได้แล้วทั้งนั้น รวมทั้งธุรกิจประกันที่สุขเทพดูแลอยู่ด้วย

ปัจจุบัน ไทยประสิทธิฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 400 ล้านบาท มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 119 แห่ง นอกจากนั้น บริษัทยังได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ให้เปิดสาขาในต่างประเทศ คือ สาขาฮ่องกง ซึ่งถือว่าไทยประสิทธิฯ เป็นบริษัทประกันภัยแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดสาขาในต่างประเทศในขณะนี้

ผลการดำเนินงานของบริษัทปี '39 เบี้ยประกันชีวิตรับรวม 500 ล้านบาท และเบี้ยประกันวินาศภัย 700 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยประกันชีวิต 900 ล้านบาท และประกันวินาศภัยตั้งไว้ 1,200 ล้านบาท โดยในปี ค.ศ. 2000 หรือ พ.ศ. 2543 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันรวมทั้ง 2 ธุรกิจไว้ถึง 6,000 ล้านบาท

กว่าที่สุขเทพจะนำพาไทยประสิทธิฯ ให้เจริญเติบโตจนครบ 50 ปีและมีผลประกอบการเช่นนี้ เขาต้องผ่านประสบการณ์ที่หนักบ้างเบาบ้างตามกระแสของการแข่งขันที่มีอยู่ตลอดวเลา นับตั้งแต่ได้รับความไว้วางใจจาก สุระจันทร์ จันทร์ศรีชวาลา ผู้เป็นอาให้รับตำแหน่งเมื่อปี '30 และตัวของสุระจันทร์ก็ถอยตัวเองมาเป็นประธานกรรมการคอยดูอยู่ห่าง ๆ และให้คำปรึกษาบ้างเป็นครั้งคราว

ปัญหาหนึ่งที่ยังเป็นสัจธรรมอยู่คู่กับวงการประกันภัยมาโดยตลอด คือ การแย่งตัวแทนขาย เรียกได้ว่าเจอหน้าสุขเทพครั้งใดต้องได้ยินเขาปรารภถึงเรื่อนี้ทุกครั้งไป ภาวะการขาดแคลนบุคลากรเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อทางการเปิดประกันเสรี บางบริษัทแม้ยังไม่ได้ใบอนุญาตก็ดึงตัวผู้บริหารมือพระกาฬของรายเก่าไปร่วมทีมบ้างแล้ว อานิสงส์ของการแย่งตัวแทนกันครั้งนั้นส่งผลให้บางบริษัทที่ยังไม่ได้ใบอนุญาต ในขณะนี้ต้องกล้ำกลืนแบกรับต้นทุนเป็นตัวเลขร้อยล้านทีเดียว

นอกจากปัญหาอมตะแย่งตัวแทนแล้ว ปัญหาหญ้าปากคอกของวงการประกันอีกประการ คือ การกระจายความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนทั่วไปถึงประโยชน์ของการทำประกันยังตีบตัน หาคนที่เข้ามาช่วยให้เกิดผลอย่างจิรงจังได้ยากเต็มทนทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย

ในเรื่องนี้ สุขเทพได้เพียรพยายามมาโดยตลอด พยายามขอความร่วมมือต่าง ๆ อาทิ บรรจุในหลักสูตรการศึกษา และล่าสุดในงานฉลอง 50 ปี เขาและทีมงานลงทุนจัดนิทรรศการเรื่องการประกันภัยและแปลเงื่อนไขกรมธรรม์ออกมาเป็นภาษาง่าย ๆ ที่ชาวบ้านอ่านแล้วรู้เรื่อง รวมทั้งเตรียมผลักดันให้สามารถใช้ได้จริงในกรมธรรม์ ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริงนับว่าเขาได้สร้างคุณูปการให้กับวงการประกันของไทยทีเดียว

ปัญหาที่ยังคาใจของเขาในขณะนี้ คือ เรื่องกองทุนของไทยประสิทธิฯ ติดลบ ตามประกาศของกรมการประกันภัย แม้ว่าสุขเทพจะยืนยันว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ตรงกับความจริง เนื่องจากในการประเมินนั้น ทรัพย์สินบางรายการมีการประเมินต่ำกว่าราคาจริง แต่ก็ดูไม่เป็นผลนักเพราะภาพของไทยประสิทธิฯ มีปัญหากองทุนติดลบได้ติดตาติดใจคนทั่วไปซะแล้ว คำชี้แจงจึงกลายเป็นข้อแก้ตัวมากกว่า สุขเทพคงต้องหาทางอื่นเพื่อสร้างภาพดีใหม่ ๆ มาล้างให้ความจำของคนเลือนไปเพราะคนไทยลืมง่ายเป็นปกติอยู่แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอยู่เสมอไม่แพ้เรื่องอื่น คือ การแยกธุรกิจประกันตาม พ.ร.บ. ของทั้งสองธุรกิจ ปี พ.ศ. 2535 ฉบับแก้ไขใหม่ ซึ่งแรก ๆ ไทยประสิทธิฯ ก็ดูจะแข็งขันคึกคักที่จะประพฤติตัวดีตามกำหนดของทางการ โดยจะแยกกิจการประกันวินาศภัยออกไปตั้งเป็นบริษัทใหม่แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นแยกประกันชีวิตแทน มิฉะนั้นจะเสียสาขาที่ฮ่องกงไป และเมื่อพิจารณาไปเรื่อย ๆ สุขเทพยังพบอีกว่าในการแยกธุรกิจประกันชีวิตและวินาศภัยออกจากกันนั้น บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้น 70-80% เนื่องจากต้องเพิ่มบุคลากรอีกหนึ่งชุดสำหรับกิจการที่ต้องแยกออกไป โครงการนี้จึงตกไปและมีเสียงพูดจากปากสุขเทพเองว่า ถ้าจะแยกก็ขอชะลอดูจนถึงวินาทีสุดท้ายนั่นแหละ

แม้จะมีปัญหาประดังเข้ามาตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปพบเห็นได้จากสุขเทพ คือ ความสุขุมคัมภีรภาพของเขา ที่สะท้อนออกมาในคำพูด การกระทำต่าง ๆ รวมถึงลักษณะการดำเนินธุรกิจ ซึ่งอาจเรียกได้ว่า ถอดแบบมาจากสุระจันทร์ อาของเขาผู้เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตทีเดียว สุขเทพเคยกล่าวถึงสุระจันทร์อย่างชื่นชมว่า "เขาเป็นตำราที่เปิดกางไว้ให้ผมได้เรียนรู้และศึกษาอยู่เสมอ"

สุระจันทร์เปรียบเสมือนพ่อ พี่ และเพื่อนในเวลาเดียวกัน เพราะเมื่ออายุเพียง 7 ขวบ เขาได้มาอยู่ในอุปการะของผู้เป็นอา เขาจึงสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องธุรกิจการงาน "เมื่อเจอปัญหาใหญ่ ผมมักจะไปขอคำแนะนำจากคุณสุระจันทร์อยู่เสมอ ๆ"

สุขเทพถูกส่งให้เรียนยังต่างประเทศในช่วงอายุ 10 ปี อยู่ประมาณ 6-7 ปีจนจบไฮสกูลที่เททเทนฮอลล์ คอลเลจ ประเทศอังกฤษ จึงกลับมาเมืองไทยและเรียนต่อคอร์สสั้น ๆ อาทิ มินิเอ็มบีเอ ของธรรมศาสตร์ และหลักสูตรผู้บริหารชั้นสูงสถาบันธุรกิจศศินทร์

แม้ประวัติการศึกษาจะไม่ยาวเหยียดเป็นหลายหน้ากระดาษ แต่ประวัติการทำงานที่เป็นประสบการณ์ตรงก็เป็นเครื่องการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันนอกจากนั่งเป็นกรรมการผู้จัดการของไทยประสิทธิฯ แล้ว เขายังนั่งเป็นกรรมการให้กับธุรกิจในเครือหลายตำแหน่ง รวมทั้งเป็นที่ยอมรับให้ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมประกันชีวิตไทย ตั้งแต่ปี '38 จนถึงปัจจุบัน และเป็นกรรมการในสมาคมหรือองค์กรต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ อีกมาก ซึ่งสร้างความภูมิใจให้กับสุระจันทร์ไม่น้อยกับความสามารถของ "หลานรัก"

ในวาระที่ไทยประสิทธิฯ อายุครบ 50 ปี สุขเทพยังคงวุ่นอยู่กับการรีเอ็นจิเนียริ่งระบบบุคลากร และการทำงานภายในของเขาอยู่ รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ศักยภาพการบริการดีขึ้นตามที่เขาได้วางไว้และเร่งทำก่อนการเปิดเสรีจะมา แม้เรื่องเหล่านี้จะพูดกันมานาน แต่เขาก็ยังคงต้องทำอย่างต่อเนื่อง และค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นที่ตัวลูกค้าเป็นหลัก "ในอดีตการบริหารงานนั้น เราวางโครงสร้างเพื่อความสะดวกในการบริหารงาน แต่การรีเอ็นจิเนียนี้ คือ การที่เราเอาลูกค้าเป็นที่ตั้งและบริหารงานเพื่อความสะดวกของลูกค้าเป็นสำคัญ"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us