แม้สถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในปี2548 ตั้งแต่ไตรมาสแรกจนถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องมาจากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก็ตาม แต่สำหรับ "นิวัตต์ จิตตาลาน" ซีอีโอแห่ง

"เคทีซี" ยังคงยืนยันว่า บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งต่อไป โดยเฉพาะในปีหน้า2549 ประกาศเจาะลึกกลุ่มสมาชิก และหวังที่จะครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อผู้บริโภคเหนือคู่แข่ง

ยอดบัตรเครดิต-สินเชื่อปี48เติบโตน่าพอใจ

ผลการดำเนินงานของเคทีซี ในปี2548 ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งในส่วนของบัตรเครดิตและสินเชื่อผู้บริโภค โดยใน 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมามีจำนวนบัตรเครดิตเท่ากับ 1.13 ล้านบัตร เพิ่มจากปี2547 ถึง 150,000 บัตร ขณะที่สินเชื่อเพื่อผู้บริโภคยังอยู่ในภาวะที่เติบโตได้ดี โดยสินเชื่อบุคคล KTC CASH มีมูลค่ากว่า 3,800 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อบุคคลสำหรับเจ้าของกิจการ หรือ KTC Million ซึ่งถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เคทีซี ในอนาคต มีพอร์ตสินเชื่อเติบโตถึง 3,800 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 4,000 ล้านบาทในช่วงสิ้นปี 2548 ปี

"นิวัตต์ จิตตาลาน" ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2548 เคทีซี มีแผนจะเปิดบัตรเครดิตใบใหม่ เคทีซี มาสเตอร์การ์ด ไทเทเนียม เพื่อขยายฐานบัตรเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่คือนักธุรกิจและผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ ชอบการเดินทางและใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ

ปี49ตั้งเป้าครอง "แบรนด์อันดับหนึ่ง"

สำหรับภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิต ในปี 2549 มีแนวโน้มว่าจะมีอัตราขยายตัวได้ดีเช่นเดียวกับปี2548 ที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายที่มีฐานรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป และมีคุณสมบัติตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ยังมีอีกจำนวนมาก

ทิศทางในการดำเนินธุรกิจในปี2549 "นิวัตต์" ระบุว่า เคทีซียังเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และรักษาความเป็นผู้นำในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น เน้นตอบสนองผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง โดยที่ยึดแนวทางการทำงานแบบ Membership Company ลูกค้าคือ "สมาชิก"ของเคทีซี มีสิทธิได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยจะเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน จากธุรกิจที่เป็นเครือพันธมิตร

" ในปี2549 เราจะมีการจัดแคมเปญครั้งยิ่งใหญ่ตลอดปี ในคอนเซป "ใช้ชีวิตที่น่าอิจฉากับเคทีซี" เป็นนโยบายการตลาดเชิงรุกเพื่อผูกใจสมาชิกในระยะยาว ฉลองการก้าวขึ้นสู่ปีที่ 10 โดยแคมเปญนี้จะต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2550 ด้วยงบประมาณและสิทธิประโยชน์มากที่สุดเท่าที่เคทีซีเคยนำเสนอ คือมูลค่าถึง 150 ล้านบาท "

ประสาน "คาร์ฟู-ปตท." ปั้นบัตร Touch and go

"ภายใน 2 ปีนี้เราคาดว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือกับเคทีซีมากขึ้น เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้น เราต้องการทำให้บัตรใบที่ 2 มีค่ามากกว่าบัตรใบแรก โดยจะทำออกมาเป็นลักษณะบัตร Touch and go คือใช้บัตรแตะแล้วผ่านไปเลย"

อย่างไรก็ตามรูปแบบของการทำบัตรในลักษณะ Touch and go เคทีซีจะเข้าไปศึกษาและทดลองตลาด เพื่อดูความต้องการของลูกค้า โดยในเบื้องต้นจะเน้นศึกษาลูกค้าในกรุงเทพฯเป็นกลุ่มแรกก่อน สำหรับผู้ประกอบการที่เคทีซีได้ติดต่อเจรจาในเบื้องต้นและพบว่าให้ความสนใจ และเป็นพันธมิตรคือห้างสรรพสินค้า คาร์ฟู และปตท.

ซีอีโอแห่งเคทีซี ยังเปิดเผยถึงแผนงานการขยายบัตรเครดิตระดับพรีเมี่ยมใน 2549 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮ-เอนด์ ประกอบด้วย บัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า อินฟินิต และบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า แพลทินัม และจะมีการปรับปรุงโฉมศูนย์บริการ KTC Touch ทุกสาขาให้ทันสมัยและสะดวกกว่าเดิม

เปิดเกมรุกดีงพันธมิตรชู "โปรโมชั่นท่องเที่ยว"

นอกจากนี้เคทีซี ยังได้เปิดเกมรุกเพื่อเอาใจลูกค้าด้วยการจัดนำเสนอโปรโมชั่นท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้ามากขึ้น "สถาพร สิริสิงห"รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ฝ่าย Leisure Marketing เปิดเผยว่า จากการที่เคทีซีออกบัตร เคทีซี-แทรเวล วีซ่า มินิ และบัตรเครดิตเคทีซี-บางกอกแอร์เวย์ วีซ่า พบว่ามีสมาชิกให้ความสนใจสมัครสมาชิกเป็นจำนวนมาก ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีในหมวดท่องเที่ยวติดอันดับยอดใช้จ่ายสูงสุด 5 อันดับแรก

เคทีซี ได้จัดตั้งทีมบริหารจัดการท่องเที่ยว Leisure Marketing ทำหน้าที่กำหนดกลยุทธ์การตลาดเจาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและสรรหาสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก โดยได้ร่วมมือกับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวชั้นนำ สายการบินและโรงแรมรีสอร์ทต่างๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี2548 จะเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)และกลุ่มบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวชั้นนำ ส่วนการท่องเที่ยวต่างประเทศ เน้นเส้นทางในภูมิภาคใช้เวลาเดินทางสั้น เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์