เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เปิดแผนลงทุนซูเปอร์มาร์เกตปีหน้า 750 ล้านบาท ทิ้งทวนเปิดโฉม “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์” ส่งท้ายปี หลังทุ่มงบรีโนเวตเป็นคอนเซปต์ใหม่กว่า 175 ล้านบาท ดึงมือดีจากแฮร์ร็อด ร่วมทีมคัดสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เผยปีหน้าลุยต่อคอนเซปต์นี้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ด้วยงบสูงถึง 300 ล้านบาท

นายเอียน ไพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด หรือซีเอฟอาร์ ผู้บริหาร ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เกต มาร์เกตเพลสบายท็อปส์ ในเครือซีอาร์ซี เปิดเผว่า ในปีหน้าบริษัทฯได้กำหนดวงเงินลงทุนไว้ประมาณ 750 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาใหม่ในทุกรูปแบบ รวมทั้งการรีโนเวทสาขาเดิมในทุกแบรนด์เช่นกันของบริษัทฯ รวมทั้งสิ้น 20 สาขา เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจฟู้ด ซึ่งนับเป็นงบประมาณลงทุนที่มากกว่าปีนี้ถึง 50%

ขณะที่ในปี 2548 นี้ บริษัทฯได้ใช้งบประมาณลงทุนรวม 400 กว่าล้านบาท เปิดสาขาใหม่ประมาณ 13 สาขา รวมแล้วบริษัทฯมีสาขาที่เปิดบิการเวลานี้ 83 สาขา และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 86 สาขา โดยผลประกอบการในช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ มียอดขายเติบโตกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯมีส่วนแบ่งในตลาดซูเปอร์มาร์เกตโดยรวม 9%

สำหรับสาขาใหม่ล่าสุดที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ คือ การปรับปรุงมาร์ เกตเพลสบายท็อปส์สาขาเดิมที่เซ็นทรัลชิดลมใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ ซึ่งถือเป็นรูปแบบใหม่ของบริษัทฯและในตลาดรวมซูเปอร์มาร์เกตด้วย

ทั้งนี้สาขาดังกล่าวใช้งบลงทุนรวมทั้งสิ้น 175 ล้านบาท มีพื้นที่บริการประมาณ 4,000 ตารางเมตร ออกแบบโดยบริษัท ฟิทช์ จากประเทศอังกฤษ ขณะเดียวกันยังได้ผู้มีประสบการณ์โดยตรงในธุรกิจฟู้ดอย่างนาย นิค ไรท์ ไมเออร์ เข้ามาดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านสินค้านำเข้าจากต่างประเทศและเครื่องดื่มประเภทไวน์อีกด้วย จากเดิมที่ดำรงตำแหน่งเดียวกันนี้จากห้างแฮร์ร็อด และห้างเซลฟริดจ์ ในอังกฤษ และร้านเกรทฟู้ดที่ฮ่องกง มานานกว่า 15 ปี

อีกทังยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศรวม 9 ประเทศ เช่น อังกฤษ เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ฮ่องกง เป็นต้น เข้าร่วมงานด้วย รวมกับการเก็บข้อมูลจากสปอตรีวอร์ดการ์ดของบริษัทฯที่มีฐานสมาชิกมากกว่า 2.1 ล้านคนแล้ว มาใช้เป็นข้อมูลและแนวทาง เพื่อร่วมกันบริหารและพิจารณาสินค้าที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ เพื่อสร้างความแตกต่างจากซูเปอร์มาร์เกตที่อื่น โดยมีเป้าหมายที่ต้องการจะพัฒนาและยกระดับให้เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์แห่งนี้เป็นซูเปอร์มาร์เกตที่ดีที่สุดในเอเชีย

สำหรับสาขาที่ชิดลมนี้ จะมีสินค้าอาหารที่หลากหลายและครบวงจรทั้งจากในประเทศและที่นำเข้าจากต่างประเทศ รวมไปถึงสินค้าที่มีจำหน่ายเฉพาะในเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์และท็อปส์ และมาร์เกตเพลสด้วย เช่น ไวน์ที่ได้เปิดตัวโครงการ ไวน์ โปรเจ็คต์ไปแล้วไม่นานนื้บริษัทฯนำเข้าไวน์กว่า 250 ชนิด ก็จะมีจำหน่ายที่ชิดลมด้วยพร้อมกับการนำเข้าไวน์พิเศษอีกกว่า 150 แบรนด์ที่ขายเฉพาะในเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์นี้ ซึ่งมีราคาจำหน่ายไวน์ตั้งแต่ 299 บาทจนถึงมากกว่า 100,000 บาท โดยตั้งเป้าที่จะมีผู้เข้ามาใช้บริการที่เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ ชิดลมนี้เพิ่มขึ้น 30% จากเดิมที่ยังเป็นท็อปส์อยู่มีคนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 100,000 คนต่อสัปดาห์

ส่วนสาขาที่สองในคอนเซปต์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ นี้ จะเปิดอีกที่ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยปรับเปลี่ยนจากท็อปส์ซูเปอร์มาร์เกตเช่นกัน ใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท มีพื้นที่ใหญ่กว่าที่ชิดลม 3 เท่าคือมีประมาณ 12,000 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดบริการได้ประมาณกลางปีหน้า