Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2540








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2540
ยุทธการสาวไส้…ทนง VS วีรศักดิ์ งานนี้ทหารไทยมีแต่เสียกับเสีย             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารทหารไทย

   
search resources

ธนาคารทหารไทย
ทนง พิทยะ
วีรศักดิ์ อาภารักษ์




ปี 2539 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโดยรวมของทั่วโลกย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปี กล่าวเฉพาะที่ประเทศไทยนั้นถือว่าได้รับผลกระทบมาไม่น้อยทีเดียว แถมมีปัจจัยภายในประเทศช่วยทับถมอีกแรงก็ดูจะไปกันใหญ่

นอกจากวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว วงการเงิน-ธนาคารก็ดูจะไม่น้อยหน้าเช่นกันทั้งเรื่องผลประกอบการที่ลดลง, หนี้เสีย รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งและเรื่องภาพพจน์ของผู้บริหารระดับสูงหลายท่านทั้งจากภาครัฐและเอกชน

รายล่าสุดที่ฟ้องร้องเป็นคดีกันอยู่ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีทางเศรษฐกิจ หรือ สศก. จนเป็นข่าวใหญ่บนหน้าข่าวเศรษฐกิจกันเป็นระยะ ๆ คือ คู่ของ ดร.ทนง พิทยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารทหารไทยกับ ดร.วีรศักดิ์ อาภารักษ์ อดีตกรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสธนาคารเดียวกัน การเปิดศึกของคู่นี้สร้างความฮือฮาให้เกิดขึ้นกับวงการไม่น้อย แต่ไม่ถึงกับช็อกเนื่องจากเป็นคลื่นใต้น้ำรอวันระเบิดศึกกันมานานแล้ว ทั้งที่ในอดีตความสัมพันธ์ของคนคู่นี้ถือว่าเป็นเพื่อนรักกันเลยก็ว่าได้

เหตุการณ์มาปะทุขึ้นที่สำนักงานของ สศก. เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดย ดร.ทนง ได้เปิดฉากจุดชนวนขึ้นก่อน เมื่อเขาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ดร.วีรศักดิ์ ในข้อหาเปิดเผยความลับของธนาคาร หมิ่นประมาท และบิดเบือนข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ธนาคารเสียหาย ซึ่งในกรณีนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินท่านหนึ่งให้ความเห็นว่า ความจริงแล้ว ดร.วีรศักดิ์ แทบจะไม่มีอะไรเสียหายอีกแล้ว

เนื่องจากก่อนหน้านี้ เขาก็ถูก ดร.ทนง และพวก สั่งปลดออกจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่ามาแล้ว เมื่อถูกรุกไล่แบบจนตรอกขนาดนี้ จึงตอกกลับ ดร.ทนง แบบสาสมจมเขี้ยวไปเหมือนกัน เพราะเขาเปิดประเด็นฟ้องกลับ ดร.ทนง ด้วยข้อหาที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบและมีพฤติกรรมฉ้อโกงธนาคาร ในกรณีการปล่อยสินเชื่อโครงการกาดสวนแก้ว จ.เชียงใหม่

รายการสาวไส้กันระหว่าง ดร.ทนง และ ดร.วีรศักดิ์ ครั้งนี้ ผู้คนในแวดวงการเงินต่างวิเคราะห์วิจารณ์กันอย่างออกรสชาติว่า ทั้งคู่กระทำการอุกอาจราวกับนักชก เพราะทั้งคู่มิได้คำนึงถึงความเสียหายทางด้านภาพพจน์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปกับธนาคารทหารไทยแม้แต่น้อย เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนราคาแพงที่แสนเจ็บปวดที่สุดของธนาคารทหารไทย

เพราะภาพพจน์ชื่อเสียงของธนาคารได้ถูกทำลายย่อยยับไม่มีชิ้นดีอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่เป็นธนาคารใหญ่อันดับ 5 ของประเทศ ระยะต่อไปคงยากที่จะหาคนดีมีสติปัญญาหาญกล้าเข้ามาเป็นหัวเรือใหญ่รับใช้ธนาคารแห่งนี้ จะมีก็แต่พวกเขี้ยวลากดินที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น

มีคำถามเกิดขึ้นจากเพื่อนนายแบงก์หลายท่านที่ว่า ดร.ทนง และ ดร.วีรศักดิ์ เขามีเรื่องคับแค้นอะไรกันนักหนาถึงได้เปิดศึกห้ำหั่นทะลวงแค้นกันบ้าเลือดแบบนี้

ปฐมเหตุของความขัดแย้งครั้งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2539 ในครั้งนั้น ดร.ทนง เปิดฉากให้ข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า กำลังสอบพฤติกรรมการปล่อยสินเชื่อแบบช่วยเหลือพรรคพวกเพื่อนฝูงของ ดร.วีรศักดิ์ จนทำให้ธนาคารได้รับความเสียหาย

และตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นหลังจากให้ข่าวมาแล้วประมาณ 1 เดือน แต่คณะกรรมการชุดดังกล่าวก็ไม่สามารถเอาผิดกับ ดร.วีรศักดิ์ ได้จนถึงกับต้องให้ ประยูร จินดาประดิษฐ์ ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของแบงก์ เข้าไปเจรจาต่อรองแถมขอร้องให้ ดร.วีรศักดิ์ ลาออก แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ โดย ดร.วีรศักดิ์ ต่อรองกลับมาว่า ตนขออยู่ในตำแหน่งต่อจนครบวาระ ซึ่งก็เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

แหล่งข่าววงในรายหนึ่งเล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ ดร.วีรศักดิ์ ยังไม่ยอมออกตอนนี้ก็เพราะเกรงว่า ดร.ทะนง จะให้ข่าวตลบหลังเขาอีกว่า มีความผิดจริงต้องรีบชิงลาออกเสียก่อนแทนที่จะถูกไล่ออก

แต่แล้วสิ่งที่ ดร.วีรศักดิ์ คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เนื่องด้วยเมื่อปลายเดือน พ.ค. 2539 คณะกรรมการของธนาคารทหารไทยได้เปิดทำการประชุมอย่างเร่งด่วน พร้อมกับมีมติให้เลิกจ้าง ดร.วีรศักดิ์ ในทันที โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 2539 หรือในวันรุ่งขึ้นหลังจากประชุมคณะกรรมการแล้ว โดยให้เหตุผลในการเลิกจ้างว่า เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่

ไม่เพียงเท่านั้น มติการเลิกจ้างดังกล่าว คณะกรรมการของธนาคารทำได้เพียงปลด ดร.วีรศักดิ์ ออกจากการเป็นพนักงานในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสเท่านั้น ส่วนตำแหน่งกรรมการของธนาคารที่ ดร.วีรศักดิ์ ดำรงอยู่นั้นต้องใช้มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเป็นผู้มีอำนาจสั่งปลด

ดังนั้น ยุทธการขับไล่จึงเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างเร่งด่วน โดยการประชุมในครั้งนั้น คณะกรรมการของธนาคารนำโดย พล.อ.วิมล วงศ์วานิช เป็นประธานให้ประกาศเรียกประชุมผู้ถือหุ้นโดยด่วน จากนั้น 2-3 วันต่อมา ธนาคารทหารไทยก็ได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า ดร.วีรศักดิ์ ได้พ้นสภาพการเป็นผู้บริหารของธนาคารทหารไทยแล้ว เพราะมีความผิดต่อจรรยาบรรณนายธนาคาร และร่วมกับพรรคพวกในการปลอมแปลงแก้ไขเอกสารเพื่อการอนุมัติสินเชื่อ

ระหว่างนั้น ดร.วีรศักดิ์ ไม่เคยออกมาตอบโต้ข่าว "เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผมกับ ดร.ทนง ถ้าผมออกมาตอบโต้คนจะมองแบงก์นี้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าผมมาโต้ไม่เพียงภาพพจน์ของแบงก์เท่านั้น แต่ลูกค้าของแบงก์ก็จะเสียหายด้วย เพราะถูกดึงมาเกี่ยวข้องกับผม" เขาพูดด้วยท่าทีอัดอั้น

ดร.วีรศักดิ์ เชื่อว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจากกรณีโครงการกาดสวนแก้ว ซึ่งเป็นหนี้ที่มีปัญหาอยู่กับแบงก์ทหารไทยประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ตนคัดค้านมาตลอด แถมมีหนี้เสียอื่น ๆ อีกรวมแล้วเกือบ 40,000 ล้านบาท จึงเป็นเหตุผลให้ผู้ใหญ่หลายคนไม่พอใจและนำมาเป็นประเด็นในการไล่ออก

ไม่ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร แต่ภาพพจน์ของธนาคารทหารไทยดูเหมือนจะตกต่ำลงไปทุกที อีกทั้งประเด็นความขัดแย้งนี้อาจมีผลกระทบต่อราคาหุ้นของธนาคารทหารไทยด้วย ซึ่งช่วงที่ข่าวออกมานั้นราคาหุ้นได้ไหลลงไปถึง 46 บาท
ศึกครั้งนี้ ธนาคารทหารไทยมีแต่เสียกับเสีย !!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us